ADVERTISEMENT
ถ้าคุณยังคิดว่าการตัดต่อวิดีโอยากจะตายไป ทั้งวุ่นวายและซับซ้อน ขอบอกเลยว่าผิดแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีแอพตัดต่อวิดีโอที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ใช้งานก็ง่าย แค่จิ้มนิ้วลากไปมาก็เสร็จแล้ว ไม่ได้โม้นะ ง่ายขนาดนั้นเลยล่ะ และยังมีให้เลือกตั้งหลายแอพอีกด้วย
แถมแอพพวกนั้นยังมีของตกแต่งให้เล่นเพียบเลยด้วย ที่เด็ดกว่านั้นคือหลาย ๆ แอพให้บริการฟรี ๆ แม้อาจจะต้องแลกกับการติดลายน้ำของแอพหรือต้องดูวิดีโอโฆษณาบ้างสักหน่อยแต่ก็ยังคุ้มอยู่ดี และนี่คือ 10 แอพตัดต่อวิดีโอที่ง่ายมากจน Huapood.com อยากบอกต่อ
#1
KineMaster
KineMaster คือแอพตัดต่อวิดีโอตัวแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะใช้งานง่านมาก ๆ ต่อให้ไม่มีพื้นฐานการใช้งานมาก่อนก็เรียนรู้ได้ในเวลาไม่นาน แอพทำมาเพื่อมือใหม่และเพื่อให้ใช้งานได้แบบรวดเร็ว ต้องการตัดต่อที่ไม่ซับซ้อนมาก แต่ก็มีเอฟเฟกต์และเพลงให้เลือกเยอะทีเดียว ที่สำคัญที่สุดคือใช้งานได้ฟรี ๆ สำหรับการตัดต่อแบบพื้นฐาน คือเน้นง่าย ไว สะดวก ต้องคิดถึงแอพตัดต่อวิดีโอ KineMaster เลย
แต่หากใช้แบบฟรีก็ต้องแลกกับการมีโลโก้ของแอพติดไปด้วย หรือไม่ก็ต้องเสียเงินอัพเกรดแพ็กเกจเพื่อเอาโลโก้แอพออกไปและยังได้ปลดล็อกเอฟเฟกต์พิเศษ ๆ เพิ่มด้วย
ข้อดี
#2
VideoShow
VideoShow คืออีกแอพที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะตัดวิดีโอระดับ HD ถึง 4K ได้ ซึ่งถือว่าเป็นไฟล์ขนาดใหญ่มากและมีความคมชัดสูง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่ามือถือหรือแท็บเลตของคุณจะรับไฟล์หนัก ๆ ได้หรือเปล่าด้วย หากเครื่องมือสเปกไม่สูงพอ เปิดไฟล์ไม่ไหว ต่อให้แอพรับไหวก็ไม่ประโยชน์อยู่ดี
ส่วนเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ก็ไม่น้อยหน้าแอพอื่น ๆ เช่นกัน ทั้งเอฟเฟกต์ระหว่างเปลี่ยนฉากวิดีโอ เพิ่มตัวการ์ตูนหรือภาพสติกเกอร์ จะใส่ข้อความก็ได้ หรือแม้แต่เพิ่มฟิลเตอร์ให้ทั้งคนและวิวสวยปิ๊งก็ยังได้ ทำเสร็จแล้วก็แชร์ไปยังโซเชียลมีเดียได้ทันที สะดวกมากจริง ๆ ใช้งานก็ง่ายมากด้วย ต่อให้เป็นมือใหม่ก็ทำได้
VideoShow ฟรีก็จริง แต่ว่าต้องก็แลกกับการที่มีลายน้ำของแอพติดอยู่บนวิดีโอ หากต้องการลบลายน้ำออกก็ต้องเสียเงินปลดล็อกฟีเจอร์นี้
ข้อดี
#3
Magisto
ถ้าคุณไม่เก่งภาษาอังกฤษ แนะนำให้โหลด Magisto Video Editor ลงเครื่องด่วน ๆ เลยค่ะ เพราะแอพนี้มีเมนูภาษาไทยด้วย แถมยังใช้ง่ายอีก เพราะว่าแอพมีเท็มแพลตเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว จัดเซตไว้ให้เลยทั้งธีมของวิดีโอ โทนสี สไตล์ สติกเกอร์ รูปแบบอักษร รวมไปถึงเพลง สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่ใส่วิดีโอของคุณลงไปเท่านั้นเอง! ง่ายมั้ยล่ะ
Magisto Video Editor แบบฟรีจะจำกัดการใช้งาน มีเท็มแพลต เพลง ภาพ และอื่น ๆ ให้เลือกน้อยกว่าแบบเสียเงิน และยังมีโฆษณาค่อนข้างเยอะด้วย
ข้อดี
#4
VivaVideo
