9 เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์ไหนดี น่าเชื่อถือ ในปี 2021

9 เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์ไหนดี น่าเชื่อถือ ในปี 2021

Forex เป็นอีกการลงทุนที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ เพราะทำเงินได้รวดเร็วและสร้างกำไรได้จำนวนมาก แม้จะมีเงินตั้งต้นเพียงเล็กน้อย และยังสามารถเทรดได้ตลอดเวลาอีกด้วย ฟังดูน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ งั้นตามมาดูกันเลยว่า Forex คืออะไร และสมัครเปิดบัญชีที่โบรกเกอร์ไหนดี

Forex คืออะไร

Forex (ฟอเร็กซ์) คือการเก็งกำไรผ่านการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดที่กว้างมากเพราะซื้อขายกันทั่วโลก สามารถเทรดได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกตลาดที่ประเทศใด มีคู่สกุลเงินให้เลือกซื้อมากมาย ทั้งยังมีเครื่องมือช่วยเพิ่มอัตรามูลค่าของเงินลงทุนอีกด้วย

หากเพื่อน ๆ ต้องการเทรด Forex หรือทำความรู้จักมากกว่านี้ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> Forex (Forex) คืออะไร? | วิธีเริ่มเบื้องต้น เทรดให้ได้กำไร

เลือกเว็บไซต์โบรกเกอร์เทรด Forex อย่างไร

หากต้องการเทรด Forex คุณก็ต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์สำหรับเทรด Forex โดยเฉพาะเสียก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์โบรกเกอร์ให้เลือกเยอะมาก ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นลำดับต้น ๆ ก็คือข้อมูลเหล่านี้

  • ความน่าเชื่อถือ ดูระยะเวลาที่ก่อตั้ง ยิ่งนานก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือ โอกาสปิดเว็บไซต์หนีมีน้อยลง 
  • มีใบอนุญาตชัดเจน ถูกกฎหมายสากล
  • เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ มีข้อมูลครบถ้วน ละเอียด และชัดเจน
  • ช่องทางการฝากถอนเงินสะดวก ปลอดภัย แสดงระยะเวลาและค่าธรรมเนียมการถอนที่ชัดเจน 
  • มีทีมงานคอยช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว หากสแตนด์บาย 24 ชั่วโมงได้ก็ยิ่งดี เพราะการเทรด Forex เกิดขึ้นตลอดเวลา และหากทีมงานพูดภาษาไทยได้ด้วยก็ควรให้คะแนนเพิ่ม
  • ระบบเสถียร ไม่ล่ม ไม่ค้าง โดยสามารถดูได้จากคอมเมนต์บนสื่อโซเชียลหรือรีวิวต่าง ๆ 
  • ประเภทบัญชีที่มีให้เลือก เพราะค่าธรรมเนียม ค่าสเปรด และค่าเลเวอเรจอาจต่างกันไปตามประเภทบัญชี
  • แพลตฟอร์มสำหรับเทรด Forex หากแพลตฟอร์มดี การเทรดก็ง่าย ดูค่าต่าง ๆ เปรียบเทียบได้ง่ายกว่า และมีโอกาสล่มน้อย 
  • โบนัสพิเศษ เช่น Cashback เงินเพิ่มพิเศษหากฝากเงินเข้าบัญชี หรือลุ้นรางวัลต่าง ๆ
  • มีกิจกรรม สัมมนา ข้อมูล วิดีโอให้ความรู้เรื่อง Forex  

ทั้งนี้ Huapood.com ได้รวบรวมเว็บไซต์โบรกเกอร์ Forex มาให้เพื่อน ๆ เลือกแล้วถึง 9 เว็บไซต์ด้วยกัน

ตารางเปรียบเทียบ 9 เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์ไหนดี น่าเชื่อถือ ในปี 2021
ตารางเปรียบเทียบ 9 เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์ไหนดี น่าเชื่อถือ ในปี 2021 (คลิกที่รูปเพื่อขยาย)

#1
Exness

Exness เว็บเทรด Forex

Exness คือโบรกเกอร์ Forex ที่มีความน่าเชื่อถือไม่น้อย มีชื่อเสียงในหมู่คนไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2008 มีใบอนุญาตมากมาย นอกจากมีจุดเด่นที่ค่าสเปรดต่ำ ค่าเลเวอเรจสูง เปิดบัญชีง่าย ฝากเงินเข้าได้ไว ก็ยังมีฝ่ายบริการลูกค้าเป็นภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย 

