15 ที่เที่ยวเมืองน่าน ไปสโลว์ไลฟ์ท่ามกลางธรรมชาติกันเถอะเรา!

ที่เที่ยวน่าน

‘น่าน’ เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชาร์จพลังใจกันมากขึ้นในทุกปี คงเพราะที่นี่ยังมีความเป็นเมืองเล็กสไตล์ท้องถิ่นซึ่งผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ให้ฟีลสโลว์ไลฟ์อย่างที่หาตามเมืองใหญ่ได้ยากแล้ว แถมอากาศก็เย็นสบาย ยิ่งถ้าเป็นช่วงตั้งแต่ปลายฝนต้นหนาวไปจนถึงต้นๆ ปีนะ จะยิ่งชิลล์มากกก ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของการเดินทางมาเที่ยวน่านก็ว่าได้ ที่สำคัญคือทุกวันนี้เราเดินทางกันง่ายขึ้นเยอะ เพราะแค่นั่งเครื่องบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปชั่วโมงเดียว ก็เที่ยวน่านกันได้แบบชิลล์ๆ ละจ้า ไม่ต้องนั่งรถคดโค้งเลาะเขาไปมาแบบสมัยก่อน วันนี้เราเลยเอาตัวอย่างที่เที่ยวน่านมาบอกต่อกันแบบยั่วๆ เผื่อใครกำลังมองหาทริปสโลว์ไลฟ์ไว้ชาร์จพลังใจช่วงท้ายปี แล้วยิ่งในยุคโควิดแบบนี้นะ เมืองน่านคือเที่ยวได้แบบ new normal โดยอัตโนมัติกันเลยจ้าเพราะความแออัดน้อยกว่าเมืองใหญ่เยอะ เอ้า … ดีแบบนี้ก็จัดไปเลยดิค้าบบบบบ!

การเดินทางไปน่าน

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเมืองเล็กๆ อันเงียบสงบแบบน่านก็มีสนามบินด้วย สำหรับใครที่อยากประหยัดเวลา แนะนำจองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ – น่าน กับTraveloka ได้เลย ทางไปจอง > https://www.traveloka.com/th-th/flight/route/Bangkok-Nan.BKKA.NNT หรือ! ถ้าใครอยากเช่ารถขับเที่ยวน่าน ขอเสริมเป็นบริการใหม่จาก Traveloka ก็คือจะมีบริการรถเช่าที่จะมีให้เลือกทั้งแบบมีคนขับ หรือว่าขับเองให้เลือก ใครเป็นสาย Road Trip ก็จองรถเช่าทราเวลโลก้า > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental แล้วไปต่อกันได้เลย

#1
หมู่บ้านสะปัน

หมู่บ้านสะปัน 1 หมู่บ้านสะปัน 2 หมู่บ้านสะปัน 3

หมู่บ้านลับท่ามกลางขุนเขาที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวขจี ที่หมู่บ้านนี้เราจะได้พักใจไปกับธรรมชาติและความเงียบสงบ กับวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ไหลเอื่อยแบบสุดสดชื่น ที่นี่มีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน แวดล้อมด้วยนาข้าวเขียวขจี ยิ่งเป็นปลายฝนต้นหนาวแบบนี้คือสวยสุดๆ ไปเลยละ มาที่นี่คือไม่มีอะไรให้ทำนะ นอกจากปั่นจักรยานชมความชิลล์ในหมู่บ้าน กินอาหารอร่อยๆ แล้วก็นอนเหยียดยาวค่อยๆ เสพเสียงธรรมชาติ แฮปปี้ขนาดนี้แล้วจะเอาอะไรอีก!

#2
น้ำตกสะปัน

น้ำตกสะปัน 2 น้ำตกสะปัน 1

อีกหนึ่งแหล่งเช็คอินที่ไม่ไกลมากนักจากตัวหมู่บ้านสะปัน ที่นี่เป็นน้ำตกความสูง 3 ชั้น อยู่กลางป่าสมบูรณ์สีเขียวร่มรื่นมากกก แต่ละชั้นมีความสวยในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ถ้าจะเดินให้ครบต้องใช้กำลังขาพอสมควรอยู่นะ ไม่ว่าจะเลือกเดินชมป่าไปตามทางเดินที่เค้าทำเอาไว้ให้ หรือจะใช้ทางลัดด้วยการป่ายปีนก้อนหินลงไปก็ตาม แต่รับรองว่าความสวยน่ะคุ้มค่าจริง

