ADVERTISEMENT
- ดอลฟินมันนี่ (Dolfin Money) คืออะไร?
- จุดเด่นและบริการของ Dolfin Money
- สรุปคุณสมบัติของดอลฟินมันนี่
- ข้อควรระวังในการใช้ Dolfin Money
- จะกู้เงินกับดอลฟินมันนี่ได้จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
- ขั้นตอนการสมัครดอลฟินมันนี่ มีอะไรบ้าง
- จะถอนเงินจาก Dolfin Money หรือนำเงินออกมาใช้ได้อย่างไร
- คำถามที่พบบ่อย
- หมัดต่อหมัด เปรียบเทียบ Dolfin Money VS LINE BK
“ดอลฟินมันนี่ เงินสดพร้อมใช้ เบาใจทุกสถานการณ์” คือสโลแกนของบริการให้เงินกู้ยืมรูปแบบใหม่ ทันสมัยในยุคนี้ ที่มีชื่อว่า “ดอลฟินมันนี่” (Dolfin Money) ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครขออนุมัติกู้ยืมเงินได้ด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา จะว่าไปแล้วทั้งบัญชีธนาคาร และวอลเล็ทหลาย ๆ แห่งก็แข่งขันด้านการให้บริการเงินกู้ยืมอยู่ไม่น้อย และในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาดูไปด้วยกันว่าดอลฟินมันนี่นั้นดีจริง ๆ ไหม มีวิธีการสมัคร และเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
ดอลฟินมันนี่ (Dolfin Money) คืออะไร?
ดอลฟินมันนี่ เป็นหนึ่งในบริการของ Dolfin Wallet ภายใต้ K-Bank ซึ่งเป็นกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการจับจ่ายใช้สอยและรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ (คล้าย ๆ กับ TrueMoney Wallet หรือ Rabbit LINE Pay) โดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุประสงค์ของอีเล็กทรอนิคส์ วอลเล็ทคือการใช้จ่าย การจ่ายบิล และการซื้อของ มากกว่าการออมหรือเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเฉย ๆ และผู้ถือวอลเล็ทมักจะถูกจูงใจให้จ่ายผ่านช่องทางนี้ด้วยโปรโมชันต่าง ๆ เช่น การลดราคา การรับเงินคืน หรือการแถมสินค้า เป็นต้น
ในส่วนของดอลฟินมันนี่จะเป็นบริการด้านการให้กู้ยืมเงินแบบง่าย ๆ เพื่อรับมือกับปัญหาเงินขาดมือ โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจแบบทุกวันนี้ ในหลาย ๆ ครั้งการมีเงินฉุกเฉินไว้ใช้ยามคับขัน ถือเป็นเรื่องจำเป็น แม้จะดูเหมือนเป็นการสร้างหนี้สิน แต่ก็มีวิธีการผ่อนชำระที่สบาย ส่งผลให้ผู้ใช้บริการสามารถประคองตัวผ่านวิกฤติต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี
บริการของดอลฟินมันนี่เทียบได้กับ เงินกู้ของ LINE BK ประเภท “วงเงินให้ยืมพร้อมใช้” ซึ่งในบทความนี้จะเปรียบเทียบคุณสมบัติกันให้ดูอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อให้เห็นภาพและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
จุดเด่นและบริการของ Dolfin Money
-
ความสะดวกรวดเร็ว
ปัจจุบันนี้ธนาคารและสถาบันการเงินต่างแข่งขันกันด้านความสะดวกรวดเร็วเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้เกิดพึงพอใจอย่างมากที่สุด เมื่อการแข่งขันสูงขึ้นผลดีจึงตกอยู่กับกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป สามารถเลือกใช้บริการได้อย่างจุใจ เพื่อเฟ้นหาตัวเลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้เงินของตัวเองให้มากที่สุด และดอลฟินมันนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่เคลมว่า “สะดวกรวดเร็ว” เพราะสามารถสมัครง่ายด้วยตัวเอง ได้ทุกที่ ทุกเวลา