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์ 
  • ค่าคอมมิชชัน 0-3.5 ดอลลาร์
  • มีช่องทางฝาก/ถอนเงินให้เลือกเยอะ คือ ธนาคารในประเทศไทย, Tether (USDT OMNI), Bitcoin, PromptPay, NETELLER, Perfect Money, WebMoney, Skrill
  • ระยะเวลาฝาก/ถอนเงินมีทั้งแบบที่ได้รับเงินเข้าบัญชีทันที หรือรอไม่เกิน 72 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับวิธีการฝากถอนที่เลือก
  • แพลตฟอร์มซื้อขายชื่อดังอย่าง MetaTrader 4, 5 และ WebTerminal
  • ได้รับใบอนุญาตจาก CySEC, FSA, CBCS, FSC, FSCA, CySEC, FCA
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และรองรับภาษาไทย
  • ค่า Spread ต่ำ เริ่มที่ 1.3 
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 2,000
  • สามารถเทรดโลหะ Cryptocurrency พลังงาน ดัชนี และหุ้นได้อีกด้วย

#2
XM

XM เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

XM โบรกเกอร์เทรด Forex ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2009 เป็นที่รู้จักกันดีเพราะมักมีโบนัสให้กับนักเทรด ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัสแรกเข้าจำนวนหลายสิบเหรียญ หรือได้โบนัสพิเศษเมื่อฝากเงินเข้า ทั้งยังมีบัญชีแบบให้เลือกหลายแบบซึ่งปลอดค่าคอมมิชชันหรือคิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 5 ดอลลาร์ 
  • ไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชัน
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินให้เลือกเยอะ คือ ธนาคารในประเทศไทย, Credit Card, Webmoney, PerfectMoney, Skrill, Neteller
  • ฝากแล้วเงินเข้าทันที ได้รับเงินที่ถอนภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าธรรมเนียมฝากถอน 
  • แพลตฟอร์มซื้อขายชื่อดังอย่าง MetaTrader 4, 5 และ XM WebTrader 
  • ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC, CySEC, IFSC และ DFSA 
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และรองรับภาษาไทย
  • ค่า Spread ต่ำสุด ๆ เริ่มที่ 0.6 
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 888
  • สามารถเทรดดัชนีหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น โลหะมีค่า และพลังงาน 
  • โบนัสสูงสุด 5,000 ดอลลาร์

#3
BDSwiss Thailand

BDSwiss เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

BDSwiss Thailand เปิดเว็บไซต์มาตั้งแต่ปี 2012 ได้รับความนิยมสูงเพราะมีการแปลเว็บไซต์เป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่าย มีฝ่ายบริการที่คุยภาษาไทยได้ ค่าสเปรดต่ำ จึงเหมาะกับนักเทรด Forex มือใหม่เป็นอย่างยิ่ง

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ 
  • ค่าคอมมิชชันเริ่มที่ 0-5 ดอลลาร์
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินให้เลือกเยอะ คือ ธนาคารในประเทศไทย, Credit Card, Skrill, Neteller และโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ
  • ฝากแล้วเงินเข้าทันทีหรือ 24-48 ชั่วโมง ส่วนการถอนจะดำเนินการแล้วเสร็จใน 24 ชั่วโมง
  • แพลตฟอร์มซื้อขายชื่อดังอย่าง MetaTrader 4, 5, BDSwiss Mobile APP และ BDSwiss WebTrader 
  • ได้รับใบอนุญาตจาก NFA, CySEC, FSC, BaFin และ FSA
  • ฝ่ายบริการลูกค้าเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่พูดภาษาไทยได้
  • ค่า Spread ต่ำสุด ๆ เริ่มที่ 0
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 500
  • สามารถเทรดหุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ETF และ Cryptocurrency ได้

#4
ForexTime

forextime เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

จุดเด่นของโบรกเกอร์ ForexTime ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 ก็คือคลังความรู้เรื่อง Forex ที่มีทั้งบทความ วิดีโอ อีบุ๊ก และสัมมนาออนไลน์ จึงเหมาะกับผู้เทรดมือใหม่ที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติมไปด้วย ทั้งยังมีช่องทางฝากและถอนเงินให้เลือกมากกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ ท้ายสุดคือโบนัสช่วนเพื่อนที่ให้ตอบแทนค่อนข้างสูงทีเดียว

