หนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่กวนใจคนทุกเพศทุกวัยมากที่สุดคงต้องยกให้ปัญหาสิวซึ่งเมื่อหายแล้วทิ้งร่องรอยเอาไว้บนใบหน้า แต่จี๊ดที่ใจ เพราะเห็นทีไรต้องนอยด์ทุกที วันนี้เรามีวิธีการดี ๆ สำหรับลดรอยสิวมาฝากกัน สามารถเลือกทำได้ตามความสะดวกของแต่ละคน ส่วนจะมีวิธีการใดบ้าง เลื่อนลงมาอ่านเลยค่ะ
สาเหตุของสิว
ก่อนที่เราจะไปรักษารอยแดงจากสิว ต้องรู้ต้นตอของการเกิดสิวก่อน เพราะถึงแม้จะรักษารอยสิวให้หายไปได้ แต่ถ้ามีสิวเกิดขึ้นใหม่ก็จะรำคาญใจไม่เลิกอยู่ดี ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวกันก่อน เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้กันนะคะ
ความเครียด
ความเครียดมีหลายรูปแบบและหากเครียดติดต่อกันเป็นเวลานานก็จะก่อให้เป็นเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้หลายชนิดรวมถึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวด้วย เชื่อกันว่าความเครียดอาจเกี่ยวพันธ์กับฮอร์โมนความเครียดที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนังจนเกิดการอุดตันและอักเสบกลายเป็นสิว แม้ว่าอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนก็ตาม แต่ก็ควรหาวิธีหลีกเลี่ยงความเครียดไว้ก่อน เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายด้านอื่นด้วย มาลองสำรวจความเครียดของตัวเองดูนะคะว่าเรามีปัจจัยเหล่านี้หรือเปล่า
- ใช้ชีวิตรีบเร่ง เช่น ต้องรีบไปทำงานเพราะกลัวสาย อยู่บนท้องถนนก็กังวลจนดูนาฬิกาครั้งแล้วครั้งเล่า หรือต้องรีบปั่นงานให้ทันเดดไลน์ หากใช้ชีวิตแบบนี้บ่อย ๆ ให้พิจารณาหาทางหลีกเลี่ยง จัดเวลา จัดสรรงานให้เหมาะสม เพื่อลดความเครียด หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ลองเปลี่ยนงานไปเลยก็ได้ เพราะนอกจากจะเสียสุขภาพจิตแล้ว การทำงานที่สุดท้ายต้องหาเงินมารักษาสิวยกใหญ่อาจไม่คุ้มกันค่ะ
- กังวล ความกังวลบางทีก็หลีกเลี่ยงยากนะคะ เนื่องจากบางครั้งก็เกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น เศรษฐกิจ หรือสิ่งแวดล้อมอย่างคนรอบข้างที่มีความคิดแง่ลบ หากเป็นเช่นนี้แล้ววิธีที่ง่ายที่สุดก็คือให้ควบคุมที่ตัวเราเองก่อน หาวิธีการอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเราไปโฟกัสที่ความสุข อาจจะเป็นทำงานอดิเรกที่ชอบ หามุมผ่อนคลายฟังเพลง หรือฟังคำพูดดี ๆ ซึ่งตอนนี้หาฟังได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นรูปแบบพอดแคสหรือยูทูป อย่าเพิ่งไปคิดแก้ปัญหา ให้พาตัวเองออกจากปัญหามาสักพัก เพราะอารมณ์ที่แจ่มใสจะช่วยให้เกิดความคิดที่ดีได้ค่ะ
- นอนดึก หลายคนอาจจะไม่รู้ว่านอนดึกจัดเป็นความเครียดด้วยหรือ ที่จริงแล้วการนอนดึกเป็นการฝืนร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว เราอาจจะสนุกสนานกับการเล่นเกมหรือดูซีรีส์จนเช้า ทั้ง ๆ ที่ร่างกายไม่สนุกด้วย เว้นเสียแต่ผู้ที่ทำงานตอนกลางคืนจนเคยชิน อย่างไรก็ตามควรหาเวลาพักผ่อนและจัดที่นอนให้เหมาะสม ทั้งเตียงนอนและสภาพอากาศ หรือจะใช้ที่ปิดตาเป็นตัวช่วยก็ได้ค่ะ
แพ้หรือระคายเคือง
ความเครียดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองง่าย แต่ในบางครั้งก็เป็นการแพ้ที่เกิดเฉพาะบุคคลอันมีความเกี่ยวเนื่องจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งก็ลองสังเกตตัวเองดังต่อไปนี้นะคะ
