Cryptocurrency คืออะไร? | 10 สกุลเงินดิจิตอลยอดนิยม

ถ้าพูดถึงเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) อย่าง Bitcoin (บิตคอย) เชื่อว่าคุณคงต้องเคยได้ยินมาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงเงินเหล่านี้มันคืออะไร สร้างขึ้นมาทำไม มีข้อดีและเสียอย่างไร รวมไปถึงสกุลเงินดิจิตอลซึ่งได้รับความเชื่อใจและนิยมจากคนทั่วโลกมีอะไรบ้าง Huapood.com ได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว

สกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) คืออะไร

สกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) คือทรัพยสินดิจิตอลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนกันในโลกออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องมีสถาบันการเงินหรือองค์กรใดทำหน้าที่เป็นส่วนกลางคอยตรวจสอบ ดูแล แลกเปลี่ยน และบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้น สามารถทำได้ผ่านคอมพิวเตอร์ของคุณเอง โดยใช้การเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยสูงมาก และแทบจะปลอมแปลงไม่ได้เลย ซึ่งระบบนั้นเรียกกันว่าบล็อกเชน (Blockchain)

หลักการทำงานของบล็อกเชน (Blockchain)

เมื่อคุณทำงานการโอนเงินดิจิตอล คอมพิวเตอร์ของทุกคนในระบบจะได้รับคำสั่งนั้นและจะช่วยกันตรวจสอบว่าคำสั่งนั้นมาจากต้นทางจริง ๆ หรือไม่ และทางต้นทางมีเงินเพียงพอหรือไม่ เมื่อระบบตรวจสอบความถูกต้องแล้วก็จะทำตามคำสั่งนั้น ๆ ส่วนข้อมูลประวัติธุรกรรมนั้นก็จะถูกแยกย่อยเก็บเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้น ไม่ได้เก็บเอาไว้ที่ใดที่เดียว เมื่อนำข้อมูลจากทุกเครื่องมาต่อ ๆ กันตามลำดับเวลาก็จะเห็นธุรกรรมทั้งหมด

ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องยากมากหาต้องการปลอมแปลกข้อมูลเหล่านั้นที่ฝากอยู่ในคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง ส่วนคอมพิวเตอร์เหล่านั้นที่ยินยอมเข้าร่วมระบบบล็อกเชน (Blockchain) และยินยอมให้ฝากข้อมูลเอาไว้ก็จะได้รับเหรียบของสกุลเงินดิจิตอลเป็นรางวัลตอนแทน หรือที่รู้จักกันดีก็คือการขุดเหมือง (Mining) นั่นเอง

ข้อดีของ Cryptocurrency

เนื่องจากหลักการทำงานแบบบล็อกเชน (Blockchain) และการเข้ารหัสขั้นสูง สกุลเงินดิจิตอลจึงปลอมแปลงได้ยาก ความปลอดภัยจึงค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนการดูแลต่ำมาก เพราะไม่ต้องมีสถาบันการเงินหรือองค์กรใด ๆ เป็นตัวกลาง

ข้อเสียของ Cryptocurrency

สกุลเงินดิจิตอลยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป จึงยังไม่อาจใช้แทนเงินจริงได้ทุกที่ สามารถใช้ในโลกออนไลน์เพียงบางแห่งหรือใช้ตามร้านค้าทั่วไปได้ค่อนข้างจำกัด บางประเทศอาจยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองสกุลเงินดิจิตอล จึงถือเป็นการใช้งานและการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง

รู้หรือไม่ โลกนี้มีสกุลเงินดิจิตอลกว่า 1,500 สกุลเลยทีเดียว แต่สกุลหลัก ๆ ที่โด่งดัง น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยจริง ๆ มีไม่กี่สกุลเท่านั้น ซึ่ง 10 สกุลเงินดิจิตอลที่ได้โด่งดังและได้รับความยิมจากผู้งานจริงมีดังนี้

#1
Bitcoin (BX)

Bitcoin (BX) บิตคอยน์ คือสกุลเงินดิจิตอลที่โด่งดังมากที่สุดในโลก ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเสถียรภาพที่สุด และยังมีมูลค่าสูงที่สุดด้วย

