ADVERTISEMENT
กระแส e-Wallet แรงไปทั่วโลก แม้กระทั่งเมืองไทยก็ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ยิ่งเป็นกลุ่มคนในเมืองกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มคนที่สนใจเทคโนโลยีก็ยิ่งชื่นชอบ เพราะสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด หมดปัญหาเรื่องเงินทอดหรือเงินย่อย แถมยังมีโปรโมชันจากผู้ให้บริการ e-Wallet ด้วยเช่นกัน
แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่า e-Wallet คืออะไรกันแน่ มีให้เลือกเยอะแค่ไหน มีจุดเด่นและด้อยมีอะไรบ้าง Huapood.com จะเล่าให้ฟัง กับ 10 e-Wallet ในไทย ทั้งเก่าและใหม่ น่าใช้แค่ไหน ต้องตามไปดู!
e-Wallet คืออะไร
e-Wallet คือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเป็นแอพลิเคชันกระเป๋าเงินที่อยู่ในมือถือ ใช้สำหรับจ่ายเงินหรือทำธุรกรรมการด้านการเงินต่าง ๆ ระหว่างร้านค้าและลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสัมผัสเงินสด ลดโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเติมเงินเข้า e-Wallet เท่าไรก็ได้ตามต้องการ และยังผูกเข้ากับบัตรเครดิตก็ได้เช่นกัน
แต่ประโยชน์และจุดเด่นของ e-Wallet ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ จึงขอแยกย่อยให้เห็นชัด ๆ ทั้งจุดเด่นและด้อยของแต่ละแอพ e-Wallet
#1 TrueMoney Wallet
TrueMoney Wallet อาจเป็นแอพ e-Wallet ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะใช้จ่ายเงินซื้อของที่ 7-Eleven ได้ทุกสาขา เป็นแอพของ True แต่ไม่จำเป็นต้องใช้มือถือ TrueMove H ไม่ว่าจะใช้ค่ายไหนก็ดาวน์โหลด TrueMoney Wallet มาใช้ได้
จุดเด่น
- จ่ายเงินได้หลายร้านค้า ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ 7-Eleven ที่จ่ายได้ทุกสาขา
- ใช้ได้ทุกค่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ค่าย TrueMove H
- มีทีมงานดูแลลูกค้าคอยช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
- ผูกบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตได้
- เติมเงินที่ 7-Eleven หรือ iBanking ได้
- จ่ายค่าน้ำ ไฟ บัตรเครดิต มือถือ
- เติม Easy Pass
- เติม MRT
- โอนเงินไปยัง e-Wallet คนอื่นได้ และถอนเข้าบัญชีธนาคารได้
- มีโปรโมชันเยอะ
- สะสมแต้มได้
จุดด้อย
- ยอดชำระบัตรเครดิตและบิลต่าง ๆ จะปรับช้า ยกเว้นบิลของเครือ True
#2 Rabbit LINE Pay
Rabbit LINE Pay อาจเป็นอีกหนึ่ง e-Wallet ที่คนไทยหลายคนรู้จักเยอะที่สุด เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ LINE แอพแชตยอดนิยม ซึ่งแอพชำระเงินนี้ร่วมมือกับ BTS จึงใช้จ่ายค่าโดยสาร BTS ได้ด้วยซึ่งแอพ e-Wallet อื่น ๆ ไม่สามารถทำได้
จุดเด่น
- ใช้ร่วมกับบัตร BTS เพื่อหักค่าโดยสารได้
- ผูกบัญชีเงินฝากและบัตรเครดิตได้
- จ่ายบิลได้ ซื้อตั๋วหนังได้
- ซื้อของผ่าน LINE Shopping
- ซื้อคูปองต่าง ๆ LINE Giftshop และส่งให้เพื่อนได้
- ซื้อสติกเกอร์และธีมใน LINE
- จ่ายเงินที่ร้านค้าต่าง ๆ ได้ ซึ่งมีค่อนข้างเยอะ
- ส่วนลดและโปรโมชันเยอะมาก
จุดด้อย
- เมื่อผูกบัตรกับ Rabbit LINE Pay กับบัตร BTS แล้วจะเติมเงินเติมเที่ยวที่เคาน์เตอร์ BTS ไม่ได้อีก
- ใช้โปรโมตชันบัตรเครดิตสำหรับบัตร BTS ไม่ได้
#3 GrabPay Wallet
