20 จุดกางเต็นท์ในไทย ปลายฝนต้นหนาวต้องไปโดน

ได้กลิ่นลมหนาวโชยมาแบบนี้ ก็ถึงเวลาที่สายแค้มปิ้งรอคอยกันละจ้า เพราะนี่คือช่วงเวลาที่พีคมากสำหรับการหาพิกัดกางเต็นท์นอนดูดาวแล้วตื่นเช้ามาดูทะเลหมอกกันแบบชิลล์ๆ เพราะธรรมชาติก็สวย อากาศก็เย็นสบาย เหมาะกับการไปนอนในวงล้อมธรรมชาติกันที่สุดแล้วละ ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี วันนี้เราลองรวบรวมพิกัดกางเต็นท์ที่น่าสนใจทั้งสำหรับมือใหม่และสายเก๋ามาไว้ให้ละจ้า มีทั้งแบบสบายๆ ไม่ต้องสมบุกสมบัน ไปจนถึงเส้นทางขึ้นเขาที่ทั้งโหดทั้งมันสะใจแบบสุดๆ กันอยู่ตรงนี้ ได้พิกัดแล้วลองส่องตั๋วเครื่องบินราคาดีจาก Traveloka กันได้ หรือถ้าเป็นจังหวัดใกล้ๆ ก็จองบริการรถเช่ากับ Traveloka ได้เช่นกันจ้า ให้เร็วให้ไวนะ บอกแล้วไงว่าช่วงนี้พีคจริง!

#1
เสม็ดนางชี – พังงา

เรียกว่าเป็นพิกัดกางเต็นท์ที่แตกต่างออกไป เพราะที่นี่ไม่ได้ให้วิวภูเขาสูงสลับซับซ้อนหรือทะเลหมอกแบบหนาๆ อย่างที่เราคุ้นเคยกัน หากแต่ให้บรรยากาศยามเช้าที่มองเห็นภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา และที่เจ๋งมากคือมันตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวพังงา เรียกว่าถ้าใครที่อยากได้ฟีลสวยตะลึงที่แตกต่างจากอ้อมกอดของทะเลหมอกและขุนเขาซึ่งเคยเห็นกัน ปักหมุดที่นี่ไว้เลยเด้อ พื้นที่กางเต็นท์ชมวิวเสม็ดนางชีส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของรีสอร์ท ซึ่งมีทั้งแบบนอนเต็นท์ในฟีลคุณหนูหรูหราสบายๆ หรือให้ฟีลแนวเขาๆ ธรรมชาติแบบแท้ทรู เลือกดูที่ชอบเลย

#2
ดอยพุ่ยโค – แม่ฮ่องสอน

เป็นจุดกางเต็นท์ที่ตอบโจทย์คนรักธรรมชาติบนดอยสูง แต่ไม่ถนัดที่จะปีนป่ายสมบุกสมบันมากมายนัก จากด้านล่าง ระยะทางขึ้นสู่ยอดดอยพุ่ยโคอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลนิดๆ นะ แต่เส้นทางนั้นถือว่าไม่ได้ถึงกับยากเย็นอะไร สามารถเดินชมนกชมไม้ไปได้แบบชิลล์ๆ ที่สำคัญคือวิวด้านบนยอดดอยที่บอกเลยว่าคุ้มค่า! เพราะไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็สวยไปหมด แถมยังชมวิวได้แบบ 360 องศา เพราะบนดอยพุ่ยโคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้ามากกว่าป่ารกทึบ ใครเป็นมือใหม่ในเส้นทางสายลุย ปักหมุดดอยพุ่ยโคด่วนๆ เลย

#3
ทุ่งแสลงหลวง – พิษณุโลก

นับว่าเป็นพิกัดกางเต็นท์ที่ให้ฟีลแนวซาฟารีหน่อยๆ ไม่เหมือนที่ไหน เพราะทุ่งแสลงหลวงนั้นได้ชื่อว่าเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทยเลยเชียวละ ด้านในมีทั้งพื้นที่ทุ่งหญ้ากว้างสุดสายตา ป่าสนสวยสะกดใจ แถมการได้มากางเต็นท์นอนในพื้นที่ทุ่งแสลงหลวงนั้น นอกจากจะได้ทั้งบรรยากาศสวยสุดผ่อนคลายแล้ว ยังมีกิจกรรมนั่งรถส่องสัตว์ไปกับเจ้าหน้าที่ในยามค่ำคืนด้วยเด้อ มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยนะ แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับบรรยากาศตื่นเต้นที่จะได้รับ ไปเหอะ หนาวนี้ปักหมุดเลย