#3
ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว 1 ดอยเสมอดาว 2

เอาใจสายแค้มปิ้งด้วยการชวนไปกางเต็นท์นอนดูดาวเสพอากาศหนาวแบบสุดชิลล์กันดีกว่า กับดอยสวยที่ขอบอกว่าวิวโรแมนติกไม่แพ้ใคร ดอยเสมอดาวตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เดินทางได้ค่อนข้างสะดวกเลยละ ที่นี่จึงเหมาะกับคนที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติแต่ไม่อยากสมบุกสมบันซักเท่าไหร่ ช่วงเช้าตื่นมาก็ยังจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางวิวทะเลหมอกสวยๆ กันอีกด้วยนะ กลางคืนก็เด็ด ตอนเช้าก็ดี บอกเลยว่าที่นี่ชนะเลิศจริงๆ

#4
ดอยสกาด

ดอยสกาด

เป็นอีกหนึ่งพิกัดสำหรับคนรักความสโลว์ไลฟ์ที่ชอบการไปฝังตัวพักใจในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เรียบง่ายไร้แสงสี เพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านซึ่งล้อมรอบไปด้วยทิวเขาเขียวพรืดในเกือบทุกด้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าลั้วะซึ่งยังคงใช้วิถีชีวิตท้องถิ่นแบบสบายๆ ตัวบ้านที่ตั้งอยู่ตามไหล่เขาแต่ละหลังจะถูกคั่นกลางด้วยพื้นที่สีเขียวขจี ที่นี่นิยมปลูกใบชาและพืชเมืองหนาวหลายชนิดเพราะอากาศอำนวย มานอนดูวิวสวยๆ สูดโอโซนดีๆ แค่นี้ก็ฟินแล้ว

#5
วัดภูมินทร์

วัดภูมินทร์ 3 วัดภูมินทร์ 2 วัดภูมินทร์ 1

ตัดอารมณ์จากสีเขียวเปลี่ยนไปเที่ยววัดกันบ้างดีกว่า กับวัดภูมินทร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นซิกเนเจอร์สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองน่าน เพราะนอกจากจะมีศักดิ์ศรีเป็นวัดหลวงคู่เมืองน่านที่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ร้อยปีแล้ว วัดนี้ยังเป็นเพียงวัดเดียวในประเทศไทยที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมทรงจตุรมุขแลดูแปลกตา แต่ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สุดๆ ก็คงต้องยกให้กับภาพจิตรกรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่าน ที่หลายคนขนานนามว่าเป็นภาพกระซิบรักบรรลือโลกนั่นละ สวยและคลาสสิกมาก อยากให้มาดูด้วยตาตัวเอง

#6
พระธาตุแช่แห้ง

วัดพระธาตุแช่แห้ง 1 วัดพระธาตุแช่แห้ง 3 วัดพระธาตุแช่แห้ง 2

อีกหนึ่งวัดสำคัญแห่งเมืองน่าน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนี้ ว่ากันว่าวัดนี้นั้นมีอายุเก่าแก่เกินกว่า 600 ปีเลยเน้อ นอกจากจะได้รับพลังศรัทธาในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมใจแล้วนะ ที่นี่ยังมีจุดเด่นตรงที่ความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบช่างสกุลน่านแท้ๆ ที่อ่อนช้อยและมีดีเทลละเอียดในหลายๆ จุด ว่ากันว่านี่คือพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีเถาะด้วยนะ ใครเป็นชาวปีกระต่ายแวะไปกราบให้ได้เชียว

#7
ดอยภูแว

ดอยภูแว 1 ดอยภูแว 2

หนึ่งดอยสูงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งมีความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 1,837 เมตร จุดเด่นของดอยภูแวคือการเป็นภูเขาซึ่งไม่มีต้นไม้ใหญ่ ทำให้มองเห็นวิวรอบด้านได้แบบ 360 องศา ถ้าอากาศอำนวย ตอนเช้าๆ ที่นี่จะมีทะเลหมอกกว้างๆ ให้ดูกันแบบเต็มตา การเดินขึ้นก็ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร มีทั้งเดินผ่านแปลงเกษตร หมู่บ้าน และสันเขา ใครหาที่กางเต็นท์สัมผัสกับธรรมชาติแบบชิลล์ๆ ไม่แออัด จัดที่นี่เลย!

#8
อำเภอปัว

อำเภอปัว 1อำเภอปัว 2

อำเภอสุดสโลว์ไลฟ์ที่ไม่ว่าใครไปเมืองน่านก็ต้องปักหมุดเช็คอิน ด้วยทิวทัศน์ของทุ่งนาเขียวขจีเหมือนพรมผืนใหญ่ ที่ทอดยาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ล้อมรอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่ กับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เรียบง่ายไม่เร่งรีบ ที่พักสไตล์โฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้ฟีลลิ่งอบอุ่นน่ารักเหมือนได้ไปนอนบ้านญาติที่ต่างจังหวัดยังไงยังงั้น จะปั่นจักรยานชมวิวก็ชิลล์มาก หรืออยากขับรถเที่ยวก็สบาย เลือกออพชั่นที่อยากได้กันเลย

#9
อำเภอบ่อเกลือ

บ่อเกลือ 1 บ่อเกลือ 2

ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือบ่อเกลือตามชื่ออำเภอนี่ละ เป็นบ่อเกลือสินเธาว์โบราณที่ชาวบ้านยังคงสืบทอดกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ บ่อเกลือของที่นี่มีอยู่เพียงแค่สองจุดหลักคือบ่อเหนือซึ่งอยู่ใกล้แม่น้ำ และบ่อใต้ที่อยู่ใกล้กับเชิงเขา นอกจากการมาเดินชมกรรมวิธีผลิตเกลือภูเขาแบบโบราณกันแล้ว ธรรมชาติที่นี่เค้าก็ดีงามไม่แพ้ใครเลยนะ มาที่เดียวได้ดูสองฟีลเลยอ่ะ เริ่ดจะตาย

รูปจาก http://nantourism.go.th/travel-detail.php

#10
ม่อนเคียงดาว

ม่อนเคียงดาว 1 ม่อนเคียงดาว 2

รูปจาก https://web.facebook.com/ดอยตีดู้ว์-1995334234072164/

เป็นอีกหนึ่งจุดสุดชิลล์ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ห่างกันกับดอยเสมอดาวเพียงแค่ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น โดยจุดนี้จะไม่ได้เปิดให้เที่ยวกันได้ตลอดปีนะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ปกติคือไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน จึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการกันได้ในช่วงที่หมดฤดูเก็บเกี่ยวแล้วเท่านั้น นั่นคือในช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี ตรงนี้จึงจะมีที่พักทั้งแบบกระท่อมสุดคลาสสิกและแบบเต็นท์หลายหน้าตาให้เลือกชิลล์กัน สวยจนเคยเป็นโลเกชั่นถ่ายละครมาแล้วด้วยเด้อ บอกเลยว่าบรรยากาศฟินเว่อร์ไว้ใจได้! ควรเก็บเป็นอีกช้อยส์นึงถ้าขี้เกียจเอาเต็นท์ไปกางที่ดอยเสมอดาว

#11
ดอยตีดู้ว์

ดอยตีดู้ว์ 2 ดอยตีดู้ว์ 1

ถ้าอยากนอนเต็นท์ดูดาว ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกกันแบบเพลินๆ แต่ไม่อยากเดินทางไกลให้สมบุกสมบัน ปักหมุดดอยนี้กันได้เลยเพราะชิลล์มาก อยู่ห่างจากอำเภอเมืองไม่ถึง 30 กิโลเมตร! ดอยตีดู้ว์แห่งนี้มีความสูงประมาณ 700 เมตร พื้นที่รอบข้างเกือบทั้งหมดเป็นแปลงเกษตรปลูกพืชผักทั้งหลาย สตรอว์เบอร์รี่เค้าก็มีปลูกอยู่ไม่ไกลด้วยนะจ๊ะ ว่าไม่ได้! ที่นี่เดินทางง่ายจึงสามารถนอนในตัวเมืองแล้วขับรถมาดูทะเลหมอกยามเช้า หรือจะมาเอาบรรยากาศโรแมนติกตอนพระอาทิตย์ตกก็ได้หมด มีร้านกาแฟวิวร้อยล้านให้นั่งชิลล์กัน แต่ถ้าอยากฟินกว่านั้นก็มานอนเต็นท์กันได้เด้อ จะเอาเต็นท์มากางเองหรือมาเช่าที่นี่เอาก็ได้ ราคาสบายกระเป๋ามาก แต่วันนึงเค้าให้กางแค่สิบหลังเท่านั้นนะ จองล่วงหน้ากันไปเลย

#12
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองน่าน

พิพิธภัณฑ์น่าน 1 พิพิธภัณฑ์น่าน 2 พิพิธภัณฑ์น่าน 3

พิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแห่งนี้ โดดเด่นสะดุดตามากที่สุดคงต้องยกให้กับรูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคารด้านนอกซึ่งดูแปลกตา โดยที่นี่เคยเป็นหอคำหรือที่พักของเจ้าผู้ครองนครน่านในยุคโบราณมาก่อน ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวของศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวน่านในยุคก่อนให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้กัน ไฮไลท์สำคัญอีกแห่งที่พลาดไม่ได้ก็คือซุ้มดอกลีลาวดีที่อยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เชื่อว่าคนชอบถ่ายรูปเช็คอินน่ะต้องแฮปปี้ เพราะตรงนี้สวยคลาสสิกมากกกก ไม่อยากให้พลาดกันเน้อ

#13
วัดพระธาตุเขาน้อย

วัดพระธาตุเขาน้อย 1 วัดพระธาตุเขาน้อย 2 วัดพระธาตุเขาน้อย 3

เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่อยู่ใกล้กับตัวเมือง บอกเลยว่าน่าจะถูกใจทั้งสายชิลล์และสายบุญในเวลาเดียวกัน เพราะที่นี่เป็นวัดซึ่งตั้งอยู่บนเขาน้อย ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 240 เมตร ท้าทายข้อเข่าด้วยบันได 303 ขั้น ด้านบนมีทีเด็ดเป็นองค์เจดีย์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ภายใน สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2030 และยังมีไฮไลท์เป็นลานชมวิวซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพรสูง 9 เมตร ซึ่งมียอดเกศาเป็นทองคำแท้ จากตรงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองน่านในมุมสูงได้แบบ 180 องศา มาช่วงเช้าๆ หน่อยนะ บอกเลยว่าดีมาก!

#14
เสาดินนาน้อยและคอกเสือ

เสาดินนาน้อยและคอกเสือ 1 เสาดินนาน้อยและคอกเสือ 2

เปลี่ยนบรรยากาศจากการดูหมอกขาวๆ มาดูเสาดินลักษณะแปลกตากันบ้าง ที่นี่ให้ฟีลคล้ายๆ กับแพะเมืองผีในจังหวัดแพร่ ว่ากันว่าละแวกนี้เคยเป็นพื้นที่ใต้ทะเลมาก่อน ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกจนกลายมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ว่ากันว่ากว่าจะมีรูปร่างแปลกตาแบบนี้ เสาดินที่นี่น่าจะผ่านการกัดเซาะของลมและฝนมาเป็นเวลาหลายพันปี ใครอยากหาสถานที่ถ่ายรูปเก๋ๆ แปลกตา มาที่นี่ได้เลย

#15
วังศิลาแลง

วังศิลาแลง 2 วังศิลาแลง 1

อีกหนึ่งวิวแปลกตาที่ถือว่าไม่ซ้ำใคร กับทิวทัศน์สวยๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นแกรนด์แคนย่อนแห่งเมืองปัว ความเจ๋งของที่นี่คือการที่จะได้เห็นความสวยซึ่งธรรมชาติสร้างสรรค์มาอย่างน่าตื่นตา กับสายน้ำที่ไหลผ่านซอกหินสูงสองฝั่งจนเกิดเป็นรูปร่างประหลาดแต่บอกเลยว่าคูลเว่อร์ มีมุมต่างๆ ให้ดูกันยาวๆ ประมาณ 400 เมตร การไปชมที่นี่อาจจะต้องมีการปีนป่ายหินกันแบบเล็กๆ นิดหน่อยนะ จะให้ดีควรมีคนในท้องถิ่นนำทางไปด้วยล่ะ เพื่อความปลอดภัย

สำหรับคนที่มีความสุขกับการได้นอนชมธรรมชาติ ได้ชาร์จพลังใจจากวิวป่าเขาลำเนาไพรที่แวดล้อม น่านคือเมืองที่พร้อมมากกกสำหรับการนี้ เพราะทุกย่างก้าวของที่นี่จะมีสีเขียวสบายตาให้ได้เห็น ยิ่งเป็นช่วงปลายปีอากาศที่นี่ก็ยิ่งเย็นสบาย หมอกขาวๆ กับวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นแบบเรียบง่ายไม่พลุกพล่านก็มีให้เห็นกันจนเต็มอิ่มเชียวละ ถ้าคุณชอบฟีลชิลล์ๆ แบบนี้นะ ต้องน่านเลย!

หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์!
Tags: , ,