- อาหาร ใช่ว่าทุกคนจะรับประทานอาหารได้เหมือนกันทุกชนิดโดยไม่มีปัญหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะทางพันธุกรรมด้วย อาหารที่มีคนรับประทานแล้วสิวขึ้นก็มี เช่น ช็อคโกแล็ต นมวัว อาหารทอดหรืออาหารมัน ซึ่งก็ลองพิจารณาดูนะคะว่าเรารับประทานอะไรแล้วมีผลกับการเกิดสิว จะได้หลีกเลี่ยงค่ะ
- เครื่องสำอางและสกินแคร์ ผิวบอบบางแพ้ง่ายที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอหรือความเครียดต่อเนื่อง จะสังเกตได้ว่าใช้สกินแคร์ตัวไหนก็แพ้ หากเป็นสาเหตุจากความเครียดก็ต้องไปแก้ที่ความเครียด ซึ่งร่างกายจะใช้เวลาปรับอย่างต่ำสามเดือนจึงจะเป็นปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน อย่างไรก็ตามการแพ้อาจเกิดขึ้นได้เฉพาะสารเคมีที่ไม่ถูกกับเรา ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ก็เพียงแค่หลีกเลี่ยงสารเคมีตัวนั้น หากไม่รุนแรงมากอาการแพ้ก็จะดีขึ้นเองภายในหนึ่งสัปดาห์โดยไม่ต้องไปทำอะไรค่ะ
แสงแดด
บางคนโดนแดดแล้วเป็นสิวก็มีเหมือนกัน เนื่องจากแสงแดดทำให้ผิวแห้งจนเกิดการกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้น แต่เนื่องจากผิวแห้งจะลอกสะสมบนชั้นผิวจนผิวหนา เมื่อน้ำมันขับออกมาแล้วระบายไม่ได้จึงทำให้อุดตันและเกิดสิวค่ะ ดังนั้นควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้จะไม่ออกจากบ้านนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยลดเรื่องสิวแล้ว ยังชะลอริ้วรอยได้ด้วยค่ะ
ทำความสะอาดใบหน้าไม่ถูกวิธี
สำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้าควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าทุกครั้ง หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่แต่งหน้าก็ต้องล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพราะทุก ๆ วันต้องเจอกับฝุ่นควันซึ่งบางทีเราก็มองไม่เห็น ซึ่งมลภาวะเหล่านี้หากไปเกาะบนใบหน้าจะหมักหมมเป็นเชื้อโรคทำให้เกิดสิวได้ค่ะ
เอาสิ่งสกปรกไปโดนหน้า
การนั่งเท้าคางหรือชอบเอามือไปลูบคลำหน้า ทำให้สิ่งสกปรกจากมือไปติดบนหน้า หรือแม้แต่บางคนที่ไว้ผมหน้าม้าก็อาจเกิดสิวที่หน้าผากได้ เพราะโดนน้ำมันหรือฝุ่นละอองจากผมไปทำให้ระคายเคือง และอีกปัจจัยที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงนั่นก็คือเครื่องนอนหรือหมอนที่ไม่สะอาดก็ทำให้เกิดสิวได้ค่ะ
ท้องผูก
ท้องผูกเกิดได้หลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะความเครียดจนทำให้ระบบลำไส้ทำงานได้ไม่สมดุล หรืออาจเกิดจากพฤติกรรมการกินของเราเอง ซึ่งอาการท้องผูกสามารถนำไปสู่การเกิดสิวได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถขับของเสียได้ตามปกติ ทำให้ของเสียตกค้างในลำไส้และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจนกระจายไปทั่งร่างกายและพยายามขับออกมา ซึ่งสิวก็คือการที่ร่างกายขับของเสียออกมานั่นเอง หากไม่อยาท้องผูกต้องปรับเปลี่ยนวิธีการกินเบื้องต้นคือทานผักผลไม้ให้มาก ๆ ร่วมกับดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว อาจเสนริมด้วยการรับประทานโยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วย หากยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ค่ะ
