ADVERTISEMENT
การทำธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีให้เราสามารถเลือกใช้งานกันได้ในปัจจุบันนี้จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 รูปแบบที่จะมีความแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยประเภทแรกจะเป็นประเภทที่เรียกว่า Centralized Finance หรือ Cefi ที่จะมีการทำธุรกรรมผ่านตัวกลางรูปแบบต่าง ๆ เช่น ธนาคาร หรือสถานบันการเงินอื่น ๆ เป็นต้น ดังนั้นรายละเอียดโดยส่วนใหญ่จึงถูกกำหนดขึ้นโดยตัวกลางเหล่านั้น และการทำธุรกรรมต่าง ๆ จะเกิดขึ้นระหว่างคนมากกว่า 3 คนเป็นต้นไป ประกอบด้วย ผู้ซื้อ, ผู้ขาย และตัวกลางนั่นเอง แต่สำหรับอีกหนึ่งประเภทมีชื่อเรียกว่า Decentralized Finance หรือ Defi เป็นรูปแบบการทำธุรกรรมที่ไม่มีตัวกลาง ทำให้สามารถทำธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างส่วนตัว และไม่จำเป็นจะต้องนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ไปฝากไว้กับตัวกลาง เพื่อการทำธุรกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่ตนต้องการ และสำหรับการทำธุรกรรมแบบ Defi นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีตัวกลางค่อยให้บริการในการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ แต่ก็ยังคงต้องมีพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยน เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนหรือทำธุรกรรมกันได้สำหรับทั้ง 2 ฝ่ายด้วยเช่นกัน โดยที่พื้นที่การทำธุรกรรมในลักษณะนี้ของ Defi จะเรียกว่าเป็น Decentralized Exchange หรือ DEX ที่เรากำลังจะกล่าวถึงในช่วงต่อไปของบทความนี้นั่นเอง
Decentralized Exchange หรือ DEX คืออะไร
Decentralized Exchange หรือ DEX คือ แพลตฟอร์มหรือพื้นที่ในการทำธุรกรรมของผู้ที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลหรือเหรียญ Cryptocurrency ซึ่งจะทำการแลกเปลี่ยนกันโดยไม่มีตัวกลางในการทำธุรกรรม หรือเรียกได้ว่าเป็นการทำธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจบนระบบ Blockchain ที่จะมีการดำเนินคำสั่งซื้อต่าง ๆ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Smart Contract ที่เป็นสัญญาในการควบคุมการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ โดยที่การทำธุรกรรมในรูปแบบนี้จะทำคุณสามารถทำธุรกรรมได้แบบส่วนตัวมากยิ่งขึ้น และสามารถรองรับการทำธุรกรรมที่มีปริมาณหรือขนาดเล็กลงได้ จากการที่คุณจำเป็นจะต้องถือครองสินทรัพย์นั้น ๆ ไว้ด้วยตัวเอง และไม่จำเป็นจะต้องฝากสินทรัพย์ดังกล่าวไว้กับตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงหมายความว่าในการทำธุรกรรมต่าง ๆ บน Blockchain จะมีแค่ตัวผู้ซื้อและผู้ขายเพียงเท่านั้น ที่รับรู้การทำธุรกรรมในช่วงเวลาดังกล่าว และไม่มีบุคคลที่ 3 คอยตรวจสอบหรือบันทึกการทำธุรกรรมไว้ ส่งผลให้ในด้านของความปลอดภัยนั้นจะอยู่ในระดับที่สูงได้มากยิ่งขึ้น และสามารถเริ่มต้นการทำธุรกรรมได้ในทันทีทุกช่วงเวลาที่คุณต้องการ นอกจากนี้ในด้านของการให้บริการการทำธุรกรรมดังกล่าว ก็ยังจะมีการตรวจสอบด้านความปลอดภัย จาก Miners หรือ Validators ที่จะคอยสอดส่องในระบบ รวมไปถึงยังมี Host ของระบบที่จะทำหน้าที่ในการกระจายการทำงานไปยังส่วนต่าง ๆ เพื่อป้องกันการล่มของระบบในระหว่างการทำธุรกรรมอีกด้วยครับ
#1
PancakeSwap
| รายละเอียด | PancakeSwap |
| ประเภทของระบบ | Swap |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | – |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2020 |
Pancake Swap เป็นแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมแบบ Decentralized Exchange ที่ทำงานบนเครือข่าย Binance Smart Chain ซึ่งมีความโดดเด่นอยู่ในเรื่องของความเร็วในการทำธุรกรรม และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ที่จะทำให้คุณสามารถทำธุรกรรมรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยที่ในด้านของการใช้งานนั้นจะสามารถการันตีประสิทธิภาพได้ จากการใช้งานของผู้คนมากกว่า 2.8 ล้านคนภายในระยะเวลา 1 เดือน ด้วยการทำธุรกรรมกว่า 31 ล้านครั้ง และยอดเงินที่หมุนเวียนในระบบมากกว่า 12,000 พันล้านดอลลาร์สหัรัฐ ที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกันกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ส่งผลให้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ คุณจะสามารถเป็นไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอนครับ
ข้อดี
#2
Godex
| รายละเอียด | Godex |