VivaVideo เหมาะสำหรับตัดวิดีโอสั้น ๆ ไม่ต้องการเนื้อหาแบบยาว ๆ แต่เน้นเอฟเฟกต์น่ารักมุ้งมิ้ง หรือเท่ ๆ แต่แปลกตา เพื่อสร้างความประทับใจให้เพื่อน ๆ หรือผู้ติดตามมากกว่าจะเล่าจะเรื่องยาว ๆ เสียมากกว่า หรือเอาไว้ใช้เปลี่ยนรูปถ่ายธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นสไลด์วิดีโอที่มีสติกเกอร์และข้อความขยับไปมาก็ทำได้เช่นกัน แถมยังทำได้ง่ายมากด้วย เพราะออกแบบมาให้ใช้กับงานตัดที่ต้องการความรวดเร็วเป็นหลัก
แต่ VivaVideo ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน คือหากใช้แบบฟรีจะมีลายน้ำอยู่บนวิดีโอที่ตัดเสร็จแล้ว และพวกภาพหรือเอฟเฟกต์ก็มีให้ใช้อย่างจำกัด อันที่ดี ๆ เจ๋ง ๆ ก็มักต้องเสียเงินอัพเกรดแพ็กเกจเสียก่อนถึงจะใช้ได้ แต่ถ้าตัดเล่น ๆ ลงโซเชียลก็ถือว่าเป็นแอพตัดวิดีโอที่ดีตัวหนึ่งเลย
ข้อดี
#5
Adobe Premiere Rush
ถ้าเพื่อน ๆ เคยใช้โปรแกรมของ Adobe มาก่อนก็ขอให้เชื่อมั่นในแอพ Adobe Premiere Rush ได้เลยเพราะว่าทำโดยบริษัทเดียวกัน
Adobe Premiere Rush ถือเป็นแอพตัดต่อแบบจัดเต็มสุด ๆ เพราะว่าย่อความสามารถมาจากโปรแกรมตัดต่อชื่อดังอย่าง Premiere Pro เพียงแค่ปรับให้ทำง่ายขึ้นผ่านมือถือหรือแท็บเล็ต ใช่แล้ว มันไม่ซับซ้อนและยุ่งยากเท่า Premiere Pro เลยสักนิด ต่อให้ไม่เคยตัดต่อมาก่อนก็ทำได้แน่ แค่ลากและวางเท่านั้นเอง ที่เด็ดกว่านั้นก็คือสามารถ Sync กับโปรแกรม Premiere Pro โปรผ่าน Creative Cloud ได้ จะเปลี่ยนโหมดสลับไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์ก็สะดวกมาก
ฟังดูดีมาก ๆ ใช่มั้ยล่ะ แต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือหากอยากใช้งาน Adobe Premiere Rush ก็ต้องเสียเงินซื้อเท่านั้น เว้นแต่ว่าคุณใช้เป็นสมาชิกรายเดือนของ Adobe แบบทุกโปรแกรมหรือเฉพาะ Premiere Pro ถึงจะได้ใช้งานแอพนี้ฟรี
ข้อดี
#6
InShot
InShot คือแอพตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานง่ายมาก ๆ ได้รับความนิยมมากที่สุดตอนนี้เลยทีเดียว เพราะว่าทำได้ตั้งแต่ตัดวิดีโอ ตัดต่อภาพ ใส่เพลง เพิ่มเอฟเฟกต์ นำภาพมาต่อกันเป็น Collage เรียกว่ามีทุกฟีเจอร์ที่แอพตัดต่อวิดีโอควรจะมีเลยล่ะ
แต่ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ InShot ยังสามารถเบลอแบ็กกราวนด์หรือพื้นหลังได้อีกนะ เยี่ยมเลยใช่มั้ยล่ะ แถมตัดต่อเสร็จแล้วก็แชร์ไปยังโซเชียลมีเดียได้เลยด้วย ไม่ต้องเซฟลงเครื่องก่อน เรียกว่าจบครบได้ทุกอย่างในแอพเดียว
แต่สิ่งเดียวอาจกวนใจคุณก็คือ ลายน้ำและโฆษณาที่คุณจะต้องเห็นบ่อย ๆ หากใช้ InShot แบบฟรี
ข้อดี
#7
FilmoraGo
FilmoraGo คือแอพตัดวิดีโอฟรีที่พลาดไม่ได้เช่นกัน เพราะมีฟีเจอร์สำหรับการตัดวิดีโอครบถ้วน ทั้งตัดต่อภาพ ตัดเสียง ใส่เพลง เพิ่มฟิลเตอร์ แถมยังมีฟีเจอร์เก๋ ๆ ปรับวิดีโอให้มีสไตล์แบบหนังฟิล์มได้ด้วยนะ ซึ่งบอกเลยว่ามันเก๋มาก! หลังจากตัดต่อเสร็จเรียบร้อยก็สามารถแชร์วิดีโอจาก FilmoraGo ไปยัง Instagram, Facebook และ YouTube ได้ทันทีเลย