อีกหนึ่ง e-Wallet สำหรับผู้ใช้บริการแอพสำหรับเรียกรถโดยสาร ส่งพัสดุ และส่งอาหาร ซึ่งเป็นของแอพ Grab ใช้จ่ายค่าบริการของ Grab และยังใช้ได้กับร้านค้าที่ร่วมรายการอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ไม่จำกัดแค่ในแอพ Grab เท่านั้น
จุดเด่น
- จ่ายค่าบริการในแอพ Grab ได้ส่วนลดเยอะกว่า
- จ่ายเงินร้านค้าร้านอาหารต่าง ๆ เช่น Major Cineplex, After You, KOI Thé, Boots, Lawson Station 108, Fuji, Miniso, Sukishi, Kyo Roll En, Seoul Grill และ Sukiya
- เติมเงินมือถือได้
จุดด้อย
- เติมเงินผ่าน K+ ของ Kbank ได้เท่านั้น
- ใช้กับบัตรเครดิตไม่ได้
- ร้านค้าที่ใช้ได้ยังมีน้อย หลัก ๆ มีแค่ร้านอาหารดัง ๆ
#4 Samsung Pay
หากเพื่อน ๆ ใช้มือถือ Samsung อยู่แล้ว แอพ Samsung Pay อาจเป็น e-Wallet ที่เหมาะกับคุณ ช่วยเก็บบัตรเครดิตไว้ในแอพ จ่ายได้ทุกร้านค้าที่รับชำระด้วยบัตรเครดิต ส่วนข้อดีและข้อเสียอื่นมีดังนี้
จุดเด่น
- ผูกบัตรเครติดได้
- รับคะแนน Samsung Rewards ทุกครั้ง
- จ่ายได้ทุกร้านที่รับชำระด้วยบัตรเครดิต
- มีส่วนลดและโปรโมชันพิเศษออกมาเรื่อย ๆ
- ใช้ที่เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา จีน สเปน ออสเตรเลีย เปอร์โตริโก บราซิล และสิงคโปร์ได้
จุดด้อย
- ใช้ได้เฉพาะมือถือ Samsung
- ผูกบัญชีธนาคารไม่ได้
- จ่ายค่าน้ำ ไฟ บิลต่าง ๆ ไม่ได้
#5 AirPay
หากว่าคุณช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแอพ Shopee คงเคยได้เห็นการรับชำระด้วย AirPay ผ่านตามาบ้าง เพราะนี่คือ e-Wallet ซึ่งมีเจ้าของเดียวกัน จึงมักมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้า Shopee เมื่อจ่ายผ่าน AirPay นอกจากนี้ยังสามารถใช้ชำระค่าบริการอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีข้อดีและเสียดังนี้
จุดเด่น
- มีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้า Shopee เมื่อจ่ายด้วย AirPay
- มีโปรโมชันคืนเงินค่อนข้างเยอะ
- เติมเงินมือถือ จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟได้
- เติม Easy Pass ได้
- เติมเกม และซื้อตั๋วหนังได้
- ผูกบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตได้
- เติมเงินได้หลายช่องทาง เช่น เตอร์เซอร์วิส, BigC, Tesco Lotus และตู้ ATM
จุดด้อย
- ร้านค้าที่รับชำระยังไม่เยอะเท่าไร
#6 Dolfin Wallet
Dolfin Wallet คือแอพ e-Wallet ของเว็บไซต์ JD Central ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างเครือเซ็นทรัลและบริษัทเจ้าของเว็บไซต์ JD จากจีน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมแอพนี้จะมีส่วนลดและโปรโมชันพิเศษจากทั้งห้างเซ็นทรัลและเว็บไซต์ JD Cental มากเป็นพิเศษ แต่ก็ยังสามารถใช้จ่ายบริการอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
จุดเด่น
- จ่ายและรับเงินผ่าน QR Code
- สะสมแต้ม The 1 ได้
- ผูกบัญชีธนาคาร
- ผูกบัตรเครดิต
- ฟีเจอร์ ‘การแชร์บิลจ่ายเงิน’ คำนวณจำนวนเงินที่ต้องหารกับเพื่อนพร้อมทั้งสร้าง QR code รับเงิน
- ร้านค้าในเครือเซ็นทรัลและเว็บไซต์ JD Central ร่วมรับเงินผ่านแอพนี้
- จ่ายบิล ค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ค่าบริการมือถือ บัตรเครดิต
- เติม Easy Pass
- โปรโมชันพิเศษจากเครือเซ็นทรัลและเว็บไซต์ JD Central
จุดด้อย
- ร้านค้านอกเครือเซ็นทรัลยังค่อนข้างน้อย