#4
ปางอุ๋ง – แม่ฮ่องสอน

เชื่อว่าต้องยืนหนึ่งเป็นพิกัดกางเต็นท์ในใจใครหลายคนเลยละ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยมาแล้ว หรือเป็นคนที่ปักหมุดเล็งที่นี่เอาไว้ ด้วยความสวยระดับที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย’ ทำให้ปางอุ๋งกลายเป็นพิกัดยอดฮิตที่สายแค้มปิ้งต้องมา! คิดภาพตามนะ ได้กางเต็นท์ในป่าสนสวยๆ ที่ด้านหน้าเป็นทะเลสาบกว้าง มีทั้งหงส์ดำหงส์ขาวดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำใกล้ๆ แถมช่วงเช้าในหน้าหนาวที่อากาศเย็นจับใจ ยังมีไอหมอกลอยวนอยู่เหนือผิวน้ำสร้างฟีลให้โรแมนติกหนักเข้าไปอีก แบบนี้ไม่มาไม่ได้แล้วป่ะ เอาจริง?

#5
ม่อนสน – เชียงใหม่

จุดชมวิวม่อนสน ตั้งอยู่บนดอยอ่างขาง ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก และเป็นอีกจุดกางเต็นท์ยอดนิยมโดยเฉพาะเมื่ออากาศหนาวมาเยือน ด้วยความสูง 1,787 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สวยเว่อร์วัง! มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนอยู่ตรงหน้า มองเห็นทะเลหมอกสีขาวแบบแน่นๆ ในวันที่อากาศเป็นใจ บริเวณลานกางเต็นท์เป็นสนามหญ้ากว้างที่รายล้อมไปด้วยทิวสน ส่วนเรื่องอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็นับว่าสะดวกสบาย อยากได้ฟีลลุยนิดๆ แบบไม่ลำบากลำบน ปักหมุดม่อนสนเอาไว้เลย

#6
เขาใหญ่ – นครราชสีมา

เป็นพิกัดกางเต็นท์สุดคลาสสิกชนิดอมตะนิรันดร์กาล ที่ครองใจคนรักการได้เดินทางท่องเที่ยวแนวผจญภัย ในบรรยากาศแค้มปิ้งกลางป่ามาได้อย่างยาวนาน นอกจากเขาใหญ่จะมีพื้นที่กางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติของป่าใหญ่ที่ต้นไม้ร่มรื่นเย็นฉ่ำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างเพียบพร้อมแถมยังเดินทางง่ายแล้ว ที่นี่ยังมีหลายบรรยากาศให้ได้สัมผัสกัน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมส่องสัตว์ในยามค่ำคืน แถมยังมีน้ำตกและจุดชมทะเลหมอกสวยๆ ให้ได้ดูกันอีก คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้วเด้อ

#7
ดอยอ่างขาง – เชียงใหม่

นอกจากบริเวณจุดชมวิวม่อนสนแล้ว บนดอยอ่างขางยังมีจุดกางเต็นท์ให้เลือกอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นจุดกางเต็นท์ดงสนที่เดินทางสะดวกสบาย จุดกางเต็นท์หน่วยจัดการต้นน้ำแม่เผอะซึ่งให้ฟีลสงบใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ จุดกางเต็นท์ตรงข้ามสถานีเกษตรอ่างขางซึ่งเพียบพร้อมด้วยความสะดวก จุดชมวิวกิ่วลมที่คนอยากสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ น่าจะถูกใจ และยังมีอีกหลายจุดให้เลือกไปกางเต็นท์กันได้แล้วแต่ความชอบเลยนะ หนาวนี้ถ้ายังเลือกไม่ได้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ดอยอ่างขางนับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเชียวละ

#8
ดอยเสมอดาว – น่าน

นับเป็นพิกัดจุดกางเต็นท์ที่จะเปิดให้ใช้บริการกันเฉพาะในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น คือตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยเปิดให้โทรจองพื้นที่กางเต็นท์กันล่วงหน้าได้ถึงหนึ่งเดือนเลยเด้อ ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เดินทางได้สะดวกสบาย เพราะสามารถขับรถขึ้นไปถึงจุดกางเต็นท์ที่อยู่ด้านบนได้เลย จึงไม่ต้องสงสัยเลยละถ้าจะเห็นผู้คนนิยมไปสัมผัสธรรมชาติที่นี่กันเพียบ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ใครสนใจแนะนำให้โทรจองเอาไว้ก่อนเด้อ ช้าหมด อดไม่รู้ด้วย