Bitcoin ถูกสร้างขึ้นโปรแกรมชื่อนาว่าซาโตชิ นากาโมโต (Satoshi Nakamoto) ซึ่งอาจจะเป็นเพียงนามแฝงคนคนหนึ่งหรือกลุ่มโปรแกรมเมอร์ก็ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด สาเหตุที่ทุกคนคิดว่าเขาเป็นเพียงนามแฝงและไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็เพราะว่าเราใช้แต่ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แถมยังใช้ได้คล่องมากเหมือนเจ้าของภาษาอีกด้วย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครบอกตัวตนแท้จริงของเขาได้

แรกเริ่มเดิมทีเขาต้องการให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินจริง ๆ ที่ทุกคนทั่วโลกหันมาใช้กัน แต่ว่าความผันผวนที่ขึ้นเร็วและลงเร็วกลับทำให้มันเหมือนการลงทุนเสียมากกว่า

• เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 3 มกราคม 2009
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 8,659.59 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 271,304 บาท
• มูลค่าตลาด Bitcoin ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 158,020,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,950,766,600,000 บาท

#2
Bitcoin Cash (BCH)

Bitcoin Cash (BCH) บิตคอย แคช คือ สกุลเงินดิจิตอลที่ถูกพัมฒนาแยกออกมาจาก Bitcoin (ฺBX) เพื่อแก้ปัญหาให้สามารถโอน Bitcoin ได้รวดเร็วมากกว่าเดิม

หลังจาก Bitcoin มีผู้ใช้กันมากกันขึ้น การโอนเงินและตรวจสอบจึงใช้เวลานานมากขึ้น บางครั้งนานถึง 3 วันเลยทีเดียว หากต้องการให้ระบบทำงานได้เร็วขึ้นก็ต้องเพิ่มขีดจำกัดของการขุดเหมืองให้ใหญ่ขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงว่าผลประโยนชน์จะตกไปอยู่กับบริษัทใหญ่ ๆ ที่สามารถสร้างเหมืองขนาดใหญ่ได้

ผู้สร้าง Bitcoin Cash คือคาลิน คูเลียนู (Calin Culianu) ซึ่งหนึ่งในทีมงานผู้ดูแล Bitcoin กับเพื่อนบางคนจึงออกมาสร้างสกุลเงินดิจิตอลขึ้นใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการโอนเงินและตรวจสอบให้เร็วขึ้นเพราะหวังจะให้แข่งกับการโอนเงินอื่น ๆ ได้

• เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 1 สิงหาคม 2017
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 317.88 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,957 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 5,820,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 182,308,590,000 บาท

#3
Ethereum (ETH)

Ethereum (ETH) อีเทอเรียม คืออีกหนึ่งสกุลเงินดิจิตอลที่ใช้เทคโนโลยีแบบบล็อกเชน (Blockchain) มีผู้ก่อตั้งนามว่าวิตาลิก บูเตริน (Vitalik Buterin) เด็กหนุ่มอัจฉริยะชาวรัสเซียก็เคยเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาของ Bitcoin ด้วยเช่นกัน

เขาสร้าง Ethereum ขึ้นมาโดยนำจุดบกพร่องของ Bitcoin มาปรับปรุงและเพิ่มเติมความสามารถเข้าไป และที่สำคัญคือเขายังเพิ่มความสามารถใหม่ลงไปด้วย นั่นคือเปิดให้ Ethereum เป็น Open Source ที่นักพัฒนาคนอื่น ๆ สามารถเข้ามาพัฒนาแอพลิเคชั่นลงบน Ethereum ได้อีกด้วย ดังนั้น Ethereum จึงทำได้มากกว่าแค่ธุรกรรมทางการเงินเพียงอย่างเดียว

• เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 30 กรกฎาคม 2015
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 221.72 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,947 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 24,370,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 763,621,765,000 บาท

#4
Ripple (XRP)

