DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency

DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency

ปัจจุบันกระแสการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทย ถือว่าได้รับความสนใจจากบรรดานักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลหรือที่เราเรียกว่า Cryptocurrency คือนวัตกรรมทางการเงินของโลกอนาคตที่ได้รับการคาดหมายว่าจะถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในชีวิตประจำวันได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับจ่ายใช้สอยบนโลกออนไลน์ที่ไม่ต้องกังวลกับการผันผวนของค่าเงินที่ใช้เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนอีกต่อไป

ในวันนี้เราจึงถือโอกาสพาทุกท่านมารู้จักกับหนึ่งในกลไกที่มีความสำคัญกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจที่ชื่อว่า DeFi กันดีกว่า

DeFi คืออะไร

DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency
ภาพประกอบจาก pixabay

DeFi หรือ Decentralized Finance คือระบบทางการเงินรูปแบบใหม่ของโลก Cryptocurrency เป็นระบบการเงินที่ไร้ตัวกลาง โดยอาศัยการนำเอาเทคโนโลยีอย่าง Blockchain มาใช้สำหรับรองรับ Cryptocurrency โดยที่ธุรกรรมต่างๆ จะไม่ถูกดำเนินการผ่านตัวกลางใดๆ แต่จะถูกดำเนินการผ่าน Smart Contract หรือสัญญาอัจฉริยะที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้มีความโปร่งใสและเรายังสามารถเข้าไปตรวจสอบผ่าน Smart Contract ได้ทุกเวลา

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ จากเดิมที่การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆของเราจะต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งธนาคารจะดำเนินการทำธุรกรรมต่างๆให้เรา เช่น การฝากหรือถอนเงิน การกู้ยืม ปล่อยกู้ การโอนเงิน การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน การทำสัญญาค้ำประกัน เป็นต้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าการทำธุรกรรมต่างๆเหล่านี้ทำให้เราต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าดำเนินการต่างๆให้กับธนาคาร รวมถึงเราต้องเสียเวลาหรือในบางทีเราอาจจะต้องเดินทางไปทำถึงที่ธนาคารโดยตรงถึงจะทำได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดระบบการเงินรูปแบบใหม่อย่าง Decentralized Finance หรือที่เรืยกสั้นๆว่า DeFi ที่จะทำให้เราไม่ต้องพบกับปัญหาเหล่านั้นเพราะเราสามารถทำธุรกรรมต่างๆได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่านตัวกลางแบบที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องเสียให้กับตัวกลางก็ลดลง ผลตอบแทนที่เราจะได้รับจากการทำธุรกรรมต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้น

DeFi หรือ Decentralized Finance แตกต่างจากระบบทางการเงินแบบมีตัวกลางหรือ Centralized Finance อย่างไร?

  • ปราศจากการควบคุมจากมนุษย์ แต่จัดการทุกอย่างผ่าน Smart Contract
  • ต้นทุนการทำธุรกรรม ค่าบริการต่ำกว่า แต่ผลตอบแทนน่าสนใจกว่า ระบบการเงินแบบมีตัวกลาง
  • ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นตัวกลางแทนธนาคารและสถาบันการเงิน
  • ใช้เวลาในการทำธุรกรรมเพียงไม่กี่นาที เพียงแค่เรามีอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำธุรกรรมที่ไหนบนโลกก็ได้
  • ทุกคนได้รับข้อมูลชุดเดียวกันและเท่าเทียมกัน ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกันดูแลและพัฒนา
  • ใช้เหรียญดิจิทัลหรือ Cryptocurrency ในการทำธุรกรรมต่างๆแทนเงินสด 
  • มีอิสระในการแลกเปลี่ยนและทำธุรกรรมต่างๆ  

แพลทฟอร์มที่น่าสนใจในโลกของDeFi

#1
Uniswap

DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency
ภาพประกอบจาก crytpomode.com

Uniswap เกิดขึ้นมาในปี 2018 โดยอดีตวิศวกรของบริษัท Siemens ที่ชื่อว่า เฮย์เด้น อดัมส์ เป็นผู้ก่อตั้งและมีต้นแบบมาจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหรียญสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอย่าง Ethereum ที่มีคุณ วีตาลิค บูเจริน ชาวรัสเซียเป็นผู้ก่อตั้ง