#9
ดอยหลวงเชียงดาว – เชียงใหม่

สายลุยที่แท้ทรูเชิญทางนี้ เพราะนี่คือเส้นทางสู่ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย โดยมีระยะทางเดินขึ้นไปจาก ‘เด่นหญ้าขัด’ ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่รถจะเข้าถึงได้ต่อไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดกางเต็นท์ และจากจุดกางเต็นท์ ต้องเดินต่อไปอีก กว่าจะถึงบริเวณจุดชมวิว บนดอยนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้นเด้อ แม้กระทั่งห้องน้ำ! ส่วนสัมภาระนั้นถ้าไม่ไหวก็มีบริการลูกหาบช่วยขนขึ้นไปจ้า ไปที่นี่ต้องติดต่อล่วงหน้าเพื่อขออนุญาติและจองลูกหาบก่อนน้า ถึงจะเหนื่อยยังไง ไกลแค่ไหน แต่เชื่อว่าสำหรับสายผจญภัยแล้ว ต้องให้ความสวยและความสนุกแบบคุ้มสุดๆ แน่นอน

#10
ภูกระดึง – เลย

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานสถานที่กางเต็นท์ของสายลุยในเมืองไทย ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปท์ ‘พาแฟนไปวัดใจบนภูกระดึง’ ด้วยเส้นทางขึ้นเขาที่มีทั้งง่ายและทั้งที่ต้องป่ายปีนแบบเหนื่อยแฮ่กสลับกันไปราวๆ 9 กิโลเมตร ว่ากันว่าภูกระดึงนี่แหละจะทำให้เห็นธาตุแท้ของเพื่อนร่วมทางอย่างแท้จริง! ทิวทัศน์ด้านบนของภูกระดึงก็มีความสวยและเสน่ห์ซึ่งไม่เหมือนใคร มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกให้เลือกเดินไปฟินกันได้หลายจุดเลยละ ข้อดีคือการไปนอนเต็นท์ที่ภูกระดึงนั้นมีความสะดวกสบายที่ด้านบนแบบเพียบพร้อมไม่ว่าจะห้องน้ำ ของกิน ของใช้ และท้ายที่สุดนะ บอกเลยว่าเมื่อความลำบากตรงนั้นผ่านไป ภูกระดึงจะเป็นหนึ่งพิกัดที่คุณประทับใจไปตลอดอย่างแน่นอน!

#11
ภูสอยดาว – อุตรดิตถ์

อีกหนึ่งพิกัดที่ไม่ธรรมดาแต่บอกเลยว่าสวยเว่อร์วัง การกางเต็นท์ที่ภูสอยดาวนั้นต้องเดินขึ้นไปบนความสูงประมาณ 1,633 เมตร และบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลกางเต็นท์ที่สวยมากกกก โดยเฉพาะหากคุณไปในช่วงหน้าฝนซึ่งดอกหงอนนาคสีม่วงจะเบ่งบานเต็มทุ่งหญ้าภายใต้ป่าสนสามใบ ถ้าพอใจแค่วิวสวยๆ จะจบตรงนี้ก็ได้ หรือถ้าอยากไปให้สุดก็ต้องป่ายปีนกันในเส้นทางที่โหดซักนิดไปจนถึงยอดภูที่ความสูง 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ด้านบนนี่ควรให้เจ้าหน้าที่นำทางมาเด้อ เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าใจไม่ไหว บอกเลยว่าแค่ลานกางเต็นท์น่ะ ก็คุ้มแล้ว

#12
ภูชี้ฟ้า – เชียงราย

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเชียงราย ที่เป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวทั่วฟ้าเมืองไทยในช่วงฤดูหนาว ภูชี้ฟ้านั้นมีพื้นที่กางเต็นท์อยู่ด้านล่างบริเวณทางขึ้นภู และมีให้เลือกพิกัดกันเพียบเลยละ ทั้งของรัฐฯ และเอกชน ถึงจะไม่ได้ขึ้นไปนอนบนยอดภู แต่ก็มีวิวแจ่มๆ ให้ดูกันจากจุดกางเต็นท์เด้อ ข้อดีคือความสะดวกสบาย เพราะส่วนใหญ่แล้วจะมีข้าวของเครื่องใช้ให้บริการอย่างครบครัน ตื่นเช้าเดินชิลล์ๆ กันอีกไม่ไกล ก็จะไปเช็คอินบนยอดภูกันได้แบบไม่ถึงกับเหนื่อยละ ชอบนอนเต็นท์แบบสะดวกสบาย ปักหมุดเอาไว้เลย