Ripple (XRP) ริปเปิล คือสกุลเงินดิจิตอลที่ใช้ชำระเงินกันตามเวลาจริง อย่างมากไม่เกิน 2 – 3 วินาที เมื่อลูกค้าโอนมา คุณก็จะได้รับในทันที ทั้งยังมีความแม่นยำ และมีค่าธรรมเนียมต่ำมาก ถือเป็นบริการการโอนระหว่างประเทศที่มีความรวดเร็วและเสถียรมากที่สุด

ความจริงแล้ว Ripple ถูกออกมามาเพื่อให้การโอนและรับเงินเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นรอนาน ๆ ซึ่งลูกค้าส่วนมากมักเป็นสถานบันการเงินที่ต้องการพัฒนาการโอนเงินใช้ไร้ขอบเขตมากขึ้น ทั้งยังไม่สามารถขุดเหมืองได้เองอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้พัฒนาโดยอาร์เธอร์ ไบรตโต (Arthur Britto) เดวิด ชวาร์ตซ์ (David Schwartz) และไรอัน ฟัจเกอร์ (Ryan Fugger)

• เปิดตัวครั้งแรกปี 2012
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 0.231481 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.25 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 10,130,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 317,459,005,000 บาท

#5
Litecoin (LTC)

Litecoin (LTC) ไลต์คอย คือสกุลเงินดิจิตอลที่เปิดตัวตาม Bitcoin มาติด ๆ สร้างโดยชาร์ลี ลี (Charlie Lee) ซึ่งจบจาก MIT และยังเป็นอดีตวิศวกรที่ Google อีกด้วย

Litecoin มีคุณสมบัติหลาย ๆ อย่างคล้ายบิตคอยมาก เว้นแต่ว่าทำธุรกรรมได้เร็วกว่าและเสียค่าธรรมเนียมน้อยกว่า และเพราะเหตุนี้ Litecoin จึงได้รับความนิยมไม่แพ้ Bitcoin

• เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 7 ตุลาคม 2011
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 58.49 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,832 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 3,760,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 117,896,680,000 บาท

#6
Tether (USDT)

Tether (USDT) เทเทอร์ คือ สกุลเงินดิจิตอลที่อ้างอิงกับเงินจริง หรือเรียกว่า Stablecoins โดยเราต้องนำเงินจริงไปแลกและจะได้ และมูลค่าจะไม่ขึ้นลงตามตลาดค่าเงิน จึงไม่มีความผันผวน เหมาะสำหรับใช้โอนให้กันระหว่างโลกออนไลน์เพราะสะดวกและรวดเร็วมาก โดย Tether ใช้ระบบบล็อกเชน (Blockchain) ในการทำธุรกรรม จึ่งมั่นใจได้ว่าปลอดภัยมาก ๆ

Tether สร้างขึ้นโดยบริษัทชื่อเดียวกัน สร้างขึ้นมาเพื่อหวังจะตรึงราคาของสกุลเงินดิจิตอลเอาไว้ ไม่ให้เกิดความผันผวนอย่างที่เกิดขึ้นกับสกุลเงินอื่น

• เปิดตัวครั้งแรกปี 2014
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 1ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31.36 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 4,650,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 145,803,075,000 บาท

#7
Monero (XMR)

Monero (XMR) โมเนโร คือสกุลเงินดิจิตอลที่มีความปลอดภัย ส่วนตัว และไม่สามารถติดตามรอยได้ เพราะได้เพิ่มโคดให้ต้องถอดรหีสอีกหลายชั้นมากขึ้น เพื่อให้ติดตามรอยไม่ได้ แต่นั้นก็ทำให้ระบบการขุดเหมืองทำได้ยากมากขึ้นเช่นกันเพราะต้องใช้พลังงานมากขึ้น

Monero สร้างขึ้นโดยนิโคลาส แวน ซอเบอร์ฮาเกน (Nicolas van Saberhagen) โดยต้องการให้ Monero มีการกระจายอำนาจออกไปมาก ๆ เพื่อให้สามารถขยายตัวได้มากขึ้น แต่ก็ยังต้องมีความปลอดภัยสูงมาก ๆ ด้วย