วิธีป้องกันและลดรอยแดงจากสิว
เมื่อเป็นสิวไปแล้วจะทำไงได้ แต่จะปล่อยตามยถากรรมก็คงไม่ดี จะเอารองพื้นโบกหน้าให้หนากว่าเดิมก็เป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุ เรามาบรรเทารอยสิวไปพร้อมกับการป้องกันไม่ให้รอยนั้นรุนแรงกว่าเดิมกันดีกว่าค่ะ
ห้ามแกะหรือบีบสิว
เพราะจะทำให้สิวนั้นอักเสบขึ้นจนถึงขั้นลุกลามได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความช้ำให้กับผิวหนังบริเวณนั้นด้วย จะยิ่งทำให้รอยแดงนั้นลึกและรักษายากกว่าเดิม อาจใช้แผ่นแปะสิวปิดไว้เพื่อป้องกันการรบกวนใบหน้าได้อีกวิธีค่ะ
รักษาสิวให้หาย
หากเป็นสิวนานเกินหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ควรหาทางรักษา หากต้องการซื้อยามาทาเองก็ต้องเป็นยี่ห้อที่เชื่อได้ ไม่มีสารอันตรายอย่างเสตียรอยด์ซึ่งต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์เท่านั้น ถ้าจำเป็นจริง ๆ เราแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะบางทีสิวที่ขึ้นได้ อาจหายเองไม่ได้ และก็ไม่ควรปล่อยไว้นะคะ
ทายาลดรอยสิว
มียาทาสำหรับลดรอยสิวหลายยี่ห้อในท้องตลาด ก็ต้องพิจารณาจากยี่ห้อที่เชื่อถือได้ สำหรับผู้ที่ยังอยู่ในวัยรุ่นหรืออายุไม่เกิน 30 ปี รอยสิวจะหายไวเพราะร่างกายยังผลิตคอลลาเจนมาซ่อมแซมอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งถ้าไม่รีบร้อน จะไม่ทายาก็ได้ค่ะ แต่ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป การผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติลดลงแล้วทำให้รอยสิวอยู่บนใบหน้านานยิ่งขึ้นจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วย โดยส่วนผสมที่นิยมในการลดรอยสิวได้แก่
- ว่านหางจระเข้ เป็นตัวช่วยในการสมานผิว สามารถทาขณะเป็นสิวได้ด้วยเพื่อลดโอกาสการเกิดรอยแดงค่ะ
- วิตามินซี มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้รอยแดงกลายเป็นรอยดำ
- อัลฟา อาร์บูติน ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นและจุดด่างดำจางลง
อย่างไรก็ตามอาจมีส่วนผสมอื่นอีก เพราะครีมสูตรใหม่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
บำรุงผิวอย่างถูกวิธี
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการใช้สกินแคร์เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว ซึ่งข้อนี้ก็ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะการใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับผิวหน้าต่างหากจึงทำให้เกิดสิว และการไม่บำรุงผิวก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดสิวได้เช่นกัน การปล่อยให้หน้าแห้งจนผิวพยายามผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป มาเจอกับชั้นผิวที่แห้งลอกสะสมจนกลายเป็นอุดตันได้อีก ดังนั้นไม่ว่าจะมีผิวแห้งหรือผิวมันก็ควรรักษาผิวให้อยู่ในความสมดุลที่สุดจึงจะดี และอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวันด้วย ตลอดจนล้างหน้าให้สะอาดทุกเช้าเย็นด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมนะคะ
รับประทานอาหารเสริม
เป็นอีกวิธีที่นิยมเพราะหากเลือกผลิตภัณฑ์ที่เชื่อได้ก็จัดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย เพราะอาหารเสริมไม่ใช่ยา การตกค้างในร่างกายจึงไม่มาก ส่วนผสมที่นิยมสำหรับการลดรอยสิวก็จะมีดังนี้ค่ะ