FilmoraGo มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน หากต้องการแบบฟรีก็จะถูกจำกัดให้ใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เพียงบางส่วน แถมยังมีลายน้ำติดมาด้วย
ข้อดี
#8
Quik
หากว่าคุณใช้กล้อง GoPro อยู่ล่ะก็ ต้องเคยใช้ Quik แอพตัดต่อวิดีโอสำหรับกล้องแอ็กชั่นตัวนี้โดยเฉพาะ และไม่ต้องห่วงว่าจะใช้งานยาก เพราะก็ใช้ง่ายไม่แพ้กันกล้องเลยล่ะ แค่เลือกรูปภาพและวิดีโอที่ต้องการมาต่อกัน เพิ่มเอฟเฟกต์ ใส่เสียงเพลง เลือกฟิลเตอร์ที่มาให้เพียบ เท่านี้คุณก็จะได้วิดีโอไปอวดเพื่อน ๆ แล้ว ง่ายมั้ยล่ะ ทำได้เร็วสมกับชื่อ Quik เหมาะสำหรับการตัดวิดีโอแบบสั้น ๆ เร็ว ๆ ที่สุดเลยล่ะ
ที่สำคัญที่สุดก็คือแอพ Quik ให้คุณโหลดมาใช้ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียเงินสักนิด
ข้อดี
#9
Vllo
หากต้องการตัดต่อและแต่งเติมวิดีโอให้มุ้งมิ้งแล้วล่ะก็ Vllo ตอบโจทย์แน่นอน เพราะว่าแอพนี้มีของตกแต่งเพียบเลย ทั้งสติกเกอร์ ป้ายข้อความ ฟิลเตอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย อันที่จริงแนวเท่ ๆ ก็มี แต่ว่าแนวน่ารักสายหวานเยอะกว่าเห็น ๆ ก็ไม่แปลกเพราะว่าแอพนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี
แถมของตกแต่งส่วนฟรีก็มีให้เลือกค่อนข้างเยอะด้วย การใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่ต้องมีพื้นฐานก็สามารถเริ่มตัดได้ และฟีเจอร์ก็อัดแน่นไม่แพ้แอพอื่น ๆ ที่สำคัญคือไม่มีลายน้ำแม้จะใช้แบบไม่เสียเงินก็ตาม
แม้ Vllo จะฟรี แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการดูโฆษณาที่ค่อนข้างเยอะทีเดียว รวมไปถึงของตกแต่งอย่างสติกเกอร์ ฟีเจอร์พิเศษก็มีจำกัด ถึงแม้ว่าแบบฟรีจะเยอะแล้วก็เถอะ ถ้าอยากได้แอพแบบไร้โฆษณาและไร้ข้อกำจัดในการใช้งานของตกแต่งล่ะก็ ต้องเสียเงินซื้อแอพแบบตัวเต็ม
ข้อดี
#10
Funimate
Funimate คือแอพตัดต่อที่จะเปลี่ยนวิดีโอธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นวิดีโอแสนสนุก แปลก และแตกต่างไม่เหมือนใครเลยล่ะ เพราะแต่ละเอฟเฟกต์เน้นความแปลก เน้นมัน บ้า หลุดโลก ไม่ได้เน้นความน่ารักเพียงอย่างเดียว นำภาพมาวางทับวิดีโอได้ มีภาพ GIF และสติกเกอร์ให้เลือก แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะแบบเท่ ๆ หรือแบบธรรมดาเรียบ ๆ ก็มีให้เลือกเหมือนกันนะ
แต่ Funimate แบบฟรีค่อนข้างจำกัดการใช้งานมากเลยละ ทั้งเอฟเฟกต์แปลก ๆ ของตกแต่ง ๆ เจ๋ง ๆ ก็เก็บไว้ให้เฉพาะผู้จ่ายเงินซื้อเท่านั้น แถมยังมีลายน้ำคอยกวนใจอีก แต่ถ้าพร้อมเสียเงินแล้วล่ะก็ วิดีโอของคุณจะไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน
ข้อดี
ถ้าเพื่อน ๆ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลองแอพก่อนดี Huapood.com ขอแนะนำให้โหลดมาลองทุกแอพ เพราะส่วนมากมักฟรีอยู่แล้ว แต่กำจัดฟีเจอร์ใช้งานบางอย่าง หรืออย่างน้อยก็มีระยะเวลาให้ทดลองเล่นฟรี 7 – 14 วัน ถ้าลองแล้วไม่ชอบก็ค่อยไปยกเลิกซะ แต่ถ้าติดใจแอพไหนขึ้นมา รับรองเลยว่าโซเชียลมีเดียของคุณจะปังไม่หยุดเพราะวิดีโอสุดอลังของคุณยังไงล่ะ