เปรียบเทียบโทรศัพท์ huawei vs mi อันไหนดีกว่ากัน

เปรียบเทียบโทรศัพท์ huawei vs mi อันไหนดีกว่ากัน
หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์!

ADVERTISEMENT


[สารบัญ]

ในปัจจุบันมีแบรนด์โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนอยู่มากมาย ทำให้วงการนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่หากพูดถึงค่ายมือถือจากแดนมังกรที่โดดเด่นน่าจับตามอง คงหนีไม่พ้น Huawei และ Xiaomi เพราะเขาได้ยกระดับการผลิตเทคโนโลยีที่พร้อมเขย่าทุกวงการ และชูจุดแข็งที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็มีปลายทางเหมือนกัน คือ การทำยอดขาย และผลิตโทรศัพท์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Smart Life มากที่สุด วันนี้เราเลยมาเคาะประเด็นเปรียบเทียบกันจุดต่อจุดเลยว่า ทั้งสองแบรนด์เขามีจุดแข็งจุดอ่อนอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่าย เลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการ และตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

Huawei

1. Huawei

credit : unsplash.com

หัวเว่ย (Huawei) แบรนด์สัญชาติจีน ที่เข้ามาบุกตลาดสมาร์ทโฟนในไทย จนปัจจุบันหัวเว่ยได้กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ ทั้งในด้านคุณค่าของแบรนด์และสินค้าต่าง ๆ ทำให้การเติบโตของ Huawei เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก มาดูกันต่อเลยดีกว่าว่าจุดแข็งของสินค้าแบบไหนที่ทำให้แบรนด์นี้เติบโตจนก้าวมาอยู่แถวหน้าของวงการสมาร์ทโฟน และยังมีจุดอ่อนอะไรที่เป็นปัญหาอยู่

  1. ความทนทาน 

หัวเว่ยหันมาสนใจเรื่องความทนทานมากกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานได้ไม่ติดขัดและสมูธมากขึ้น ทางแบรนด์จึงมีการทดสอบความของตัวเครื่องเพื่อให้ได้มาตราฐานระดับอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ปุ่มเพิ่มลดเสียง จุดเชื่อมต่อสาย USB การสัมผัสหน้าจอ รวมไปถึงการทดสอบควบคุมอุณหภูมิตัวเครื่อง เพื่อให้เกิดความเสถียรภาพในการใช้งาน หัวเว่ยจึงพัฒนาระบบต่าง ๆ ให้ทุกคนได้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นไปอีก

  1. CPU

ในปัจจุบัน HiSilicon ที่เป็นบริษัทในเครือหัวเว่ย ได้มีการคิดค้นและวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นชิปประมวลผลที่ใหญ่ที่สุดในจีน และชิปดาวเด่นเลยก็คือ Kirin ที่มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพโดยรวมไม่เป็นรองใคร สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่สร้างสรรค์และเหนือระดับไปอีกขั้นให้กับผู้ใช้งานได้

2. ดีไซน์

credit : huaweicentral.com

  1. ดีไซน์

มือถือ huawei ที่มาในคอนเซ็ปต์ดีไซน์สดใส มอบสีสันใหม่ ๆ ให้กับชีวิต เขามีความใส่ใจในเรื่องของการออกแบบให้มีความสะดุดตา และไม่ซ้ำใคร พร้อมวัสดุคุณภาพที่มีความคงทน แถมมีสีสันให้เลือกหลายเฉด ดูทันสมัย และตอบโจทย์คนยุคใหม่สุด ๆ

  1. อายุการใช้งาน

การเสื่อมของแบตเตอรี่ เป็นปัญหาที่น่าจะพบบ่อยที่สุดจากผู้ใช้งาน เนื่องจากแบตเตอรี่มีอายุที่ใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด ยิ่งถ้ามีการใช้งานแบบที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้แบตเสื่อมได้เร็วขึ้น เช่น เล่นโทรศัพท์ตอนเครื่องร้อน เล่นไปชาร์จแบตไป หรือการใช้บ่อยเกินไป จับโทรศัพท์ทั้งวัน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ได้พบที่แบรนด์นี้แบรนด์เดียว ไม่ว่าคุณจะซื้อโทรศัพท์รุ่นอะไรมา จากค่ายไหน ระบบอะไร ก็ต้องมีการเสื่อมของแบตเตอรี่กันทั้งนั้น

3. ประสิทธิภาพของกล้อง

credit : unsplash.com

  1. ประสิทธิภาพของกล้อง

กล้องโทรศัพท์ระดับโปรประสิทธิภาพสูงของ HUAWEI นั้น ติดอันดับต้น ๆ ของการให้คะแนนกล้องโทรศัพท์มือถือจากสำนักวิจารณ์ชื่อดังและจากรีวิวของผู้ใช้จริงอยู่เสมอ เพราะสามารถใช้งานถ่ายภาพได้หลากหลายมุมมอง ด้วยความคมชัดของการถ่ายภาพในระดับสูงสุด ทั้งยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือผู้ใช้งานให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ Huawei ยังได้ร่วมมือกับแบรนด์กล้องถ่ายรูประดับ Hi-End อย่าง ‘Leica’ ทำให้กลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้แบรนด์นี้ทัดเทียมและเหนือกว่าแบรนด์อื่นเลยทีเดียว ใครสายถ่ายรูปต้องประทับใจแน่นอน พกโทรศัพท์หัวเว่ยเครื่องเดียว ก็เหมือนพกกล้องไลก้าไปด้วยได้!

