ADVERTISEMENT
- โทนเนอร์คืออะไร
- ประโยชน์ของโทนเนอร์
- วิธีใช้โทนเนอร์
- ข้อควรรู้
- โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี
- #1Kiehl’s – Clendula Herbal Extract Toner
- #2Etude House – Soon Jung ph 5.5 Relief Toner
- #3Fresh – Rose Deep Hydration Facial Toner
- #4Vichy – Normaderm Purifying Pore Tightening Lotion
- #5Mamonde – Rose Water Toner
- #6Neutrogena – Alcohol Free Toner
- #7La Roche Posay – Effaclar Toner
- #8L’Oreal Paris – Revitalift Aqua Milke Toner
- #9Laneige – Perfect Renew Skin Refiner
- #10Smooth E – Acne Clear Whitening Toner
ปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้นจะว่าสะดวกกว่าเดิมก็ใช่ แต่ก็มีบางสิ่งที่ผุดขึ้นมาใหม่ให้เราได้ปรับตัวและเรียนรู้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามสิ่งใหม่เหล่านั้นเกิดขึ้นมาก็เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
เช่นเดียวกับการดูแลผิวหน้า จากที่เมื่อก่อนเคยแค่ล้างหน้าและทาแป้งก็จบ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากจนหลายคนบ่นว่า “ไม่ทำได้ไหม? เมื่อก่อนไม่เห็นต้องยุ่งยากขนาดนี้ยังอยู่กันมาได้” เหตุผลนี้ก็อาจจะใช่ แต่อย่าลืมว่าสภาพแวดล้อมเมื่อก่อนกับตอนนี้นั้นต่างกันลิบลับนะคะ ท่ามกลางมลภาวะที่เพิ่มขึ้นกลับทำให้ผิวของเราอ่อนแอลง และนี่จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ถือกำเนิดสิ่งที่เรียกว่า “โทนเนอร์” นั่นเองค่ะ
โทนเนอร์คืออะไร
เดิมทีโทนเนอร์นั้นมีไว้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าหลังล้างหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ยังหลงเหลืออยู่ ดังนั้นโทนเนอร์ในยุคแรกจึงเหมาะกับคนผิวมันเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วค่ะ เพราะปัจจุบันโทนเนอร์ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละสภาพผิว และยังสามารถให้ประโยชน์มากกว่าแค่การทำความสะอาด เรามาดูกันเลยค่ะว่าโทนเนอร์นั้นช่วยอะไรเราได้บ้าง
ประโยชน์ของโทนเนอร์
ปรับสภาพผิวหลังล้างหน้า
เมื่อเราล้างหน้าเสร็จแล้ว ผิวจะเสียความชุ่มชื้นออกไป หากไม่ใช้โทนเนอร์อาจทำให้ผิวขาดน้ำ ซึ่งอาการผิวขาดน้ำนั้นอาจมีได้ตั้งแต่แห้งคัน จนกระทั่งไปถึงผิวขับน้ำมันมากเกินไปเพราะขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง ดังนั้นคนที่หน้ามันนั้นบางทีก็มีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของผิวนั่นเองค่ะ
ช่วยการดูดซึมของสกินแคร์ตัวอื่น ๆ
เรียกได้ว่าเป็นตัวกลางในการสานสัมพันธ์ระหว่างสกินแคร์กับผิวก็ว่าได้ เพราะช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของสกินแคร์นั้น ๆ ด้วยค่ะ
ลดปัญหาผิวด้านต่าง ๆ
ยุคนี้มีโทนเนอร์ออกมาหลายสูตรด้วยกัน ทั้งเติมความชุ่มชื้น ลดความมัน ลดสิว หรือแม้กระทั่งช่วยให้ผิวกระจ่างใส ซึ่งสาว ๆ สามารถเลือกใช้โทนเนอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิวของตนเองได้เลยค่ะ