และนอกจากนี้ยังบอกอีกด้วยว่าอนุมัติไวสุดเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ถึงแม้ปัญหาการกู้ยืมเงินออนไลน์จะแลกมากับความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล แต่ดอลฟินมันนี่ ถือเป็นผู้ให้บริการสินเชื่ออย่างถูกกฎหมาย จึงสามารถการันตีเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เมื่อสมัครผ่านแอปพลิเคชันดอลฟินได้เป็นอย่างดี รับรองว่าไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลอย่างแน่นอน
-
ฟรีค่าธรรมเนียม
สำหรับดอลฟินนั้น ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ฟรีค่าโอนเงินเข้าบัญชี (ธนาคารกสิกรไทย)
-
ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หากยังไม่เริ่มใช้วงเงิน
ตรงนี้จะคล้ายกับบริการเงินกู้จาก LINE BK (ที่ทาง LINE ร่วมมือกับ KBank) มีวงเงินไว้ให้อุ่นใจ แต่หากยังไม่ถอนออกมาใช้ก็จะไม่คิดดอกเบี้ย การขออนุมัติวงเงินก็เหมือนกับเป็นการขอชะโงกดูเงินสำรองในตู้เซฟได้ก่อน โดยที่ยังไม่ต้องหยิบออกมาใช้ก็ได้
-
ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 90 วัน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
ตรงนี้คือข้อได้เปรียบที่ ดอลฟินมันนี่เหนือกว่า LINE BK เนื่องจาก LINE BK จะให้ดอกเบี้ย 0% ได้นานสูงสุด 2 เดือน แต่ดอลฟินมันนี่ให้สูงสุดถึง 3 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทนั่นเอง
-
ได้วงเงินสูง
จุดเด่นตรงนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีเงินเดือนสูง เพราะดอลฟินมันนี่ให้วงเงินสูง 5 เท่าของรายได้ ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท สำหรับผู้ที่เงินเดือนคูณ 5 แล้วไม่ถึง 1.5 ล้านบาท เงื่อนไขนี้ก็ไม่แตกต่างจากของ LINE BK แต่หากใครที่มีรายได้สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะสามารถกู้เงินได้สูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท ซึ่งจะได้เปรียบ LINE BK ทันที เพราะ LINE BK ให้วงเงินสูงสุดเพียง 800,000 บาท เท่านั้น
อย่างไรก็ดีในส่วนของเงื่อนไข 5 เท่าของรายได้ สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปเท่านั้น ในกรณีที่ต่ำกว่านั้น จะกู้ได้ 1.5 เท่าของรายได้ ทำให้ตรงนี้จะเสียเปรียบ LINE BK เพราะ LINE BK ไม่ได้ระบุเงื่อนไขแบบนี้ แต่ให้ 5 เท่าของรายได้ทุกระดับไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตาม
ดังนั้นแล้วคนมีรายได้สูง อยากกู้เงินเยอะ ก็จะเหมาะกับดอลฟินมันนี่ ส่วนคนรายได้ไม่สูงมากนัก ก็สามารถกู้ได้เช่นกันเพียงแต่อาจได้รับวงเงินไม่เทียบเท่ากับกลุ่มแรกนั่นเอง
-
ใช้จ่ายผ่าน Dolfin Wallet ได้สะดวก
สามารถใช้จ่ายผ่าน Dolfin Wallet ได้เหมือนใช้บัตรเครดิตโดยผูกกับวงเงินดอลฟินมันนี่
ภาพประกอบจาก Dolfinthailand.com
สรุปคุณสมบัติของดอลฟินมันนี่
วงเงินให้กู้
กู้ได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท (ผู้ที่มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป) หรือ 1.5 เท่าของรายได้ (ผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อเดือน)
อัตราดอกเบี้ย
ไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี
ระยะเวลาอนุมัติ