| ประเภทของระบบ | – |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | 200 รายการ |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | – |
Godex เป็น DEX ความเร็วสูงที่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และช่วยให้คุณสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ของสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ภายใต้การรองรับการทำธุรกรรมของเหรียญ Cryptocurrency กว่า 200 รายการ ซึ่งจะมีการอัพเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รองรับเหรียญต่าง ๆ ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นในอนาคต โดยที่ในด้านของการทำธุรกรรมนั้นจะสามารถทำได้แบบไร้ขีดจำกัด ในด้านของจำนวนและปริมาณการทำธุรกรรมในหนึ่งครั้ง ส่งผลให้ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นและหลากหลายสำหรับคนอยู่เป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกันกับการใช้งานแพลตฟอร์มอื่น ๆ รวมไปถึงในด้านของการพัฒนาทางเว็บไซต์ ก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงให้เห็นอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ทั้งในด้านของการดำเนินงานและการพัฒนาด้านความปลอดภัยอีกด้วยครับ
ข้อดี
#3
Biswap
| รายละเอียด | Biswap |
| ประเภทของระบบ | Swap |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | – |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2021 |
Biswap จัดเป็นเว็บไซต์สำหรับการทำธุรกรรมแบบไร้ตัวกลาง ที่มีการทำงานบนเครือข่าย BSC ซึ่งใช้งานระบบอ้างอิงแบบ 3 ประเภทเป็นเจ้าแรก ส่งผลให้ในด้านของค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่าง ๆ จะค่อนข้างอยู่ในระดับที่ต่ำเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกันกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยที่ในด้านของการทำธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น จะถูกออกแบบมาสำหรับเหรียญประเภท CEP-20 ที่ทำงานบนเครือข่าย Binance Smart Chain โดยเฉพาะ เป็นผลให้ในด้านของตัวเลือกเหรียญ ที่มีออกมาให้เราสามารถเลือกทำการแลกเปลี่ยนได้ จะถือว่ามีความยืดหยุ่นและหลากหลายเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังทำให้ในด้านของความเร็วและความปลอดภัยในการใช้งาน จัดอยู่ในระดับที่สูงมากยิ่งขึ้นได้ในเวลาเดียวกันด้วยครับ
ข้อดี
#4
IDEX
| รายละเอียด | IDEX |
| ประเภทของระบบ | – |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | 200 รายการ |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2018 |
IDEX เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มแรก ๆ ที่ได้เปิดบริการมาให้เราสามารถใช้งานกันได้ภายในปี 2018 และเป็นแพลตฟอร์มที่ทำงานภายใต้การใช้งาน Smart Contract ของ Ethereum ซึ่งมีการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและต่อเนื่อง รวมไปถึงยังสามารถแสดงรายละเอียดในการทำธุรกรรมได้อย่างทันทีในทุกช่วงเวลาที่คุณต้องการ โดยที่ในส่วนของความโดดเด่นสำคัญภายในเว็บ ๆ นี้ จะเป็นเรื่องของอินเตอร์เฟสบนเว็บไซต์ ที่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน จากการจัดวางส่วนต่าง ๆ ที่ทำได้อย่างลงตัวสวยงามและเป็นระเบียบ ส่งผลให้เป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มเพื่อการทำธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่สามารถใช้งานในครั้งแรกได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายครับ
ข้อดี
#5
SushiSwap
| รายละเอียด | SushiSwap |
| ประเภทของระบบ | Swap |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | – |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2020 |
SushiSwap เป็นแพลตฟอร์สำหรับการใช้งานกับเหรียญประเภท ERC-20 ที่ได้ถูกเปิดตัวมาครั้งแรกภายในปี 2020 ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งมีลักษณะการทำงานที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันกับ UniSwap ด้วยการทำงานแบบ AMM หรือ Automated Market Maker ที่จะทำการควบคุมส่วนต่าง ๆ แบบอัตโนมัติในทันที ด้วยการควบคุมการทำงานของระบบ Smart Contract ส่วนในด้านของคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ตัวแพลตฟอร์มมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากในการตัดสินใจเลือกใช้งานนั้น จะเป็นเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยที่อยู่ในระดับสูง ไปจนถึงเรื่องของสภาพคล่องที่ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนหรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่คุณต้องการได้ในทันที รวมไปถึงยังมีนักพัฒนาที่มีความกะตือรือร้นสูง ซึ่งจะทำให้ตัวแพลตฟอร์มมีการพัฒนาที่ดีขึ้นไปอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกันครับ
ข้อดี
#6
UniSwap
| รายละเอียด | UniSwap |
| ประเภทของระบบ | Swap |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | – |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2018 |
UniSwap จัดเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ DEX ยอดนิยม ที่มีผู้คนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจในการใช้งาน เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินของเหรียญ Cryptocurrency รูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นเหรียญประเภท ERC-20 ซึ่งในด้านของการทำงานภายในตัวแอปพลิเคชันนั้น จะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้งานระบบการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในกระเป๋าเงิน Metamask ที่สามารถเชื่อมต่อและใช้งานกับตัวแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของอินเตอร์เฟสบนหน้าจอ ที่ถูกออกแบมาเพื่อการควบคุมและจัดการปัญหาต่าง ๆ ภายในระบบ ก็ยังถือว่าถูกออกแบบมาอย่างรัดกุมเข้าใจง่าย จนกระทั่งเป็นผลให้สามารถใช้งานในทุกรูปแบบของการทำธุรกรรมได้อย่างง่ายดายและไม่ซับซ้อนเลยแม้แต่น้อยครับ
ข้อดี
#7
ApolloX
| รายละเอียด | ApolloX |
| ประเภทของระบบ | Orderbook |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | – |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2021 |
ApolloX เป็นผู้ให้บริการการทำธุรกรรมทั้งในรูปแบบของ CEX และ DEX ที่ได้มีการเปิดตัวมาเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนกันยายนของปี 2021 และเปิดใช้งานระบบ Decentralized Exchange เป็นครั้งแรกภายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานจากผู้คนเป็นจำนวนมาก การันตีได้จากจำนวนของผู้ใช้งานและเงินหมุนเวียนในระดับ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำหลังจากการเปิดทำงานของทางแพลตฟอร์ม โดยที่ในด้านของการทำธุรกรรมต่าง ๆ นั้น ก็ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทำได้อย่างหลากหลายและยืดหยุ่น ทั้งในด้านของจำนวนและปริมาณในหนึ่งครั้ง รวมไปถึงยังมีความปลอดภัยระดับสูงจากการตรวจสอบและพัฒนาอย่างต่อเนื่องอีกด้วยครับ
ข้อดี
#8
SpookySwap
| รายละเอียด | SpookySwap |
| ประเภทของระบบ | – |
| ประเภทของเหรียญที่รองรับการธุรกรรมได้ | – |
| รูปแบบของอุปกรณ์ | คอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน |
| ปีที่เปิดตัว | 2021 |
SpookySwap เรียกได้ว่าเป็น DEX ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้บนเครือข่าย Fantom Opera และสามารถทำ Yield Farming ได้บนตัวแพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นช่องทางที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างกำไรได้ดีเป็นอย่างมาก จากการที่สินทรัพย์นั้น ๆ ถูกนำไปใช้สำหรับการเป็นสภาพคล่องเพิ่มเติมให้กับระบบต่าง ๆ เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับคนที่ต้องการสร้างผลกำไรให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตนครอบครองอยู่ครับ
ข้อดี
หลักเกณฑ์ในการเลือก
ในปัจจุบันนี้มีแพลตฟอร์ม Decentralized Exchange หรือ DEX ต่าง ๆ มากมาย ที่ได้เปิดบริการออกมาให้เราสามารถเลือกใช้งานกันได้อย่างหลากหลาย ทั้งในเรื่องของคุณภาพในการทำงานของแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่มาตรฐานความปลอดภัยที่ทางให้ผู้บริการใช้ในการสร้างความมั่นใจ ไปจนถึงเรื่องของค่าธรรมเนียมที่จำเป็นจะต้องจ่ายไป สำหรับการทำธุรกรรมในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้น เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วความแตกต่างที่เกิดขึ้น จะไม่ได้มีความห่างกันมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นการพิจารณาเลือกใช้งานแพลตฟอร์มใด ๆ ก็ตาม จึงจำเป็นจะต้องมองไปที่จุดเด่นในด้านอื่น ๆ เพื่อให้สามารถเลือกผู้ให้บริการได้อย่างตรงกันกับความต้องการของคุณมากยิ่งขึ้น และหากคุณเองก็เป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหาผู้บริการประเภทนี้ หรือกำลังมองหาตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกรรมในระบบ Defi ของตนเอง ก็สามารถลองมองหาตัวเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน จากทั้งหมด 7 ผู้ให้บริการที่เราได้แนะนำไปได้เลยครับ
