Swap คืออะไร คำนวณอย่างไร ? เริ่มเทรด Forex ต้องรู้ !

สำหรับใครที่อยากเริ่มหัดเทรดกับ Forex หรือลงทุนในเงินตราต่างประเทศ มีสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย นั่นก็คือ Swap (อ่านว่าสวอป) ซึ่งมีความสำคัญต่อจำนวนเงินในกระเป๋าของเรา เพราะหลายครั้งที่มือใหม่ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ กำไรถึงหดหาย เงินไม่เข้ากระเป๋า หนึ่งในปัจจัยนั้นอาจเป็นเรื่องของ Swap ก็เป็นได้ วันนั้นเราจึงพามาทำความรู้จักกับ Swap กันว่ามันคืออะไร มีประโยชน์ และมีวิธีคำนวณอย่างไร เพื่อนำไปปรับใช้ในกลยุทธ์ในการวางแผนการเทรดต่อไป

ภาพจาก Freepik

Swap คืออะไร?

Swap คือค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยจากการเทรดหรือเปิดออร์เดอร์ข้ามคืน หรือเรียกง่าย  ๆ ว่า “ดอกเบี้ยข้ามคืน” (Overnight Interest) โดยที่ Swap นั้นเกิดจากการที่โบรกเกอร์คิดจากอัตราดอกเบี้ยของสองสกุลเงินที่จับคู่กันในตลาด Forex

Swap มีทั้งค่าบวก (Debit) และค่าลบ (Credit) ไม่ว่าจะเป็นฝั่งขายหรือฝั่งซื้อ หาก Swap มีค่าเป็นบวกผู้เทรดจะได้รับดอกเบี้ย แต่จะต้องเสียดอกเบี้ยเมื่อ Swap มีค่าเป็นลบ ซึ่งโดยปกติค่า Swap นี้จะต้องมีผลบวกและลบอยู่เสมอ กล่าวคือจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อย่างแน่นอน

ดังนั้น Swap ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการวางแผนการลงทุนของ Forex ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Position Trading (หมายถึง การลงทุนระยะสั้นที่ถูกปรับระยะเวลาการลงทุนให้ยาวนานขึ้น เป็นการตอบสนองกับแนวโน้มหรือเทรนด์ของราคาหุ้นในเวลานั้น ซึ่งอาจจะกินระยะเวลาหลายสัปดาห์) เป็นต้น

ภาพจาก Freepik

สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้เกี่ยวกับ Swap มีอะไรบ้าง

1. ค่า Swap จะเกิดขึ้นเมื่อคุณถือออร์เดอร์ข้ามคืน เช่น ถ้าคุณเปิดออร์เดอร์ตอนหนึ่งทุ่ม และถือไปจนเลยเวลาเที่ยงคืน จะเริ่มมีค่า Swap เกิดขึ้น (ยึดตามเวลาใน Server)
2. ค่า Swap จะมีการคิดทุกวัน คำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบวันต่อวัน ในทุก ๆ 5 โมงเย็น ตามเวลาของ New York ซึ่งช้ากว่าเวลาที่ประเทศไทย 12 ชั่วโมงโดยประมาณ ตั้งแต่เปิดยันปิดตลาด ค่า Swap จะไม่ถูกเก็บในคืนวันเสาร์และคืนวันอาทิตย์ แต่จะไปทบและเรียกเก็บรวบยอดทีเดียวในคืนวันพุธ ทำให้คืนวันพุธเกิดค่า Swap แบบพิเศษ หรือมากกว่าปกติถึง 3 เท่า ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการถือออร์เดอร์แบบ Sell ทิ้งไว้ในคืนวันพุธ
3. นักลงทุนหลายคนมองว่า Swap เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ไม่ควรจะปล่อยปะละเลย หากบรรลุเป้าหมายของการเทรดแล้ว ก็ควรจะรีบปิดออร์เดอร์ อย่าปล่อยให้ข้ามคืน โดยเฉพาะในวันพุธที่เก็บค่า Swap 3 เท่า อย่างที่ได้กล่าวข้างต้น
4. ค่า Swap เป็นเรื่องปกติของโบรกเกอร์ ซึ่งจะมีมากหรือน้อย แล้วแต่ของตกลงของ Broker ว่าเป็นอย่างไร แต่ในโบรกเกอร์บางเจ้าก็ไม่คิดค่า Swap เช่น FBS, Weltrade, GMI Edge ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ดุลพินิจและเปรียบเทียบน้ำหนักต่าง ๆ ให้ดี เพราะโบรกเกอร์ที่คิดค่า Swap จะดูจาก Spot Price คือราคาสินค้า ณ เวลานั้น ๆ ที่มีความชัดเจนกว่าแบบ Future Price หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีความเสี่ยง โดยโบรกเกอร์ที่ไม่คิด Swap มักจะเลือกใช้ราคา Future เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำกว่านั่นเอง อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นเราควรมองปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบด้านและต้องตัด Mindset ที่ว่าจะไม่ยอมเสียอะไรเลยออกไป
5. เราจะเห็นว่าค่า Swap จะมี 2 แบบ ได้แก่ Swap Long และ Swap Short โดยที่ Swap Long จะใช้กับออร์เดอร์ที่เป็น Buy ส่วน Swap Short จะใช้กับออร์เดอร์ที่เป็น Sell
6. Swap Free คือ การเลือกที่จะใช้บัญชีที่ปลอดค่าธรรมเนียม โดยผู้ที่สามารถใช้สิทธิ์นี้คือเทรดเดอร์ชาวมุสลิมที่ตามความเชื่อของอิสลามนั้นไม่ให้รับหรือจ่ายดอกเบี้ย