• เปิดตัวครั้งแรกปี 2014
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 66.32 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,080 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 1,160,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36,389,780,000 บาท

#8
EOS (EOS)

EOS (EOS) อีโอเอส คือสกุลเงินดิจิตอลที่ใช้ระบบบล็อกเชน (Blockchain) แต่ใช้ภาษาการเขียนโค๊ดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทั้งยังเลือกใช้โคดที่มีความรวดเร็วด้วย ทำให้ใช้เวลาในการตรวจสอบการโอนเงินได้เร็วกว่า ๆ สกุลเงินดิจิตอลอื่นอีกหลายตัว ทั้งยังรอบรับการขยายตัวที่อาจเพิ่มขึ้นมากในอนาคตด้วย ระบบจึงมีความพร้อมและเสถียรมากแม้คนจะใช้เยอะมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้นก็ตาม

EOS สร้างขึ้นโดยเดเนียล ลาริเมอร์ (Daniel Larimer) ซึ่งเคยพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลมาแล้วถึง 2 สกุลซึ่งประสบความสำเร็จค่อนข้างดีอีกด้วย เขานำข้อเสียของสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ มาปรุงแล้วสร้างเป็น EOS โดยตั้งเป้าว่าจะทำรายกายได้ถึงล้านรายการต่อวินาทีและไม่มีค่าธรรมเนียมอีกด้วย

• เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 31 มกราคม 2018
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 3.58 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 112.31 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 3,300,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 103,601,850,000 บาท

#9
Binance Coin (BNB)

Binance Coin (BNB) ไบแนนซ์ คอย คือเหรียญของแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์เทรดสกุลเงินดิจิตอลของ Binance ซึ่งผู้ใช้สามารถนำ Binance Coin ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินดิจิตอลสกุลอื่น ๆ ได้

Binance ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนา Binance Coin ขึ้นหวังจะทำเพื่อลดค่าธรรมเนียมในการเทรดเงินดิจิตอลและเพื่อให้ใช้แทนเงินจริง สามารถนำไปจ่ายค่าสินค้าและบริการอื่น ๆ ได้ด้วย

• เปิดตัวครั้งแรกปี 2017
• มูลค่าต่อเหรียญ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 19.45 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 610.62 บาท
• มูลค่าตลาด ณ วันที่ 2 มีนาคม 2020 คือ 3,030,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 95,125,335,000 บาท

#10
Libra (LIBRA)

Libra (LIBRA) ไลบรา หรือสกุลเงินดิจิตอลของ Facebook ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียชื่อดัง แม้จะยังไม่เปิดตัว แต่ก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

ส่วนเหตุผลที่ Facebook สร้าง Libra ขึ้นมาก็เพราะต้องการสร้างสกุลเงินที่สามารถใช้จ่ายได้ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งก็คือผ่านตัว Facebook เอง โดยไม่ผ่านตัวกลางใด ๆ และยังวางโครงสร้างให้สามารถรองรับการใช้งานจำนวน ๆ เอาไว้แล้วด้วย

คาดการณ์กันว่า Facebook จะเปิดตัว Libra ในปี 2020 นี้

แต่ทั้งนี้สกุลเงินดิจิตอลยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับเมืองไทย ทั้งยังมีความเสี่ยงสูง หากว่าเพื่อน ๆ ต้องการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร Huapood.com ขอแนะนำให้เลือกโบรกเกอร์หรือตัวแทนขายสินทรัพย์ดิจิตอลที่ได้รับการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ซึ่งมีด้วยกัน 7 รายคือ

1. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด >> bitkub.com
2. บริษัท บิทคอยน์ จำกัด >> bx.in.th
3. บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด >> satang.pro
4. บริษัท บิเธิร์บ จำกัด >> bitherb.net (ยังไม่เริ่มธุรกิจ)
5. บริษัท หั่วปี้ (ประเทศไทย) จำกัด >> huobi.co.th
6. บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด >> er-x.io (ยังไม่เริ่มธุรกิจ)
7. บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด >> zipmex.co.th (ยังไม่เริ่มธุรกิจ)