ADVERTISEMENT
ถ้าคุณอยากทำทำธุรกิจ แต่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน Huapood.com ขอแนะนำอีกหนึ่งวิธีทำธุรกิจที่ง่าย สะดวก และปลอดภัยกว่า นั่นคือการซื้อแฟรนไชส์
ธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร
แฟรนไชส์คือการซื้อขายสิทธิ์ในการทำธุรกิจนั้น ๆ โดยจะได้รับสิทธิ์ในการใช้ชื่อ โลโก้ และซื่อสินค้าและวัตถุดิบจากเจ้าของแบรนด์ รวมถึงอาจมีบริการทำการตลาดและโปรโมชั่นเพิ่มเข้ามาด้วย ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ผู้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์จะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของสาขาที่ซื้อไปเปิด แต่ไม่ใช่การซื้อกิจการของแบรนด์ทั้งหมด
ข้อดีของการทำธุรกิจแบบซื้อแฟรนไชส์
- ไม่ต้องศึกษาหรือทดลองธุรกิจนี้ตั้งแต่ต้น เป็นการซื้อความรู้ที่ประสบความสำเร็จมาดำเนินการ
- ได้สูตรอาหาร ระบบการจัดการร้าน และอาจรวมถึงแหล่งซื้อวัตถุดิบหรือซื้อได้ในราคาพิเศษ
- ไม่ต้องสร้างแบรนด์ใหม่
- แบรนด์ดูแลเรื่องการตลาดหรือมาร์เก็ตติงให้แล้ว
- ไม่ต้องการออกแบบโลโก้หรือกราฟิกต่าง ๆ เพราะแบรนด์เตรียมไว้ให้เรียบร้อย
#1
ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด
ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิดคือธุรกิจแฟรนไชส์ขายลูกชิ้นปลา กุ้ง ไส้กรอกไก่ โดยเน้นสินค้าที่ได้รับฮาลาล (Halal) และเพราะราคาขายไม่แพง จึงขายคล่องมาก ๆ ส่วนทำเลก็ไม่จำเป็นต้องจับจองพื้นที่บนห้าง เพราะทำเลเด่น ๆ มักเป็นปั๊มน้ำมัน หน้าร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ตลาดนัด ที่สำคัญเลยก็คือไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปี ขายได้เท่าไร ก็รับไปเท่านั้นค่ะ
ประเภทแฟรนไชส์: ของกินเล่น
ค่าแฟรนไชส์: ชุดเริ่มต้นขายเริ่มต้นที่ 3,990 บาท และชุดยืมอุปกรณ์ จ่ายมัดจำ 10,000 บาท เปิดร้านได้เลย
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): ไม่มี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด
#2
มาซ่า หม่าล่าเทพ เบนโตะ
มาซ่า หม่าล่าเทพ เบนโตะ มีค่าแฟรนไชส์เริ่มต้นเพียง 4,880 บาท คืนทุนภายใน 1-2 เดือน ที่คืนทุนเร็วก็เพราะว่ามีเมนูหม่าล่าให้เลือกถึง 28 อย่าง ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และซอสต่าง ๆ ให้เลือกเพียบ ราคาขายเริ่มต้นเพียง 8 บาท หรือเซตละ 28 บาท ราคาไม่แรงแบบนี้ ลูกค้าจึงกลับมาซื้อบ่อย ๆ ทั้งยังมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายออกมาเรื่อย ๆ แถมหม่าล่ายังเป็นเมนูของกินเล่นยอดฮิตในยุคนี้อีกด้วย
ประเภทแฟรนไชส์: ของกินเล่น
ค่าแฟรนไชส์: 4,880 บาท ไม่รวมค่าลงทุนอื่น ๆ
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): ไม่มี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: มาซ่า หม่าล่าเทพ เบนโตะ
#3
Am Tea
Am Tea แฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่มที่มีจุดเด่นอยู่ที่เมนู เพราะมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งกาแฟ โกโก้ ชานม ชาไทย โซดาผลไม้ และเครื่องดื่มสุขภาพที่ใช้น้ำตาล 0 แคลอรีซึ่งเป็นจุดขายของร้านนี้เลยก็ว่าได้ ราคาจำหน่ายที่ไม่สูง อยู่ในช่วง 19-89 บาท จึงขายง่าย สำหรับผู้สนใจสามารถเลือกเปิดร้านได้ทั้งแบบคีออสหรือร้านคาเฟ่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับทำเลและงบปะมาณ
ประเภทแฟรนไชส์: เครื่องดื่ม
ค่าแฟรนไชส์: 90,000 บาท ไม่รวมค่าลงทุนอื่น ๆ
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): 5,000 บาทต่อปี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: Am Tea
#4 รสโปรด (ROSPROD)
หากคุณอยากเปิดร้านอาหารไทย รสโปรด (ROSPROD) อาจเป็นแฟรนไชส์ที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี การันตีความอร่อยด้วยเมนูเด็ดรสชาติจัดจ้านแบบไทย ๆ ทั้งกะเพราเนื้อปูก้อน แกงส้มใต้ปูผักไข่รวม น้ำพริกพร้อมผัก แค่เห็นชื่อเมนูก็รู้แล้วว่าเป็นอาหารไทยระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับทำเลที่มีบ้านพักอาศัยแบบครอบครัวใหญ่ และยังมีเซตเมนูสำหรับขายเดลิเวอรีอีกด้วย
ประเภทแฟรนไชส์: อาหาร