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์ 
  • ค่าธรรมเนียมเริ่มที่ 3.01 ดอลลาร์
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินที่หลากหลายกว่าที่อื่น มีทั้งธนาคารในประเทศไทย, Credit Card, Skrill/Moneybookers, VLOAD, WebMoney, Perfectmoney, Crypto, Bitcoin
  • ระยะเวลาฝาก/ถอนเงินมีทั้งแบบที่ได้รับเงินเข้าบัญชีใน 30 นาที หรือนานสุดคือ 10 วัน ขึ้นอยู่กับวิธีการฝากถอนที่เลือก
  • แพลตฟอร์มซื้อขายชื่อดังอย่าง MetaTrader 4, 5 และ WebTrader 
  • ได้รับใบอนุญาตจาก CySEC, FCA และ ICF
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และรองรับภาษาไทย
  • ค่า Spread ต่ำมาก เริ่มที่ 0.1
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 1,000
  • สามารถเทรดหุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และโลหะ 
  • โบนัสพิเศษ หากแนะนำเพื่อน คุณจะได้รับ 50 ดอลลาร์

#5
FBS

FBS เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

FBS โบรกเกอร์เทรด Forex ที่เปิดทำการปี 2009 ได้รับรางวัลระดับนานาชาติเป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจ 10 กว่าปี แถมยังมีสมาชิกใช้งานกว่า 16 ล้านคน จึงมีความน่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อย ที่สำคัญเลยก็คือโบรกเกอร์นี้มักมีโบนัสล่อใจแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะได้เงินเพิ่มเมื่อเติมเงิน ได้ cashback หรือลุ้นรางวัลพิเศษต่าง ๆ เช่น รถยนต์แบรนด์หรู  

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์ 
  • ค่าคอมมิชชัน 0 ดอลลาร์
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินที่มีให้เลือกหลายช่องทาง รองรับธนาคารในประเทศไทย, Credit Card, Skrill, Neteller, Perfectmoney, STICPAY และโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ
  • ฝากแล้วเงินเข้าทันทีหรือ 24 ชั่วโมง การถอนได้ใน 30 นาทีหรือ 48 ชั่วโมง หากโอนเงินข้ามประเทศอาจนานถึง 10 วัน 
  • แพลตฟอร์มซื้อขาย MetaTrader 4, 5 และ FBS Trader
  • ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และ FSCA
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และรองรับภาษาไทย
  • ค่า Spread เริ่มที่ 0
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 3,000
  • สามารถเทรดหุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และโลหะ 
  • โบนัสพิเศษและ cashback เมื่อฝากเงิน และมีการจับรางวัลพิเศษต่าง ๆ ด้วย 

#6
HotForex

HotForex เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

โบรกเกอร์ HotForex เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2010 จึงมีความน่าเชื่อถือสูง โอกาสปิดเว็บไซต์หนีมีน้อย ทั้งยังทำประกันการสูญเสียทางการเงินเอาไว้กับริษัทประกันชั้นนำอย่าง Renaissance Insurance Reinvented ด้วยวงเงินสูงถึง 5 ล้านยูโร และโบรกเกอร์ยังแยกเงินทุนของลูกค้าเอาไว้อีกบัญชี จึงมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับ

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 5 ดอลลาร์ 
  • ค่าธรรมเนียม 0 ดอลลาร์
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินที่มีให้เลือกถึง 15 ช่องทาง รองรับธนาคารในประเทศไทย, Credit Card, Skrill, Neteller, Perfectmoney, STICPAY และโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ
  • ฝากแล้วเงินเข้าทันทีหรือ 7 วัน ถอนได้ทันทีหรือสูงสุด 10 วัน ซึ่งการฝากถอนที่นานสุดมักเป็นการโอนเงินข้ามธนาคารระหว่างประเทศ 
  • แพลตฟอร์มซื้อขาย MetaTrader 4, 5 และ HotForex FIX/API
  • ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และ FSCA
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่รองรับภาษาไทย
  • ค่า Spread เริ่มที่ 0
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 1,000
  • สามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร โลหะ พลังงาน หุ้น ดัชนี DMA และ ETFs

#7
Pepperstone

Pepperstone เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

โบรกเกอร์ Pepperstone เปิดให้เทรด Forex ตั้งแต่ปี 2010 ยาวนานมากกว่า 10 ปี และยังเป็นโบรกเกอร์ที่มีผู้ใช้งานชาวไทยเป็นจำนวนมาก ถึงขึ้นมีสำนักอยู่ที่ Central World และแน่นอนว่ามีทีมงานคอยช่วยเหลือโดยใช้ภาษาไทย ผ่านทั้งแชตสด อีเมล และโทรศัพท์