ภาพจาก Freepik

ข้อดี-ข้อเสีย ของ Swap

ข้อดี

1. นักเทรดสามารถสร้างกำไรจากการคิดอัตราดอกเบี้ยได้เหมือนได้ดอกเบี้ยทบต้นในการฝากธนาคาร หากถือออร์เดอร์ข้ามคืนและค่า Swap มีค่าเป็นบวก
2. ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงเมื่อเทรดแบบ Hedging หรือ Carry Trade ในคู่สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่างกัน

• Hedging เป็นการซื้อและขายเงินสกุลเดียวกันในเวลาคาบเกี่ยวกัน เพื่อประกันความเสี่ยงของการลงทุน
• Carry Trade เป็นการยืมตราสารทางการเงินชนิดหนึ่ง และใช้ตราสารชนิดนั้นไปซื้อตราสารอีกชนิดหนึ่ง

ข้อเสีย

1. แน่นอนว่าหากค่า Swap เป็นลบ นักเทรดก็จะต้องเสียดอกเบี้ย และถึงแม้บางครั้งจะเทรดได้กำไร แต่เมื่อหักกับค่า Swap แล้ว กลับไม่เหลืออะไรหรือติดลบด้วยซ้ำไป
2. ค่า Swap ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ และไม่ค่อยจะมีผลในเชิงบวกมากนัก เช่นในกรณีที่นักลงทุนมีผลประกอบการเป็นบวกอาจจะได้ผลตอบแทนน้อยนิดจนไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง แต่หากในกรณีที่ผลประกอบการเป็นลบ นักลงทุนอาจถูกเรียกเก็บเยอะขึ้น และบางครั้งโบรกเกอร์บางแห่งก็ไม่ได้คิดค่า Swap ให้ชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนเสียผลประโยชน์ เป็นต้น

ภาพประกอบจาก XM Swap calculation

การคำนวณค่า Swap ทำอย่างไร ?

หากยึดตามเวลาไทย เราจะเริ่มเปิดตลาดในวันจันทร์เวลา 04.00 น. และปิดตลาดในวันเสาร์เวลา 04.00 น. และค่า Swap จะเกิดเมื่อเปิดออร์เดอร์เกิน 24 ชั่วโมง

ตัวแปรที่สำคัญต่อการคิดค่า Swap คืออัตราดอกเบี้ย โดยให้เทียบจากสกุลเงินตัวหน้า โดยการจะได้หรือเสียค่า Swap มีวิธีดูง่าย ๆ ดังนี้

ถ้าเอาสกุลเงินที่อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า ไปซื้อสกุลเงินที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า จะได้ค่า Swap อยู่เสมอ แต่ถ้าเอาสกุลเงินที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ไปขายให้สกุลเงินที่อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า จะเสียค่า Swap อยู่เสมอ