ค่าแฟรนไชส์: 90,000 บาท ไม่รวมค่าลงทุนอื่น ๆ
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): ไม่มี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: รสโปรด
#5
ไก่ย่างห้าดาว
ถ้าพูดถึงธุรกิจห้าดาวอาจจะไม่ค่อยคุ้น แต่ถ้าบอกว่ามันคือไก่ย่างห้าดาว หลายคนต้องร้องอ๋อทันที เพราะไก่ย่างห้าดาวเป็นชื่อติดหูคนไทยมานาน มีให้เลือกทั้งไก่ย่าง ไก่ทอด ข้าวมันไก่ บะหมี่ และอื่น ๆ ไม่ว่าคุณมีทำเลแบบไหน ธุรกิจห้าดาวก็มีรูปแบบร้านให้เลือก ทั้งคีออสขนาดเล็ก คีออสแบบพรีเมียม ร้าน หรือแบบซื้อกลับบ้าน ที่สำคัญเลยก็คือค่าแฟรนไชส์ถูกมาก
ประเภทแฟรนไชส์: อาหาร
ค่าแฟรนไชส์: 5,000 บาท ไม่รวมค่าลงทุนอื่น ๆ
ค่ามาร์เก็ตติงฟี (Marketing Fee): 1.5% จากยอดขาย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: Five Star Chicken
#6
Manoi (มาโนอิ)
Manoi (มาโนอิ) แฟรนไชส์เครื่องดื่มประเภทชานมไข่มุกที่ได้รับความนิยมสูง มีอัตราการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว เพราะรูปลักษณ์ทันสมัยและดูอินเตอร์ ทั้งตัวเครื่องดื่มยังไร้ไขมันทรานต์ จึงอร่อยและดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ประสบการณ์กว่า 10 ปีจึงทำให้แบรนด์มีความพร้อมทั้งด้านการตลาด การบริการ และจัดการร้าน เรียกได้ว่าคุณซื้อแฟรนไชส์แล้วแทบไม่ต้องวุ่นวายเรื่องอื่น ๆ เลย
ประเภทแฟรนไชส์: เครื่องดื่ม
ค่าแฟรนไชส์: 59,900 บาท ไม่รวมค่าลงทุนอื่น ๆ
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): ไม่มี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: มาโนอิ
#7
โชกุน สเต็ก
ถ้าอยากได้แฟรนไชส์สเต็กราคาไม่แรง แต่กระแสแรง ลงทุนน้อย แต่ยอดขายปัง ตัวเลือกแรก ๆ ก็คงไม้พ้นแฟรนไชส์สเต็กโชกุน มีเมนูให้เลือกเยอะ ทั้งสเต็กโคขุน หมู ไก่ และยังมีเนื้อหมักซอสพิเศษสูตรเฉพาะของโชกุน นอกจากนี้ยังสปาเกตตีและของกินเล่นเสริมทัพเมนูด้วย ราคาเริ่มต้น 40 บาทจึงขายง่าย คืนทุนเร็ว
ประเภทแฟรนไชส์: อาหาร
ค่าแฟรนไชส์: เริ่มต้นที่ 11,900 บาท
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): ไม่มี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: แฟรนไชส์สเต็กโชกุน
#8
ซูชิหมีพ่นไฟ
ถ้าคุณอยากทำธุรกิจอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบบซื้อกลับบ้านหรือนั่งกินที่ร้าน แฟรนไชส์ซูชิหมีพ่นไฟอาจเหมาะกับคุณ ใช้เงินลงทุนหลักหมื่นกลาง ๆ แต่สิ่งที่จะได้คือวัตถุดิบอาหารแบบจัดเต็ม ครบวงจร ไม่ว่าจะมีพื้นที่เล็กหรือใหญ่ก็เริ่มต้นขายได้เลย
ประเภทแฟรนไชส์: อาหาร
ค่าแฟรนไชส์: 69,000 บาท
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): ไม่มี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: ซูชิหมีพ่นไฟ
#9
กาแฟมวลชน
ถ้าคุณมองหาแฟรนไชส์เพื่อการลงทุนในต่างประเทศ กาแฟมวลชนอาจเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เพราะรองรับการขยายสาขาไปยัง 10 ประเทศในอาเซียนและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ส่วนชื่อเสียงก็จัดว่าดี เพราะมีรายการเครื่องดื่มให้เลือกครบครัน ทั้งชา กาแฟ น้ำโซดาผลไม้ ขนมต่าง ๆ รวมไปถึงรับจัดงานเลี้ยงอีกด้วย
ประเภทแฟรนไชส์: เครื่องดื่ม
ค่าแฟรนไชส์: เริ่มต้น 359,000 บาท
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): 4% ต่อเดือน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: Cafe MuanChon
#10
Kamu Tea
สายชานมไข่มุกคงไม่มีใครไม่รู้จัก Kamu Tea เพราะจำหน่ายชาคุณภาพ รสชาติดี เข้มข้น มีเมนูใหม่และโปรโมชันอยู่เสมอ ชื่อเสียงเหล่านี้จึงเป็นจุดเด่นของแฟรนไชส์ Kamu Tea ที่ถึงแม้จะใช้เงินลงทุนสูง แต่โอกาสเติบโตก็สูงมากด้วยเช่นกัน
ประเภทแฟรนไชส์: เครื่องดื่ม
ค่าแฟรนไชส์: 1,500,000 บาท
ค่ารอยัลตีฟี (Royalty Fee): 6% ต่อเดือน
ค่ามาร์เก็ตติงฟี (Marketing Fee): 2% ต่อเดือน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: Kamu Tea
10 ธุรกิจแฟรนไชส์นี้แม้จะลงทุนน้อย แต่หากจับทำเลดี ๆ ได้ล่ะก็ โอกาสสร้างยอดขายปัง ๆ ก็อยู่แค่เอื้อม ที่สำคัญเลยก็คือต้องรักษาคุณภาพสินค้าและบริการให้ดี เท่านี้ลูกค้าก็พร้อมสนับสนุนเสมอ
รูปปก freepik.com