#13
ภูทับเบิก – เพชรบูรณ์

เอาใจสายชิลล์กันอีกหนึ่งพิกัด สำหรับคนอยากนอนเต็นท์แต่ไม่รักความสมบุกสมบันเท่าไหร่นัก เพราะบนภูทับเบิกนั้นมีพื้นที่ของเอกชนให้เลือกนอนเต็นท์กันได้เพียบ และทุกแห่งเดินทางง่ายเพราะขับรถเข้าไปเกยกันได้เลยจ้า อยากได้วิวอลังการขนาดไหน งบประมาณเท่าไหร่ สิ่งอำนวยความสะดวกพรั่งพร้อมขนาดไหน ก็เลือกได้หมดจ้ะ แต่ที่สำคัญคือต้องรีบจองล่วงหน้ากันหน่อยนะ เพราะช่วงหน้าหนาวนี่ละพีคมาก ถ้าคิดนานเดี๋ยวลานกางเต็นท์เต็มเด้อ

#14
ม่อนแจ่ม – เชียงใหม่

เมื่อพูดถึงที่เที่ยวเชียงใหม่ในหน้าหนาว เราว่ายังไงก็ต้องมีม่อนแจ่มติดอยู่ในลิสต์ด้วยแน่ๆ ด้วยทำเลสวยสุดชิลล์ที่มีทั้งวิวภูเขา ทะเลหมอก และทุ่งดอกไม้ อะไรจะเพอร์เฟ็คท์ขนาดนี้??? ม่อนแจ่มก็เป็นอีกหนึ่งแห่งซึ่งมีที่พักเปิดให้บริการลานกางเต็นท์ในหลายรูปแบบหลากสไตล์ อยากได้เต็นท์แบบบ้านๆ เรียบง่าย หรือเต็นท์โดมทรงกลมสุดไฮโซที่นี่ก็มี แฮปปี้ที่สุดก็ตรงบางที่มีเมนูหมูกระทะให้นั่งปิ้งกินกันแบบสุดฟินกับวิวหลักล้านหน้าเต็นท์นอนเลยทีเดียว เฟี้ยวมาก พูดเลย

#15
ห้วยน้ำดัง – เชียงใหม่

แม่ฮ่องสอนคืออีกหนึ่งจังหวัดที่หลายคนปักหมุดหาจุดกางเต็นท์กันรัวๆ เพราะจังหวัดนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยตะลึงในหลากหลายรูปแบบ และห้วยน้ำดังก็คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่หลายคนสนใจ ด้วยการเดินทางที่สะดวกง่ายดาย และด้านบนยังมีพื้นที่กางเต็นท์ให้เลือกกันได้ถึง 5 จุด ในทำเลความสวยที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นวิวป่าสน วิวบนเขา และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เริ่ดคือมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ชนิดที่สบายพอควรเลยละ สายชิลล์ปักหมุดเลยจ้า เชื่อว่าแฮปปี้แน่นอน

#16
บ้านจ่าโบ่ – แม่ฮ่องสอน

นอกจากการแวะไปเช็คอินที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่ยังมีจุดกางเต็นท์ที่เรียบง่าย แต่ได้วิวหลักล้านให้เลือกกันหลายแห่งด้วยนะ ส่วนใหญ่แล้วจะสร้างอยู่ในเนื้อที่ของชาวบ้านละแวกนี้ละ และด้วยความที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ในวงล้อมของขุนเขา การมากางเต็นท์ที่นี่จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอให้สบาย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติกันอยู่ ใครชอบฟีลสโลว์ไลฟ์ของหมู่บ้านนี้ มานอนเต็นท์สูดอากาศบริสุทธิ์ ดูดาวให้เต็มตาซักคืน แล้วตื่นมาดูทะเลหมอกตอนเช้า เราว่าแค่นี้ก็ฟินในฟินคุ้มกับการเดินทางมาแล้วละ

#17
ดอยผาตั้ง – เชียงราย

อีกหนึ่งช้อยส์สำหรับคนที่มองหาจุดกางเต็นท์ในเชียงราย และยังอยู่ไม่ไกลมากนักจากแลนด์มาร์คหลักอย่างภูชี้ฟ้าอีกด้วย ดอยผาตั้งนั้นเป็นที่อยู่ของชาวม้ง เย้า และจีนฮ่อ ซึ่งอพยพเข้ามาจากละแวกประเทศเพื่อนบ้าน และยังเป็นจุดชมทะเลหมอกแบบฟินๆ อีกแห่งของเมืองเชียงราย ที่ในปัจจุบันนี้มีการเปิดให้บริการลานกางเต็นท์หลากหลายรูปแบบและทำเลอีกเช่นกัน ที่สำคัญคือเดินทางง่ายและมีความสะดวกสบายพอควรเลยละ แนะนำให้เก็บไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการมองหาที่กางเต็นท์หน้าหนาวของคุณก็แล้วกัน