เร็วสุด 5 นาที หากทำธุรกรรมตั้งแต่จนจบภายใน 8.00-20.30 น. เฉพาะลูกค้าที่มีบัญชีเงินเดือนธนาคารกสิการไทย หรือมี Statement ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หากอยู่นอกเงื่อนไขนี้ จะอนุมัติภายใน 1-2 วัน
เงื่อนไขการชำระคืน
ชำระตามจำนวนเงินที่ใช้ไปจริง หรือชำระด้วยยอดขั้นต่ำอยู่ที 3% หรือ 200 บาท (เลือกจำนวนที่สูงกว่า) ต่อเดือน ตามวันครบกำหนดชำระที่ทางธนาคารกำหนด
วิธีการชำระเงิน
แบบไม่เสียค่าบริการ
- ชำระผ่าน Dolfin Application (สูงสุดไม่เกิน 49,999 บาทต่อครั้ง)
- ชำระผ่าน K Plus Application
- หักอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝากกสิกรไทย
- ชำระผ่านเคานท์เตอร์ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
แบบเสียค่าบริการ
- ชำระผ่านบริการเคานท์เตอร์เซอร์วิส ค่าบริการ 15 บาท (สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อครั้ง)
- ชำระผ่านจุดบริการเทสโก้โลตัสและบิ๊กซีทุกสาขา ค่าบริการ 10 บาท (สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อครั้ง)
คุณสมบัติอื่น ๆ ของ Dolfin Money
- ชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการร้านค้าออนไลน์ที่ร่วมรายการกับบัตร Union Pay
- บริการใช้จ่ายผ่าน Dolfin Wallet ด้วยการผูกวงเงินกับ Dolfin Money
ภาพประกอบจาก Facebook Dolfin
ข้อควรระวังในการใช้ Dolfin Money
- ทั้งดอลฟินมันนี่ และ Dolfin Wallet ถือได้ว่าเป็นบริการที่ค่อนข้างใหม่ภายใต้แบรนด์ KBank แม้ตัวธนาคารจะมีความน่าเชื่อถือเพราะเป็นแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน แต่สำหรับบริการเงินกู้ถือได้ว่าใหม่มาก ๆ และยังไม่ค่อยมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากนัก จึงเป็นหนึ่งในข้อควรระวังในการใช้บริการ
- ควรสร้างหนี้สินให้พอดีกับตัว อย่ามากจนเกินไป และอย่ากู้หลายแห่งในคราวเดียว เพราะอาจเกิดเป็นหนี้ก้อนโต เกินกำลังที่จะใช้หนี้ได้ ทั้งนี้ระบบจากดอลฟินมันนี่จะช่วยวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงเพื่อจัดหา “จำนวนเงินกู้ที่เหมาะสมที่สุด” ให้กับเราเอง เพียงแค่เรากรอกข้อมูลตามความเป็นจริง
ภาพประกอบจาก Kasikorn Bank.com
จะกู้เงินกับดอลฟินมันนี่ได้จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
- มีอายุ 21-70 ปี
- มีสัญชาติไทย
- มีแอปพลิเคชัน Dolfin และแอปพลิเคชัน K Plus ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ
- ไม่ได้ระบุรายได้ขั้นต่ำ หากมีบัญชีเงินเดือนเป็นของ KBank หรือมีรายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) เกิน 6 เดือนของ K Bank ไม่ต้องแนบเอกสารแสดงรายได้
- แต่หากไม่เข้าเงื่อนไข จะต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
กรณีเป็นพนักงานประจำ
- สลิปเงินเดือน 1 เดือน (เอกสารมีอายุไม่เกิน 3 เดือน)
- รายการเดินบัญชีย้อนหลังติดต่อกัน 6 เดือน (ธนาคารไหนก็ได้)
- 50 ทวิปีล่าสุด หรือ 50 ทวิแบบรายเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
กรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจ
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง ติดต่อกัน 6 เดือน จากธนาคารใดก็ได้
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- 50 ทวิปีล่าสุด หรือ 50 ทวิแบบรายเดือนย้อนหลัง 6 เดือน (มีตราประทับพร้อมลายเซ็นผู้จ่ายเงิน)
ภาพประกอบจาก Dolfinthailand