#7 Get Pay
แอพ Get คือแอพสำหรับเรียกวินมอเตอร์ไซค์ ส่งของ และสั่งอาหาร จุดเด่นคือค่าบริการไม่แพง และเมื่อไม่นานมานี้ Get ก็ได้ออกบริการ e-Wallet สำหรับใช้จ่ายค่าบริการภายในแอพ เพื่อความสะดวกและลดการใข้เงินสด ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้
จุดเด่น
- ใช้จ่ายได้ทุกบริการของ Get ทั้งโดยสารรถจักรยานยนต์ ส่งพัสดุ และส่งอาหาร
- ไม่จำกัดยอดขั้นต่ำในชำระเงิน
จุดด้อย
- เติมเงินผ่านแอพ SCB Easy เท่านั้น
- ผูกบัตรเครดิตไม่ได้
#8 เป๋าตัง
‘เป๋าตัง’ คือ e-Wallet จากธนาคารกรุงไทย ใช้จ่ายเงินและรับเงิน และเป็นแอพที่รัฐบาลใช้สำหรับร่วมกิจกรรมโครงการช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น ชิม ช้อป ใช้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแอพนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกเช่นกัน
จุดเด่น
- ลูกค้า กยศ.ดูยอดหนี้และยอดชำระได้
- มักร่วมโครงการของรัฐฯ เช่น โครงการชิม ช้อป ใช้ และโครงการเที่ยวปันสุข
- ชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านที่ร่วมรายการ ซึ่งค่อนข้างเยอะ เนื่องจากโครงการชิม ช้อป ใช้
- จ่ายเงินและรับเงินผ่าน QR Code
- เติมเงินมือถือ
- เติมค่าทางด่วน Easy Pass และ M-Pass
- จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัทพ์ และค่าบัตรเครดิต
จุดด้อย
- ต้องมีบัญชีกรุงไทย (ยกเว้นสมัครเข้าร่วมโครงการชิม ช้อป ใช้)
- ผูกบัตรเครดิตไม่ได้
#9 Blue CONNECT
Blue CONNECT คือ e-Wallet สำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือขับรถเองบ่อย ๆ เพราะใช้สำหรับจ่ายค่าน้ำมันในปั๊มปตท. (PTT) และร้านค้าในเครือ
จุดเด่น
- จ่ายได้ทุกปั๊มปตท. และร้านค้าในเครือ เช่น คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon), จิฟฟี่ (Jiffy), เท็กซัส ชิกเก้น (Texas Chicken) และฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ (Hua Seng Hong Dim Sum) ที่ร่วมรายการ
- สะสมแต้มได้โดยไม่ต้องใช้บัตร PTT Blue Card
- โอนเงินให้เพื่อนที่ใช้แอพเดียวกันนี้ได้ แค่ใช้เบอร์โทรศัพท์
จุดด้อย
- วิธีเดิมเงินยังน้อย คือแอพผ่าน K PLUS, K-ATM หรือ KBank Service ที่อยู่ในร้านจิฟฟี่เท่านั้น
- ผูกบัญชีเงินฝากไม่ได้
- ผูกบัตรเครดิตไม่ได้
- ร้านค้าที่รับชำระยังน้อย
#10 Starbucks
หากเพื่อน ๆ เป็นคอกาแฟแล้วละก็ e-Wallet ของ Starbucks คงเป็นอีกหนึ่งกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่ควรมีติดมือถือไว้ แม้ว่าจะจ่ายได้แค่ที่ Starbucks แต่ก็ยังคุ้มค่าอยู่ดี
จุดเด่น
- จ่ายได้ที่ Starbucks ทุกสาขา
- มีโปรโมชันพิเศษ เช่น ซื้อ 1 แถม 1
- สะสมแต้มเพื่อรับเครื่องดื่มฟรี
- เติมเงินได้ที่ Starbucks และผ่านบัตรเครดิต
จุดด้อย
- ใช้ได้ที่ Starbucks ได้อย่างเดียวเท่านั้น
e-Wallet ทั้ง 10 รายนี้มีจุดเด่นและด้อยต่างกันไป บางรายอาจยังมีร้านค้าที่รับจ่ายเงินน้อยเพราะเพิ่งเริ่มต้น บางรายอาจใช้ได้เฉพาะบริการของตัวเอง
ดังนั้นเพื่อน ๆ ควรเลือก e-Wallet ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้งาน เพื่อจะได้ประหยัดพื้นที่ในมือถือ แต่หากว่าอยากได้โปรโมชันและส่วนลดที่หลากหลายเลยอยากโหลดทุกแอพก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
ภาพปก freepik.com