- คอลลาเจน ตัวช่วยที่ดีในการซ่อมแซมความเสียหายของผิวก็คือคอลลาเจน ซึ่งที่นิยมคือคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ส่วนเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตัวเราเองควรรับประทานโปรตีนให้เพียงด้วยนะคะ เพราะโปรตีนจะเป็นตัวช่วยให้คอลลาเจนทำงานได้ดีค่ะ
- วิตามินซี ช่วยชะลอการสลายของคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส และยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย
- ไลโคปีน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังทำให้ผิวกระจ่างใสอมชมพูด้วยค่ะ
ใช้ถุงชาประคบ
ถุงชาจีนที่แช่น้ำแล้วอย่าเพิ่งทิ้งนะคะ สามารถนำมาประคบที่สิวเพื่อลดอาการบวมได้ เนื่องจากถุงชามีสารแทนิน (Tannins)มีคุณสมบัติลดอาการบวมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมของถุงใต้ตา หรืออาการบวมจากสิวก็ได้เช่นกัน เมื่อสิวทำให้ไม่บวมมากก็ลดโอกาสการเกิดรอยแดงได้ โดยถุงชาที่นำมาประคบคือถุงชาที่แช่น้ำชงชาและทิ้งไว้ให้เย็นจึงค่อยนำมาประคบสิวค่ะ
ใช้ชีสมาสก์
ถ้าเป็นรอยแดงจากสิวกระจายทั่วหน้า วิธีนี้ก็เหมาะค่ะ สามารถมาสก์ได้ตั้งแต่ตอนเป็นสิวโดยเลือกมาสก์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงที่ช่วยลดสิวหรือช่วยปลอบประโลมผิวหน้า เช่น แตงกวา ว่านหางจระเข้ หรือทีทรีออยล์ เมื่อจัดการกับสิวได้แล้วก็เลือกมาสก์สูตรที่รักษารอยแดงหรือจุดด่างดำ โดยอาจจะเป็นมาสก์ที่มีส่วนผสมของไวเทนนิ่ง ซึ่งยุคนี้มีมาสก์ให้เลือกหลายสูตรหลายยี่ห้อ และบนหน้าซองก็ระบุชัดเจนว่าเหมาะสมกับการใช้งานแบบใด ควรอ่านฉลากให้ละเอียดก่อนใช้นะคะ เพราะแต่ละยี่ห้อมีความถี่และระยะเวลาในการใช้ไม่เหมือนกันกันค่ะ
ดื่มน้ำมะเขือเทศ
เป็นวิธียอดฮิตที่น่าสนใจ เพราะในน้ำมะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินซีและไลโคปีนที่ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ เป็นตัวช่วยเรื่องผิวโดยตรง อาจจะเห็นผลช้าหน่อยแต่ให้ผลดีระยะยาวค่ะ
ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ
นี่คือง่ายสุด ๆ ไปเลย เพราะคนส่วนมากละเลยเรื่องการดื่มน้ำเปล่า โดยทั่วไปคนเราควรดื่มน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 8 แก้ว แต่มีใครเคยนับจริง ๆ ไหมว่าเราดื่มน้ำได้ตามความเหมาะสมหรือไม่ การดื่มน้ำนั้นสำคัญพอ ๆ กับการรับประทานอาหาร ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ช่วยขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลดการเกิดสิวด้วยนั่นเองค่ะ
พบแพทย์
ถ้าใครมีงบหรือต้องการความเร่งด่วนก็ไปให้คุณหมอจัดการได้เลย ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งคุณหมอก็มีวิธีทางการแพทย์เพื่อลดรอยแดงให้เราเลือกตามความเหมาะสมและความสะดวกค่ะ
การดูแลผิวหน้านั้นต้องเริ่มจากสุขภาพภายในก่อน เพราะปัญหาผิวเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรามีปัญหา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการดูแลสุขภาพพื้นฐานให้เป็นไปอย่างสมดุล จึงจะทำให้ระบบในร่างกายอยู่ในความปกติซึ่งส่งผลดีต่อผิวพรรณอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
dragonflydays