ขั้นตอนการสมัครดอลฟินมันนี่ มีอะไรบ้าง
- เข้าแอปพลิเคชัน Dolfin และเลือกเมนู Dolfin Money
- กดปุ่มยอมรับและสมัครเลย
- กรอกเบอร์มือถือที่ใช้สมัคร K PLUS (อย่าลืมเปิดบัญชีและสมัครกับ K PLUS ให้เรียบร้อยก่อน)
- อ่านเงื่อนไข กดยอมรับ และอนุญาต ให้ครบถ้วน
- กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ถูกต้อง
- เลือกวิธีการชำระเงิน
- เสร็จขั้นตอนการสมัคร และรอการแจ้งเตือนผลการอนุมัติ
จะถอนเงินจาก Dolfin Money หรือนำเงินออกมาใช้ได้อย่างไร
- ถอนเงินได้โดยไม่ต้องใช้บัตรได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทย ผ่านแอปพลิเคชัน KPLUS (กดเงินสดขั้นต่ำ 100 บาท กดได้ครั้งละไม่เกิน 30,000 บาท 10 ครั้ง แต่ยอดสูงสุดไม่เกิน 200,000 ต่อวัน)
- โอนวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ ไปยังบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS และ Dolfin (กำหนดคำสั่งโอนเงินไปยังบัญชีกสิกรไทยหรือแอปพลิเคชัน Dolfin ได้ทันที จำนวนเงินขั้นต่ำในการโอนคือ 5,000 และเพิ่มได้ทีละ 1,000 บาท)
- ใช้ซื้อสินค้าหรือบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่รับบัตร Union Pay (ใส่หมายเลข 16 หลัก, วันหมดอายุ และรหัส CVV หลังบัตร)
- ผูกวงเงิน Dolfin Money เข้ากับ Dolfin Wallet ได้ และไม่มีขั้นต่ำในการเบิกถอน
ภาพประกอบจาก Kasikorn Bank.com
คำถามที่พบบ่อย
หมัดต่อหมัด เปรียบเทียบ Dolfin Money VS LINE BK
นอกจากเรื่องวงเงินและระยะเวลาดอกเบี้ย 0% ของทั้งสองแล้ว Dolfin Money กับ LINE BK ก็มีข้อเปรียบเทียบภายใต้เงื่อนไขเดียวกันดังต่อไปนี้
รูปแบบเงินให้กู้
LINE BK จะมีเงินกู้สองแบบคือแบบวงเงินให้ยืมผ่อนชำระ (ให้ยืมก้อนใหญ่ทีเดียว) กับแบบวงเงินให้ยืมพร้อมใช้ (ขออนุมัติวงเงินและเบิกเมื่อต้องการใช้เงิน) แต่สำหรับดอลฟินมันนี่จะมีแบบเดียวคือแบบที่เป็นวงเงินให้ยืมพร้อมใช้
อัตราดอกเบี้ย
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของดอลฟินมันนี่จะเป็นแบบลดต้นลดดอก ไม่เกิน 25% ต่อปี ส่วน LINE BK จะอยู่ที่ร้อยละ 18-25 ต่อปี ซึ่งตรงนี้น่าจะพอ ๆ กัน เพียงแค่ใช้คำอธิบายบนหน้าเว็บไซต์แตกต่างกันเล็กน้อย
จำนวนเงินจ่ายขั้นต่ำ
ในกรณีที่รายได้ไม่เกิน 15,000 บาท จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงนี้ดอลฟินมันนี่จะต้องจ่ายขั้นต่ำ 3% หรือ 200 บาท แต่ LINE BK ต้องจ่ายขั้นต่ำที่ 2% หรือ 200 บาท ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนสูงกว่ากัน
แต่หากมีรายได้เกิน 15,000 บาท ในส่วนของดอลฟินมันนี่ จะต้องจ่ายขั้นต่ำที่ 5% หรือ 500 บาท ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนสูงกว่ากัน
กรณีที่ผิดนัดชำระ
เหมือนกันทั้งดอลฟินมันนี่และ LINE BK คือดอกเบี้ยจะถูกปรับไปที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 25% ต่อปี (ดังนั้นแล้วอย่าผิดนัดชำระ พยายามชำระให้ตรงเวลาเข้าไว้จะดีที่สุด)
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของดอลฟินมันนี่ บริการจาก K Bank ในปัจจุบันมีทางเลือกด้านสินเชื่อหรือเงินกู้ ในรูปแบบที่หลากหลายให้เลือกมากขึ้น ลองเลือกใช้แบบที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด และก่อหนี้สินอย่างพอดี อย่าให้มากจนเกินไป
ภาพประกอบจาก FB : Dolfin Wallet