  1. ระบบสแกนไวรัส

หลายคนที่ใช้ระบบ Android ต้องมีพะวง เพราะปัญหากลัวไวรัสเข้าเครื่อง และจะทำให้เครื่องรวนและช้าได้ ซึ่งปัญหานี้จะหมดไป เพราะหัวเว่ยเขาได้มีการติดตั้งระบบป้องกันไวรัสมาไว้ในเครื่องให้เลย โดยจะเก็บอยู่ไว้ใน Phone Manager ซึ่งระบบเขาก็ไม่ไก่กาแน่นอน เพราะเขาได้ความมือการองค์กรระดับโลกในของวงการ Anti Virus อย่าง Avast ฉะนั้น ไว้ใจและน่าเชื่อถือได้แน่นอน

Xiaomi

4. Xiaomi

credit : unsplash.com

Xiaomi (เสี่ยวมี่ หรือบางครั้งถูกเรียกสั้น ๆ ว่า ‘Mi’ สำหรับแบรนด์ Xiaomi Smartphone เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนรายใหญ่ของประเทศจีน และกลายเป็นบริษัทผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ปัจจุบันXiaomi ได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกไปมากมาย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค

  1. เทคโนโลยี 

Xiaomi ได้ซื้อบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กจากนั้นก็รวมเข้ากับสายผลิตภัณฑ์ของตน สร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพของตัวเอง ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ ดีไซน์ ทำให้มีสเปคเด่น ๆ หลายตัวหลายรุ่น

  1. ราคา

Xiaomi ยังมุ่งหวังที่จะผลิตสมาร์ทโฟนสเปกแรง ดีไซน์ผลิตภัณฑ์สวย และราคาที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับคุณภาพของสินค้า เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี จุดเด่นของแบรนด์ คือ สเปคของ Hardware ที่คุ้มค่ามากเกินราคา ทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

5. แคตตาล็อก

credit : kapook.com

  1. แคตตาล็อก

การขยายตัวเลือกของ Xiaomi เพราะเขามีรุ่นโทรศัพท์ให้เลือกมากมาย เพื่อให้ทุกคนได้สิ่งค้นหาสิ่งที่เหมาะกับรสนิยม ความต้องการ และงบประมาณของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ในแต่ละปีพวกเขายังคงเพิ่มโมเดลมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

  1. รอม MIUI

จุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้ นั่นก็คือ รอม MIUI ที่มีความเรียบง่ายและสวยงามต่อเติมจากฟังก์ชั่นพื้นฐานของระบบแอนดรอยด์ทั่วไป ปัจจุบันรอมตัวนี้ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟนของตัวเอง และใช้กับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น ๆ แล้วกว่า 200 รุ่น

6. อุปกรณ์เสริม

credit : siamphone.com

  1. อุปกรณ์เสริม

อย่างที่รู้กันว่า Xiaomi กลายเป็นหนึ่งในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้พวกเขาได้เริ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น หูฟัง ลำโพง พาวเวอร์แบงค์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ทำให้คนใช้โทรศัพท์ mi หมดกังวลเรื่องหาอุปกรณ์เสริมไปได้เลย ที่สำคัญเทคโนโลยีในอุปกรณ์เสริมตัวต่าง ๆ ก็เรียกได้ว่าอยู่อีกขั้นของโลกเทคโนโลยีเลย

  1. ประกันและบริการหลังการขาย

หลายคนสับสนกับการประกัน เพราะแต่ละรุ่นมีประกันที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ควรดูระยะเวลาการรับประกันของสินค้าให้ละเอียดถี่ถ้วน นอกจากนี้ ในอดีตยังมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับบริการหลังจากขาย ซึ่งตัวแบรนด์ก็ได้พยายามขจัดปัญหานี้ ด้วยการขยายร้านค้า Mi Store เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ

จะเห็นได้ว่า Huawei และ Xiaomi มีจุดยืนที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น จุดแข็งของแต่ละแบรนด์ก็จะแตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่กำลังมีแพลนซื้อมือถือ ก็ควรมีการพินิจพิจารณาไลฟ์สไตล์ และดูการใช้งานของตัวเองก่อน ว่าเราควรไปทางไหน และเทคโนโลยีหรือสเปกของแบรนด์ไหนจะตอบโจทย์มากกว่ากัน เพราะสุดท้ายปลายทางของทั้งสองแบรนด์ ก็เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของตน ฉะนั้น ผู้ใช้งานจึงจำเป็นต้องเลือกเอง

Shopee 11.11 Big Sale แคมเปญช้อปปิ้งออนไลน์ยิ่งใหญ่สุดแห่งปี! กับโปร 11.11 มากมายให้คุณให้ช้อปสินค้าจากแบรนด์ดังที่ขนมาลดราคาแบบโดนใจ สูงสุดถึง 90%! รับโค้ดลดเพิ่ม 1111.- เอาใจกันต่อด้วยโปรส่งฟรีทั่วไทย ขั้นต่ำ 0.- เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. – 11 พ.ย. นี้เท่านั้น! ช้อปเลยที่ Shopee 11.11 Big Sale!

หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์!
Tags: , , ,