ADVERTISEMENT
- #1 TLMSEQ กองทุนเปิดทาลิส MID-SMALL CAP หุ้นทุน
- #2 M-MIDSMALL-D กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่รับเงินปันผล
- #3 KTMSEQ กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap
- #4 TSF-A กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A
- #5 ASP-SME กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้
- #6 KT-mai กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น เอ็ม เอ ไอ
- #7 KKP SM CAP กองทุนเปิดเคเคพี SMALL AND MID CAP EQUITY ชนิดหน่วยลงทุนทั่วไป
- #8 TISCOMS-A กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้
- #9 ASP-THEQ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นไทย
- #10 KT-CLMVT-D กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้น ซีแอลเอ็มวีที ชนิดจ่ายเงินปันผล
หากคุณอยากลงทุนกองทุนรวม แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะลงทุนกองทุนรวมอะไรของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไหน งั้นลองเลือกจากรายชื่อกองทุนรวมที่ทำผลตอบแทนดีและสม่ำเสมอทั้ง 10 กองทุนรวมนี้ รับรองว่าเลือกได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงอีกด้วย
#1
TLMSEQ
กองทุนเปิดทาลิส MID-SMALL CAP หุ้นทุน
TLMSEQ คือกองทุนรวมที่ทำกำไรเฉลี่ยสูงสุดประจำปี 2565 กองทุนรวมดำเนินการโดยบลจ. ทาลิส (Talis) ที่เน้นลงทุนกับหุ้นประเภท Equity Small – Mid Cap หรือหุ้นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง เป็นกองทุนรวมประเภทสะสมมูลค่า นั่นหมายความว่าไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างทาง
จุดเด่นกองทุนรวม TLMSEQ
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้น Equity Small – Mid Cap หุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตสูง
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 28.92% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 12.71%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#2
M-MIDSMALL-D
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่รับเงินปันผล
M-MIDSMALL-D กองทุนรวมจากบลจ. เอ็มเอฟซี ที่เน้นการลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตสูงมาก โดยกองทุนรวมนี้จ่ายปันผลให้แก่นักลงทุนด้วย ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี ทำให้คุณมีเงินคืนระหว่างเส้นทางการลงทุนอีกด้วย
จุดเด่นกองทุนรวม M-MIDSMALL-D
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- จ่ายปันผล จ่ายปีละไม่เกิน 2 ครั้ง ซึ่งจ่ายไปแล้วรวม 5.0925 บาท นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนรวม (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565)
- ลงทุนในหุ้นประเภท Equity Small – Mid Cap หุ้นขนาดเล็กและกลาง
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 6.89% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 10.92%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#3
KTMSEQ
กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap
กองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้นประเภท Equity Small – Mid Cap หรือหุ้นของบริษัทขนาดกลางและเล็กที่มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดของบลจ. กรุงไทยที่โดดเด่นมากก็คือกองทุน KTMSEQ เนื่องจากเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังเน้นการสะสมมูลค่าเพราะไม่มีการจ่ายปันผล ทำให้ราคาของหน่วยลงทุนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
จุดเด่นกองทุน KTMSEQ
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้น Equity Small – Mid Cap หุ้นขนาดเล็กและกลาง
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 5.18% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 8.45%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#4
TSF-A
กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A
กองทุน TSF-A จากบลจ. Tisco เน้นลงทุนในหุ้นเพียง 10-15 ตัว แต่เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเติบโตสูงและสม่ำเสมอ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน และกองทุน TSF-A ยังเป็นกองทุนรวมแบบสะสมมูลค่า ไม่จ่ายปันผลระหว่างปี มูลค่าของกองทุนรวมจึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนดอกเบี้ยทบต้นทบดอก
จุดเด่นกองทุนรวม TSF-A
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี 10-15 ตัว
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 14.98% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 12.24%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#5
ASP-SME
กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้
กองทุน ASP-SME ของบลจ. Asset Plus เน้นการลงทุนในหุ้นบริษัทไทยขนาดกลางและเล็กที่มีการเติบโตแบบต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะทำกำไรแบบก้าวกระโดดเนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างซบเซา กองทุนรวมนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนและมีเงินทุนไม่สูงนัก เพราะขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุนคือ 1 บาทเท่านั้น