Uniswap ถือเป็นแพลทฟอร์มที่น่าสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในโลกของ Defi และอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะ Uniswap จะไม่มีการแจกเหรียญอย่าง Governance Token (เหรียญที่เมื่อเราถือครองจะทำให้สามารถมีอำนาจในการเสนอนโยบายต่างๆต่อแพลตฟอร์ม และให้ผู้ถือเหรียญคนอื่นๆเข้ามาออกเสียงสนับสนุน โดยเหรียญเหล่านี้จะมีความผันผวนของราคาที่ค่อนข้างสูง)แบบแพลทฟอร์มอื่นๆ แต่แพลทฟอร์มอย่าง Uniswap นั้นจะจ่ายออกมาในรูปแบบของค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ใช้งานที่ใช้งานแพลต์ฟอร์มเท่านั้น โดย Uniswap นั้นเป็นแพลต์ฟอร์มที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินดิจิทัลเท่านั้นโดยจะคิดค่าธรรมเนียม 0.3% ของปริมาณการซื้อขายทุกครั้ง นอกจากนี้เรายังสามารถจ่ายเหรียญดิจิทัลที่มีให้กับแพลตฟอร์ม Uniswap เพื่อที่จะช่วยเรื่องสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งเราก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลเหล่านั้นนั่นเอง

#2
Compound

DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency
ภาพประกอบจาก cryptosiam.com

Compound แพลทฟอร์มการกู้ยืมเงินรูปแบบหนึ่งในโลกของ DeFi เป็นระบบการกู้ยืมเงินและปล่อยสินเชื่อ โดยในปัจจุบัน มีมูลค่าการกู้ยืมเงินในระบบประมาณ 6,170 ล้านเหรียญสหรัฐ  และเงินที่ปล่อยให้กู้ประมาณ 15,247 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในแพลทฟอร์มของ Compound เราสามารถนำเหรียญ Cryptocurrency token ต่างๆที่ทำงานอยู่บน Blockchain ของ ETH(Ethereum) ไปค้ำประกันเพื่อแลกเหรียญดิจิทัลตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ในระบบ และเราจะได้รับรายได้เป็นดอกเบี้ยจากการนำเหรียญที่เราทำการปล่อยกู้ โดยดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกคำนวณจากจำนวนผู้นำเงินมาปล่อยกู้และผู้ที่มีการกู้ยืมในระบบของ Compound  แต่หากเราเป็นผู้ที่กู้ยืมผลตอบแทนที่เราจะได้รับจะเป็นในรูปแบบเหรียญดิจิทัลหรือ Compound token

#3
PancakeSwap

DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency
ภาพประกอบจาก fantoken.news

Pancake Swap แพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยถูกพัฒนาจากค่ายชื่อดังอย่าง Binance ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก และมีแพลตฟอร์มอย่าง Uniswap เป็นต้นแบบ ตัว Pancake Swap จึงค่อนข้างมีรูปแบบของระบบการทำงานเหมือนกับแพลตฟอร์มต้นแบบอย่าง Uniswap ไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงานภายใน รูปแบบการใช้งานและการแลกเปลี่ยนเหรียญที่คล้ายกับระบบขอย่าง Uniswap เกือบทั้งหมด และยังมีการแจกเหรียญ Governance Token โดยมีชื่อเรียกว่าเค้ก (Cake) โดยเราสามารถที่จะได้รับเหรียญ Cake จากการนำเหรียญ LP ที่เรามีเข้าไปฝากไว้ภายใน Pancake Swap โดยคนที่จะได้ผลตอบแทนคืนกลับมาคือผู้ที่นำเหรียญมาฝากนั่นเอง ตัว Pancake Swap ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติมที่โดดเด่น และน่าสนใจหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ฟังก์ชั่นรูปแบบใหม่ล่าสุดอย่างระบบลอตเตอรี่ที่จะมีการแจกรางวัลให้กับผู้ที่ใช้งานภายในระบบของ Pancake Swap ทุกๆ 2 ชั่วโมงและการรับ Syrup หรือการรับ Airdrop เป็นโครงการของ Binance เพื่อให้ผู้ใช้งานเพิ่มโอกาสของการรับผลตอบแทนที่มากขึ้น 

ปัจจุบัน Pancake Swap เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าและราคาของเหรียญที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากและมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น จากฟังก์ชั่นที่น่าสนใจและยังมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆอีกด้วย จึงอยากแนะนำให้กับผู้ที่สนใจลองศึกษาดู

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในDeFi

DeFi คืออะไร ทำไมถึงน่าสนใจในโลกการลงทุน Cryptocurrency
ภาพประกอบจาก vulcanpost.com

รู้จักกับ Stablecoin

สำหรับใครที่ยังเป็นมือใหม่หรือพึ่งรู้จักกับ DeFi และสนใจจะลงทุน ควรเริ่มลงทุนจาก Stablecoin ก่อนเพราะมีความผันผวนที่ต่ำมากและมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ จึงเหมาะกับคนที่พึ่งจะเริ่มต้นและอยากเข้ามาศึกษาหรือทดลองที่จะลงทุนใน DeFi