สูตรคำนวณ Swap = (1Pip x อัตรา Swap x จำนวนคืน) / 10

มูลค่า 1Pip คือการเคลื่อนที่ 1Pip ว่าเท่ากับเงินเท่าไหร่ เช่น มูลค่า 1Pip = $5 หมายความว่าเมื่อเปิด Order 1 lot ราคาเคลื่อนไป 1Pip จะเกิดกำไรขาดทุนอยู่ที่ $5

อัตราค่า Swap สามารถเช็คได้จากโปรแกรม MT4 เข้าไปที่หน้าต่าง Market Watch คลิกขวาเช็คค่าคู่เงินที่ต้องการเช็ค จากนั้นคลิกเลือก “Specification”

ตัวอย่างการคำนวณสกุลเงินคู่หนึ่ง

ถ้า 1Pip = $5, อัตราค่า Swap Long = -8.9, Swap Short = 5.09 เปิดออร์เดอร์ Buy ขนาด 1 lot ตั้งแต่คืนวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี

ค่า Swap 1 คืน = (5 x (-8.9)* x 1)/10 *เนื่องจากเปิดออร์เดอร์ Buy จึงใช้ Swap Long

ผลที่ได้คือค่า Swap -$4.5 ต่อคืน (วันพุธคิดสามเท่า)

วันจันทร์ -4.5 วันอังคาร -4.5 วันพุธ(-4.5×3) -13.5 รวมทั้งหมดได้ -$22.5

หากแทนค่าในสูตร Swap = (มูลค่า 1Pip x อัตราค่า Swap x จำนวนคืน) / 10

จะได้ Swap ทั้งหมด = ($5 x (-8.9) x 5*)/10 วันจันทร์ 1 คืน วันอังคาร 1 คืน และวันพุธ 3 คืน

ผลที่ได้คือ -$22.5 เท่ากัน

ดังนั้นถ้าเปิดออร์เดอร์ Buy ในกรณีนี้จะต้องเสียค่า Swap ทั้งหมด $22.5 หรือคิดเป็นเงินไทยเท่ากับ 681.81 บาท

แม้หลายคนจะไม่ได้ถนัดด้านวิชาคำนวณ แต่การเรียนรู้วิธีคำนวณแบบ Manual จะทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปถึงสูตรโครงสร้างต่าง ๆ ทำให้สามารถแกะรอยได้ง่ายขึ้นเมื่อเห็นตัวเลขแปลก ๆ ปรากฎบนพอร์ทของเรา เพื่อจะได้ทราบที่มาที่ไปได้อย่างชัดเจน

แต่ถ้าหากต้องการทางลัดในการคำนวณ ก็มีเว็บไซต์ที่จะช่วยเราในการคำนวณค่า Swap ดังนี้

1. XM Global SWAP Calculatoin
2. Teletrade Global SWAP Calculatoion
3. Trade Trust SWAP Calculation

ภาพจาก Freepik

บทสรุป

และนี่ก็คือเรื่องราวของ Swap คืออะไร คำนวณอย่างไร? ที่ผู้เริ่มเทรด Forex ควรจะต้องรู้! การเทรดใน Forex ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยหลายปัจจัยโดยเฉพาะเรื่องของประสบการณ์และการเรียนรู้ ที่ไม่ว่าจะมาจากการอ่านหนังสือ แสวงหาความรู้ และลงมือทำจริง ลองผิดลองถูก ก็ตาม

Swap ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้นักเทรดก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ หากเข้าใจ และรู้จักมันดีพอ ก็จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ Swap ก็เป็นดาบสองคมในอีกมุมหนึ่งได้เหมือนกัน เพราะหากไม่ทำความเข้าใจก็อาจจะทำให้การลงทุนเกิดความผิดพลาดและสร้างความเสียหายได้

สุดท้ายนี้ต้องไม่ลืมกฎเหล็กในการลงทุน Forex และการลงทุนทุกประเภทที่ว่า “ห้ามโลภ” เพราะความโลภจะทำให้ทุกการตัดสินใจบิดเบี้ยวได้ ไม่เว้นแม้เรื่องของ Swap และอย่าลืมมีวินัยในการปิดออร์เดอร์ที่ทำกำไรได้ตามเป้าหมายให้ตรงเวลาด้วย