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 200 ดอลลาร์ 
  • ค่าคอมมิชชันเริ่มที่ 0 ดอลลาร์ 
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินมีทั้งการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ, บัตรเครดิต/เดบิต Visa หรือ Mastercard, PayPal, Neteller และ Skrill
  • ฝาก/ถอนได้เงินทันทีหรือภายใน 48 ชั่วโมง ยกเว้นทำรายการผ่าน PayPal อาจนานถึง 7 วัน  
  • แพลตฟอร์มซื้อขาย MetaTrader 4, 5 และ cTrader
  • ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และ FCA
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รองรับภาษาไทย
  • Spread เริ่มที่ 0
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 500
  • สามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี CFD และ Cryptocurrency ได้ 
  • มีโบนัสคืนเงินต่อการเทรดแต่ละล็อต 

#8
ICMarkets

ICMarkets เว็บเทรด Forex โบรกเกอร์

ICMarkets โบรกเกอร์เทรด Forex นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งเวลากว่า 14 ปีก็การันตีความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี แม้ว่าการแปลภาษาไทยบนหน้าเว็บไซต์จะยังไม่สมบูรณ์มากนัก แต่ก็มีฝ่ายบริการลูกค้าที่รองรับภาษาไทยโดยคนไทย ดังนั้นไม่ต้องห่วงหากว่าเกิดปัญหาใด ๆ ขึ้น

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 200 ดอลลาร์ 
  • ค่าคอมมิชชันเริ่มที่ 0 ดอลลาร์ 
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินมีทั้งการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ, Paypal, Neteller, Skrill, Webmoney 
  • ฝาก/ถอนได้เงินทันทีหรือภายใน 1-5 วัน  
  • แพลตฟอร์มซื้อขาย MetaTrader 4, 5 และ cTrader
  • ได้รับใบอนุญาตจาก FSA, ASIC, CySEC
  • มีฝ่ายบริการลูกค้า 24 ชั่วโมง และรองรับภาษาไทย
  • Spread เริ่มที่ 0
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 500
  • สามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, พันธบัตร, หุ้น, ฟิวเจอร์ Cryptocurrency ได้

#9
Forex4you

Forex4you

Forex4you เปิดทำการมาแล้วกว่า 14 ปี นับตั้งแต่ปี 2007 ระยะเวลานานขนาดนี้ก็ช่วยให้วางใจได้ระดับหนึ่งว่าโบรกเกอร์จะไม่ปิดตัวแล้วหอบเงินเราหนีไป นอกจากนี้โบรกเกอร์เทรด Forex แห่งนี้ยังเน้นทำการตลาดกับลูกค้าชาวไทย เพราะมาเปิดสำนักงานถึง 2 แห่งในไทย ทั้งที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่เลยด้วย

จุดเด่น

  • ฝากขั้นต่ำ 0 ดอลลาร์ 
  • ค่าคอมมิชชันเริ่มที่ 0-10 ดอลลาร์ 
  • ช่องทางฝาก/ถอนเงินมีทั้งธนาคารในประเทศ, บัตรเครดิต Visa หรือ Mastercard, Neteller, Skrill, WebMoney และ AstroPay
  • ฝาก/ถอนได้เงินทันที ยกเว้นถอนด้วยบัตรเครดิตจะใช้เวลานานกว่า ประมาณ 1-6 วัน
  • แพลตฟอร์มซื้อขาย MetaTrader 4 และ Forex4you
  • ได้รับใบอนุญาตจาก SIBA และ FSC
  • มีฝ่ายบริการลูกค้า 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่พูดภาษาไทยได้
  • Spread เริ่มที่ 0
  • เลเวอเรจสูงสุดถึง 2,000
  • สามารถเทรดสินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, พันธบัตร, หุ้น, ฟิวเจอร์ Cryptocurrency ได้ 
  • มีสำนักงานในไทย ที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ 

หากเลือกเว็บไซต์โบรกเกอร์ Forex ได้แล้ว ก็อย่าลืมเพิ่มเติมข้อมูลความรู้เรื่องการเทรดให้แน่น เพื่อลดโอกาสขาดทุน และเพิ่มโอกาสทำกำไร ที่สำคัญเลยก็คือ…ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นอกจากต้องแน่นเรื่องความรู้แล้วก็ต้องมีสติในการลงทุนเสมอ

ภาพปก freepik.com

หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์!
Tags: , ,