จุดเด่นกองทุนรวม ASP-SME
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้น Equity Small – Mid Cap หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีโอกาสเติบโตสูง
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = -1.45% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 10.82%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1 บาท
#6
KT-mai
กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น เอ็ม เอ ไอ
บลจ. กรุงไทยมีกองทุนติด 1 ใน 10 อันดับอีกหนึ่งตัวคือกองทุน KT-mai ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต และลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทางการเงิน และเงินฝาก ซึ่งกองทุนนี้จะไม่จ่ายปันผลคืนแต่นักลงทุน เพราะเป็นกองทุนที่เน้นสะสมมูลค่า เน้นให้หน่วยลงทุนมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ
จุดเด่นกองทุนรวม KT-mai
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในทรัพย์สินที่หลากหลาย เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทางการเงิน และเงินฝาก
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 18.39% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 4.15%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#7
KKP SM CAP
กองทุนเปิดเคเคพี SMALL AND MID CAP EQUITY ชนิดหน่วยลงทุนทั่วไป
บลจ. เกียรตินาคินภัทรได้ส่งกองทุน KKP SM CAP เข้ามาติด 1 ใน 10 กองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงประจำปี 2565 ด้วยเช่นกัน โดยกองทุน KKP SM CAP เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง ไม่เน้นหุ้นใน SET50 แต่เน้นหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย กองทุนรวมเป็นแบบสะสมมูลค่า ไม่จ่ายปันผลแก่นักลงทุน
จุดเด่นของกองทุนรวม KKP SM CAP
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ไม่เน้นหุ้นใน SET50
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 3.08% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 9.83%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#8
TISCOMS-A
กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้
กองทุน TISCOMS-A จาก Tisco เน้นลงทุนกับกลุ่มหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็กที่มีพื้นฐานดีมีแนวโน้มทำกำไรสูงกว่าคาเฉลี่ยตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างเงียบ เน้นบริษัทที่มูลค่าสูงกว่ามูลค่าหุ้นและขยายกิจการได้ไวกว่า เพื่อให้มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า และกองทุนรวมนี้ยังเป็นชนิดสะสมมูลค่า ไม่จ่ายปันผลระหว่างปี
จุดเด่นกองทุนรวม TISCOMS-A
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดกลางและเล็ก
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = -2.05% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 7.95%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#9
ASP-THEQ
กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นไทย
กองทุน ASP-THEQ จาก Asset Plus เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ลงทุนทั้งหุ้นขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ สิ่งสำคัญก็คือจับจังหวะการลงทุนตามภาวะตลาด ไม่ลงทุนหุ้นหรือกองทุนรวมต่างประเทศ และไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใด ๆ
จุดเด่นของกองทุนรวม ASP-THEQ
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- ไม่จ่ายปันผล
- ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = 3.92% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 4.75%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
#10
KT-CLMVT-D
กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้น ซีแอลเอ็มวีที ชนิดจ่ายเงินปันผล
อับดับสุดท้ายของกองทุนรวม ผลตอบแทนดี ประจำปี 2565 คือกองทุน KT-CLMVT-D จากบลจ. กรุงไทย ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยและต่างประเทศ อย่างกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เน้นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น โดยกองทุนรวมนี้มีนโยบายจ่ายปันผลปีหนึ่งไม่เกิน 4 ครั้งอีกด้วย หากต้องการรับปันผลระหว่างการลงทุน กองทุนรวมนี้อาจจะเหมาะกับคุณก็เป็นได้
จุดเด่นกองทุนรวม KT-CLMVT-D
- ระดับความเสี่ยงสูงถึง 6/8
- จ่ายปันผล จ่ายปีละไม่เกิน 4 ครั้ง ซึ่งจ่ายไปแล้วรวม 4 บาท นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนรวม (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565)
- ลงทุนใน
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี = -8.78% และตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนรวม = 5.04%
- ซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
แม้ว่าทั้งกองทุนรวมทั้ง 10 กองทุนนี้จะทำผลตอบแทนได้ดีมากในปี 2565 แต่ Huapood.com ก็คงต้องขอยกประโยชน์เด็ด คำเตือนก่อนการลงทุนทุกครั้งมาพูดกับทุกคนอีกรอบก่อนที่คุณจะลงเงินจำนวนใด ๆ ก็ตาม นั่นคือ ‘ควรใช้เงินเย็นในการลงทุนเพื่อไม่ให้กระทบสภาพคล่องทางการเงิน’ และ ‘ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนอนาคต’
ภาพปก freepik.com