บำรุงผิว
ไหน ๆ ก็ต้องใช้หลังล้างหน้าแล้ว จะปรับสภาพอย่างเดียวก็ดูจะไม่คุ้มใช่ไหมคะ โทนเนอร์ยุคนี้เลยถูกออกแบบมาให้บำรุงผิวไปด้วยในตัว นับเป็นความสะดวกสบายอย่างมากเลยล่ะค่ะ
วิธีใช้โทนเนอร์
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วลงเช็ดบนใบหน้า แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้โทนเนอร์มาก่อน หรือเคยใช้แล้วก็ตาม เรามีเคล็ดลับสำหรับการใช้โทนเนอร์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ
เช็ดด้วยสำลี
นี่คือวิธีคลาสสิกที่ใช้กันมาตั้งแต่แรก แต่ขอเพิ่มเติมให้อีกนิดว่าแนะนำให้ใช้สำลีแบบแผ่น เพราะจะทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมซาบสู่ผิวได้ดีกว่าสำลีแบบก้อนค่ะ
มาสก์หน้า
เดี๋ยวนี้โทนเนอร์หลายยี่ห้อถูกออกแบบมาให้ใช้มาสก์หน้าได้ด้วย เพียงแค่หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีหรือแผ่นมาสก์เปล่าให้ชุ่ม แล้วนำมาแปะไว้บนใบหน้า ก็ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการมาสก์หน้าเลยล่ะค่ะ
ตบลงบนใบหน้า
เนื้อโทนเนอร์ของบางยี่ห้อสามารถเทใส่มือแล้วตบลงบนใบหน้าได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้สำลีเช็ดค่ะ
สเปรย์ลงบนใบหน้า
สามารถนำโทนเนอร์มาใส่ขวดแล้วสเปรย์ลงบนใบหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่นและเติมความชุ่มชื่นระหว่างวันได้เช่นกันค่ะ
ข้อควรรู้
ใช้หลังล้างหน้าเสร็จทันที
เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วควรรีบใช้โทนเนอร์ทันที อย่าปล่อยให้หน้าแห้งนานเกิน 3 นาที ไม่อย่างนั้นจะลดประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารจากโทนเนอร์ค่ะ
ใช้โทนเนอร์แล้วต้องทาสกินแคร์ทันที
เช่นกันค่ะ เมื่อผ่านขั้นตอนการใช้โทนเนอร์แล้ว ไม่ต้องรอให้โทนเนอร์แห้งสนิทนะคะ แค่ให้หน้าหมาด ๆ แล้วลงสกินแคร์ขั้นตอนต่อไปได้ทันที ทั้งนี้เพื่อให้โทนเนอร์ได้ช่วยส่งเสริมการทำงานของสกินแคร์ในชั้นต่อไปให้ดียิ่งขึ้นค่ะ
เว้นรอบดวงตา
โทนเนอร์ส่วนมากไม่แนะนำให้ใช้รอบดวงตาเพราะอาจเกิดการระคายเคือง ยกเว้นบางยี่ห้อที่ระบุว่าสามารถใช้รอบดวงตาได้ ดังนั้นต้องอ่านวิธีการใช้งานให้ละเอียดก่อนนะคะ อย่างไรก็ตามโทนเนอร์ทุกชนิดสามารถใช้ได้กับลำคอค่ะ
ชนิดของโทนเนอร์
- สูตรน้ำ คือเนื้อสัมผัสเหลวแบบน้ำนั่นเองค่ะ
- สูตรน้ำนม เนื้อสัมผัสเป็นน้ำนมสีขาวอาจข้นเล็กน้อยแต่ไม่หนักมากเท่าโลชั่นนะคะ
- สูตรเจล เนื้อสัมผัสเป็นเจลใส เหมาะสำหรับให้ความชุ่มชื้นและเติมน้ำให้ผิว อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าโทนเนอร์ ต่อให้เป็นเนื้อเจลแต่ก็ไม่ได้ข้นมากนะคะ
โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี
#1
Kiehl’s – Clendula Herbal Extract Toner
Kiehl’s – Clendula Herbal Extract Toner
1,300 บาท+
รายละเอียด | Kiehl’s – Clendula Herbal Extract Toner |
ราคา | 1,300 บาท+ |
ขนาด | 250 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
โทนเนอร์สูตรอ่อนโยนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในโทนเนอร์ที่ดีที่สุด ช่วยลดอาการระคายเคือง ทำให้ผิวแข็งแรง ด้วยสูตรสารสกัดจากดอกดาวเรืองที่ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่เจือปนสารพิษและยาฆ่าแมลง ในขวดยังมีกลีบดอกดาวเรืองให้เห็น ๆ อย่างนี้ต้องไปสอยมาใช้บ้างแล้วล่ะ
ข้อดี
#2
Etude House – Soon Jung ph 5.5 Relief Toner
Etude House – Soon Jung ph 5.5 Relief Toner
599 บาท+
รายละเอียด | Etude House – Soon Jung ph 5.5 Relief Toner |
ราคา | 599 บาท+ |
ขนาด | 120 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
โทนเนอร์น้ำใส ๆ สูตรลดการระคายเคือง ด้วยสารสกัดธรรมชาติ ปราศจากส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีกรดอ่อน ๆ เหมาะกับผิวหน้า ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวได้ดี และยังสามารถนำมามาสก์หน้าได้ด้วยค่ะ
ข้อดี
#3
Fresh – Rose Deep Hydration Facial Toner
Fresh – Rose Deep Hydration Facial Toner
1,700 บาท+
รายละเอียด | Fresh – Rose Deep Hydration Facial Toner |
ราคา | 1,700 บาท+ |
ขนาด | 250 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
ใช้สารสกัดจากน้ำมันกุหลาบ, น้ำกุหลาบ และผลกุหลาบ แถมยังมีกลีบกุหลาบให้เห็น ๆ อยู่ในขวดอีกด้วย ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นยาวนานถึง 6 ชั่วโมง ใช้น้อยชุ่มนาน สาวคนไหนผิวขาดน้ำรับรองต้องเลิฟแน่นอนค่ะ
ข้อดี
#4
Vichy – Normaderm Purifying Pore Tightening Lotion
Vichy – Normaderm Purifying Pore Tightening Lotion
580 บาท+
รายละเอียด | Vichy – Normaderm Purifying Pore Tightening Lotion |
ราคา | 580 บาท+ |
ขนาด | 200 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
ด้วยส่วนผสมของ AHA และ BHA จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน เหมาะกับผิวที่มีปัญหาสิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงจนสิวไม่กล้าบุกอีกเลยค่ะ
ข้อดี
#5
Mamonde – Rose Water Toner
Mamonde – Rose Water Toner
690 บาท+
รายละเอียด | Mamonde – Rose Water Toner |
ราคา | 690 บาท+ |
ขนาด | 250 ml. |
เนื้อสัมผัส | เจล |
ด้วยความเป็นกุหลาบที่หรูหราทำให้หลายคนติดใจในกลิ่นที่เพิ่มความสดชื่น แถมยังบำรุงผิวได้ดี ด้วยสารสกัดจากกุหลาบดามัสก์เข้มข้นกว่า 90% ช่วยเติมความชุ่มชื้นบนใบหน้าได้อย่างดีกับวิธีใช้ที่หลากหลาย ทั้งเช็ด มาสก์ ตบ และสเปรย์ รวมไปถึงผสมในรองพื้นหรือบีบีเพื่อใบหน้าฉ่ำวาวได้ด้วย
ข้อดี
#6
Neutrogena – Alcohol Free Toner
Neutrogena – Alcohol Free Toner
180 บาท+
รายละเอียด | Neutrogena – Alcohol Free Toner |
ราคา | 180 บาท+ |
ขนาด | 150 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
ถือว่าเป็นโทนเนอร์ที่ช่วยชีวิตสาว ๆ มาได้หลายคนแล้ว ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ไม่สะเทือนกระเป๋า แต่ยังเอาอยู่เรื่องประสิทธิภาพที่บำรุงผิวแถมยังลดสิวได้ดีอีกด้วย บอกต่อกันขนาดนี้ต้องลองบ้างแล้วล่ะ
ข้อดี
#7
La Roche Posay – Effaclar Toner
La Roche Posay – Effaclar Toner
860 บาท+
รายละเอียด | La Roche Posay – Effaclar Toner |
ราคา | 860 บาท+ |
ขนาด | 200 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
การันตีความน่าเชื่อถือด้วยการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่ระคายเคืองผิว ด้วยส่วนผสมหลัก LHA ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวออกอย่างอ่อนโยน พร้อม ๆ กับเติมความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมจากน้ำพุร้อนธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
ข้อดี
#8
L’Oreal Paris – Revitalift Aqua Milke Toner
L’Oreal Paris – Revitalift Aqua Milke Toner
229 บาท+
รายละเอียด | L’Oreal Paris – Revitalift Aqua Milke Toner |
ราคา | 229 บาท+ |
ขนาด | 200 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำนม |
ผิวมีริ้วรอยต้องใช้ตัวนี้ คุณภาพระดับลอรีอัลที่เคลมมาว่าเป็น “คุณค่าที่คุณคู่ควร” นั้นไม่เคยทำให้ผิดหวัง สำหรับโทนเนอร์สูตรน้ำนมตัวนี้สามารถมอบความอ่อนเยาว์ได้ทั้งใบหน้าและลำคอ ด้วยส่วนผสม Pro-Ratinal A อยากย้อนวัยจัดไปเลยค่ะ
ข้อดี
#9
Laneige – Perfect Renew Skin Refiner
Laneige – Perfect Renew Skin Refiner
1,300 บาท+
รายละเอียด | Laneige – Perfect Renew Skin Refiner |
ราคา | 1,300 บาท+ |
ขนาด | 120 ml. |
เนื้อสัมผัส | เจล |
ถ้าเป็นเรื่องเติมน้ำให้ผิวต้องยกให้ลาเนจ แบรนด์ดีมีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ สำหรับโทนเนอร์รุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้สำลีค่ะ(แต่จะใช้ก็ได้) สามารถกดใส่มือแล้วตบลงบนใบหน้าได้เลย เท่านี้ผิวก็เด้งดึ๋ง สดชื่น อิ่มฟูแล้วล่ะ
ข้อดี
#10
Smooth E – Acne Clear Whitening Toner
Smooth E – Acne Clear Whitening Toner
199 บาท+
รายละเอียด | Smooth E – Acne Clear Whitening Toner |
ราคา | 199 บาท+ |
ขนาด | 150 ml. |
เนื้อสัมผัส | น้ำ |
เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจเรื่องความอ่อนโยน เพราะใช้สารสกัดจากธรรมชาติเป็นส่วนผสมหลัก สำหรับใครที่มีปัญหาสิวและผิวแพ้ง่าย โทนเนอร์รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี จบครบทุกปัญหาผิว อวดผิวสวย ๆ ได้อย่างมั่นใจแล้วค่ะ
ข้อดี
เห็นไหมล่ะคะว่าโทนเนอร์นั้นมีดีมากกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก จะตัดขั้นตอนนี้ออกไปได้ยังไง ในเมื่อใคร ๆ เขาก็หน้าใสกันทั้งนั้น แค่เพิ่มขั้นตอนนี้อีกสักหน่อย แต่เพิ่มความสวยได้อีกเยอะ ว่าแล้วไปสอยโทนเนอร์ดี ๆ มาใช้กันเถอะ ความสวยไม่รอแล้วนะคะ
dragonflydays