Stablecoin คือ Cryptocurrency รูปแบบหนึ่ง ที่สามารถรักษามูลค่าไว้ได้ค่อนข้างคงที่และมีความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ ทำให้มูลค่าของ Stablecoin นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างใกล้เคียง กับสินทรัพย์ที่นำมารองรับหรือ Backup ทำให้เห็นว่า Stablecoin จะมีราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามสิ่งที่เป็น Backup ถ้าสิ่งที่เอามา Backup ราคาขึ้น Stablecoin ก็จะราคาขึ้น ถ้าสิ่งที่เป็น Backup ราคาลดลง Stablecoin ก็จะราคาลดลงเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของสินทรัพย์ที่นำมารองรับหรือ Backup ด้วยว่ามีลักษณะเป็นแบบใด เช่น 1ต่อ1 หรือ 1ต่อ2 เป็นต้น ส่วนสินทรัพย์ที่มักนำมาเป็น Backup ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกหุ้น ทองคำ และที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดในตอนนี้คือสกุลเงินอย่างดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเห็นได้จากเหรียญ Cryptocurrency อย่าง USDT หรือ Tether ที่เป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 1 ของตลาด หากเรานำเงินดอลลาร์สหรัฐมาเป็น Backup และออกเป็น Stablecoin เราก็จะได้รับคุณสมบัติของ Cryptocurrency และลดปัญหาเรื่องความผันผวนของราคาออกไป จะทำให้เราสามารถซื้อขาย แลกเปลี่ยน โอนย้าย กู้ยืม ปล่อยกู้ รวมถึงค้ำประกันในโลกของ Cryptocurrency ด้วย Stablecoin และยังถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของการเงินรูปแบบใหม่ที่อย่าง DeFi ด้วย

ตัวอย่างเหรียญ Stablecoin : USDT USDC DAI TUSD BUSD

DeFi กับการเติบโตในอนาคต

DeFi ยังถือเป็นเรื่องที่ค่อยข้างใหม่ในปัจจุบันนี้ แต่ในอนาคต DeFi จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการเงินรูปแบบเดิมอย่างแน่นอน ผ่านการขับเคลื่อนของคนรุ่นใหม่และระบบอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมคนทั้งโลกเข้าด้วยกัน จะทำให้ DeFi เติบโตและได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น 

เห็นได้ว่าปัจจุบันเหรียญสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency มีการเติบโตอย่างรวดเร็ดและมีมูลค่าที่สูงมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบการเงินอย่าง DeFi เกิดขึ้นและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ในอนาคตหากคนทั่วโลกเข้าถึง ยอมรับและใช้งานเหรียญสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน DeFi จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับระบบการเงินโลกในอนาคตอย่างแน่นอนและจะทำให้ระบบการเงินอย่าง DeFi ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินรูปแบบเดิมอย่างธนาคารและสถาบันการเงินให้ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า

ข้อควรระวังและสิ่งที่ควรทำก่อนการเข้ามาลงทุนในDeFi

อย่างที่เรารู้ว่า DeFi ไม่มีการควบคุมจากมนุษย์แต่ถูกดำเนินการต่างๆผ่าน Smart Contract เพราะฉะนั้นการทำธุรกรรมต่างๆในระบบ เราต้องตรวจสอบข้อมูลทุกครั้งก่อนจะทำธุรกรรมต่างๆในระบบ เพราะหากเกิดความผิดพลาดเราจะไม่สามารถแก้ไขได้ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษารายละเอียดของ Smart Contract ที่ใช้บริการให้ดี ถ้ามีความรู้เรื่องการอ่านโค้ดด้วยจะดีมากๆ

DeFi ณ ตอนนี้ยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับโลกการเงินยุคปัจจุบัน จึงมีความเสี่ยงจากการที่จะเข้ามาลงทุนใน DeFi เราจึงจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างรอบด้าน และควรมีความรู้เรื่อง Cryptocurrency พอสมควร โดยที่เราสามารถเข้าไปหาข้อมูลหรือทดลองเทรดเหรียญสกุลเงินดิจิทัลต่างๆเพื่อเรียนรู้จากเว็บไซต์อย่างเช่น Bitkub.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชั้นนำของประเทศไทยที่ถูกกฏหมายและได้รับการรองรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือกลต. เพราะหากเราไม่ศึกษาและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราจะลงทุนก็ไม่ต่างจาการพนันรูปแบบหนึ่ง

สำหรับมือใหม่ที่สนใจหรืออยากลงทุน ควรจะเริ่มจากการเข้ามาทดลองด้วยเงินลงทุนจำนวนไม่มากจนเกินไป และเราสามารถยอมรับได้หากมีการขาดทุนเกินขึ้น

และอย่างสุดท้ายถึงแม้ระบบ Blockchain จะมีความปลอดภัยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่สามารถถูกแฮกได้ เพราะฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยก็ถือเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม จึงต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องเหล่านี้เอาไว้ด้วย

หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์!
Tags: , ,