#18
เขาศูนย์ – นครศรีธรรมราช

ถ้าอยากเห็นทั้งทะเลหมอกและทะเลน้ำเค็มในทริปเดียวกัน เชื่อว่าเขาศูนย์แห่งนี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุณน่าจะสนใจ ถึงแม้ภาคใต้จะไม่ได้เป็นจุดที่คนนึกถึงยามมองหาที่กางเต็นท์ในหน้าหนาว แต่เราอยากบอกว่าเค้าก็มีทะเลหมอกสวยๆ ให้ได้ดูยามเช้ากันเยอะอยู่เด้อ และเขาศูนย์แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเป็นจุดชมวิวยามเช้าที่มีทะเลหมอกให้ดูกันแน่นๆ เลยละในวันที่อากาศเป็นใจ การเดินทางก็ง่าย ขับรถมาได้ถึงจุดกางเต็นท์เลยจ้า ใครอยากหนีฝูงมหาชนที่ขึ้นเหนือในหน้าหนาว ลองแหวกแนวด้วยการมากางเต็นท์ทางภาคใต้ดูบ้างเป็นไร เชื่อว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

#19
ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ – แม่ฮ่องสอน

ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นฤดูที่ดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอพากันบานสะพรั่งทั้งภูเขา และเป็นช่วงเดียวในปีที่เราจะได้มาเสพความสวยของจุดนี้กัน แต่บางคนอาจไม่รู้ว่ามีพิกัดลับสำหรับให้เราได้กางเต็นท์นอนกันท่ามกลางดงดอกไม้อยู่ด้วยนะ ข้อดีคือคุณจะได้นอนดูดาวยามค่ำและตื่นมาชมความงามของทุ่งดอกบัวตองในยามเช้าได้ก่อนใคร ที่สำคัญคือเดินทางง่ายด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ตรงนี้ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้นะ ถ้าสนใจละก็ลองเตรียมความพร้อมไปให้ครบเด้อ จะได้นอนชิลล์กันแบบสบายๆ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังไงคุณ

#20
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน – ลำปาง

สำหรับคนที่มองหาพิกัดกางเต็นท์ซึ่งแตกต่างจากการไปนอนดูทะเลหมอกจากบนยอดดอยดูบ้าง ขอแนะนำให้มากางเต็นท์แช่ออนเซ็นแบบไทยๆ กันในบริเวณน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนนี่ละ เพราะเดินทางก็ง่ายไม่ต้องสมบุกสมบันแต่อย่างใด แล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในระดับดี ในขณะที่ธรรมชาติรอบตัวก็สวยไม่แพ้ใคร ให้คุณได้ฟินกันในหลากหลายเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมน้ำตกแจ้ซ้อน หรือเลือกนอนแช่ออนเซ็นที่มีให้เลือกตั้งแต่บ่อธรรมชาติกลางแจ้งไปถึงบ่อส่วนตัว ช่วงที่ยังบินไปแช่ออนเซ็นในเรียวกังที่ญี่ปุ่นไม่ได้ มานอนเต็นท์แช่ออนเซ็นแบบไทยๆ ที่นี่ก็ฟินไปอีกแบบนะ เอาจริง!

ลมหนาวเข้าใกล้เรามาทุกที และเชื่อว่านี่คือฤดูกาลที่คนไทยทั้งประเทศรอคอย เพราะอากาศก็สดใสแถมยังไม่ร้อนจนเหงื่อตก แล้วยิ่งตามจุดกางเต็นท์ต่างๆ ซึ่งมักจะเป็นที่สูงนะ อุณหภูมิก็จะหนาวเย็นสะใจให้ได้พกเสื้อหนาวไปใส่กันแบบเต็มที่ แล้วถ้าสนใจที่ไหนก็รีบวางแพลนกันให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ นะ รู้ใช่มั้ยล่ะว่าหน้าหนาวน่ะใครๆ เค้าก็อยากไปเที่ยวกันทั้งนั้นละ อ๋อ! แล้วถ้าใครกำลังมองหารถเช่าราคาดี ราคาถูก แนะนำบริการรถเช่า หรือเช่ารถกับ Traveloka ได้เลย > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental