9 เทคนิคขายของออนไลน์ สำหรับมือใหม่ ช่วงเศรษฐกิจปี 2022 นี้

การขายของออนไลน์ในยุคเศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย เพราะนอกจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนประชาชนต้องดิ้นรนหารายได้เสริม ผันตัวมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้นแล้ว ลูกค้าก็ใช้จ่ายกันอย่างระวังมากขึ้นด้วย แต่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่อย่าเพิ่งกลัวหรือท้อแท้ เพราะ Huapood.com มีเทคนิคขายสินค้าออนไลน์อย่างไรให้ปังมาฝาก!

ข้อดีและข้อเสียของการขายของออนไลน์ 

ก่อนจะไปพูดถึงเทคนิคการขาย ขอพูดถึงข้อดีและข้อเสียในการขายของออนไลน์กันเสียก่อน เพื่อให้เห็นว่าทำไมหลายคนถึงก้าวเข้าสู่วงการค้าขายของออนไลน์ และข้อเสียที่คุณควรระวังคืออะไรบ้าง

ข้อดีของการขายของออนไลน์

• ใช้ต้นทุนต่ำกว่า เพราะไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ ค่าตกร้านค้า และค่าน้ำค่าไฟ  
• ไม่ต้องกังวลเรื่องพนักงาน ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีพนักงานคอยเฝ้าร้านตลอดเวลา  
• เปิดขายได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดเวลาเปิดปิดร้าน ลูกค้าเข้ามาชมและสั่งซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา  
• ขายให้ลูกค้าได้กว้าง ขายได้ท้่วประเทศและทั่วโลก ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็เข้ามาชมร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ 
• ไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้ามาสต็อกไว้จำนวนมากก็สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ 

ข้อเสียการขายของออนไลน์

• การแข่งขันสูงมาก เนื่องจากการลงทุนน้อย ไม่ต้องเฝ้าร้านตลอดเวลา จึงทำให้หลายคนกระโดดเข้ามาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ 
• โดนตัดราคาได้ง่าย เพราะลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่ายและสะดวก จึงเกิดสงครามด้านราคาขึ้น ที่เน้นขายถูกกว่าเพื่อให้ขายได้ไวกว่าแม้จะได้กำไรน้อยกว่ามากก็ตาม  
• ลูกค้าไม่สามารถสัมผัสหรือลองสินค้าได้ บางคนจึงไม่กล้าซื้อ เพราะกลัวสินค้าไม่ตรงปก กลัวไม่คุ้มค่า กลัวเสียเงินเปล่า

เทคนิคการขายของออนไลน์ให้ปังสำหรับมือใหม่

หากคุณต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์แบบปัง ๆ นี่คือเทคนิค 9 ข้อที่ช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่น แตกต่าง และดึงดูดใจจนลูกค้าผู้พบเห็นจะยอมควักกระเป๋าซื้อของจากร้านคุณ!

#1 สร้างตัวตน

การสร้างตัวตนให้ร้านค้าออนไลน์หรือเรียกอีกอย่างว่าการสร้างแบรนด์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องยาก หรือเรื่องไกลตัวสำหรับร้านค้าออนไลน์แม้แต่น้อย แถมยังเป็นสิ่งที่ร้านค้าควรทำมาก ๆ ด้วย โดยการสร้างตัวตนคือการทำให้ลูกค้าตะหนักรู้ว่าคุณคือใคร ทำอะไร ขายอะไร และมีจุดเด่นอย่างไร ซึ่งคุณจะเอาตัวเองมาเป็นตัวตนของร้านหรือไม่ก็ได้ สิ่งสำคัญคือภาพที่ลูกค้าจะจดจำเมื่อพูดถึงร้านค้าหรือแบรนด์ของคุณ

#2 รูปภาพและวิดีโอมีความดึงดูด

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการขายของออนไลน์เลยก็คือรูปภาพและวิดีโอที่มีความสวยงามน่าดึงดูด ดึงจุดเด่นและเล่าเรื่องของสินค้าได้เป็นอย่างดี ภาพความชัด สีสันสดใส ไม่หม่นหมอง แต่ก็ไม่ผิดเพี้ยน และที่สำคัญเลยก็คือ…ต้องถ่ายรูปหรือวิดีโอสินค้าแบบละเอียดชัดเจนทุกมุม ทั้งด้านนอกและด้านใน ให้เหมือนประหนึ่งว่าลูกค้าได้หยิบจับและดูด้วยตาตัวเอง

#3 รายละเอียดสินค้าชัดเจน

ลองคิดว่าคุณเป็นลูกค้า กำลังเลือกดูรูปสินค้าในร้านออนไลน์ร้านหนึ่งอยู่ รู้สึกถูกใจสินค้าชิ้นนั้นเป็นอย่างมาก แต่กลับต้องตัดใจไม่ซื้อเพราะรายละเอียดสินค้าไม่ชัดเจน ไม่ระบุขนาด วัสดุ วัตถุดิบ คำบรรยายสินค้าก็ไม่ดึงดูด ไม่กล่าวถึงจุดเด่นของสินค้า หรือเจอกับข้อความว่าติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เพราะไม่ใช่ทุกคนอยากคุยกับคนขายหรืออยากรอคำตอบจากคุณ ดังนั้นโปรดระบุรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจนตั้งแต่แรกเลยจะดีกว่า

#4 ช่องทางโปรโมตที่หลากหลาย

ยิ่งช่องทางโปรโมตเยอะและมีความหลากหลายก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นร้านค้าออนไลน์ของคุณมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางยอดนิยมอย่างโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น facebook, YouTube, Instagram, LINE@, Twitter หรือน้องใหม่มาแรงอย่าง TikTok และอย่าลืมศึกษาการใช้งานโซเซียลเหล่านั้นให้คล่องแคล่ว ทำรูปแบบเนื้อหาให้เหมาะกับแพลตฟอร์มนั้น ๆ และใช้แฮชแท็ก (#) ที่มีความนิยมและตรงกลุ่มเป้าหมาย

#5  ทำคอนเทนต์อย่าเน้นแต่ขายของ

คุณควรทำคอนเทนต์ร้านค้าออนไลน์ให้หลากหลาย ไม่ใช่แค่โพสต์รูปถ่ายหรือวิดีโอสินค้าเท่านั้น ควรมีคอนเทนต์หรือเนื้อหาอื่น ๆ แทรกเข้าไปด้วย ทั้งข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้ต่าง ๆ เช่น ทำคอนเทนต์วิธีดูแลกระเป๋าหากร้านค้าออนไลน์ของคุณขายกระเป๋า ไอเดียการแต่งตัวต่าง ๆ หากคณขายเสื้อผ้าแฟนชั่น เพื่อให้คอนเทนต์มีความหลากหลายและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น  

#6 สร้างเว็บไซต์

การสร้างเว็บไซต์ภายใต้ชื่อร้านค้าออนไลน์ของคุณ นอกจากจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านได้มากขึ้น สร้างสรรค์หน้าตาของเว็บไซต์ให้เป็นไปตามเอกลักษณ์ของร้านได้ดีกว่า เลือกรูปแบบการแสดงหน้าตาของสินค้าได้ตามต้องการแล้ว การทำ SEO ยังช่วยให้ลูกค้าหาเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของคุณเจอได้ง่ายผ่านระบบ Google Search อีกด้วย

#7 ช่องทางการขาย

หากคุณมีช่องทางการขายมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสทำการขายได้มากเท่านั้น การเปิดร้านค้าเพิ่มบน Marketplace ต่าง ๆ อย่าง Shopee, Lazada, LINE My shop จึงเพิ่มโอกาสให้ขายของออกไปได้มากขึ้น แถม Marketplace เหล่านี้มักมีโปรโมชันส่วนลดมากมาย ส่งฟรี หรือส่วนลดประจำเดือนของ Marketplace เหล่านั้นด้วย ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ไวขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน แต่ทั้งนี้คุณควรเพิ่มช่องทางการขายเท่าที่คุณจะดูแลและจัดการไหว ไม่ใช่นั่นมันจะกลายเป็นภาระแทน

#8 ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างรวดเร็วและจริงใจ

การปฏิสัมพันธ์หรือการตอบคำถามตอบคอมเมนต์ที่ดีคือการตอบอย่างรวดเร็ว สุภาพ ตรงไปตรงมา และจริงใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าคุณพร้อมจะดูแลพวกเขาจริง ๆ เพราะคงไม่มีใครชอบรอคำตอบนาน ๆ หรืออยากซื้อของจากร้านค้าที่ตอบแบบขอไปที 

#9 ช่องทางจัดส่งหลากหลายและส่งรวดเร็ว

คงไม่ดีแน่หากว่าคุณซื้อสินค้าออนไลน์แล้วต้องรอเป็นสัปดาห์กว่าสินค้าจะมาส่งที่บ้าน โดยเฉพาะในยุคที่มีบริษัทขนส่งทั้งของรัฐและเอกชนให้เลือกมากมาย ดังนั้นคุณควรเลือกขนส่งที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ และรวดเร็วเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหากเป็นไปได้ควรมีตัวเลือกขนส่งให้ลูกค้าเลือกตามความสะดวกของพวกเขา เพราะขนส่งบางเจ้าอาจทำงานได้ไม่ดีนักในบริเวณพื้นที่บ้านของลูกค้าบางรายก็เป็นได้ 

Huapood.com หวังว่าเพื่อน ๆ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณจนยอดขายเพิ่มหลายเท่า เงินเข้าปัง ๆ ไม่หยุด!

ภาพปก freepik.com