ADVERTISEMENT
- เปรียบเทียบสินเชื่อฉุกเฉิน ธนาคารออมิสน ธกส. กรุงเทพ กสิกรไทย
- #1 สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ/ผู้มีรายได้ประจำ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ธนาคารออมสิน
- #2 สินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า COVID-19 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
- #3 สินเชื่อบัวหลวงอุ่นใจ ธนาคารกรุงเทพ
- #4 สินเชื่อเงินด่วนXpress Loan ธนาคารกสิกรไทย
ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่เช่นนี้ทำให้ประชาชนทั่วไปต่างได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ต่างได้รับผลกระทบทั้งสิ้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาวะเดือดร้อนของประชาชน ธนาคารต่างๆ จึงได้ออกสินเชื่อฉุกเฉิน ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินไม่สูงอยู่ระหว่าง 10,000 – 50,000 บาท เพื่อให้ประชาชนได้นำเงินก้อนนี้มาใช้จ่ายยามฉุกเฉิน สินเชื่อฉุกเฉินมีหลายธนาคาร รายละเอียด ของวงเงินกู้ ดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระรวมถึงคุณสมบัติต่างๆ แต่ละธนาคารอาจไม่เหมือนกัน เราจึงได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้ทุกคนได้ศึกษาก่อนที่จะเลือกธนาคารที่เหมาะสมกับคุณค่ะ
เปรียบเทียบสินเชื่อฉุกเฉิน
ธนาคารออมิสน ธกส. กรุงเทพ กสิกรไทย
#1
สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ/ผู้มีรายได้ประจำ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า (COVID-19)
ธนาคารออมสิน
สินเชื่อนี้เป็นสินเชื่อเพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนจากไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ให้กับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสามารถกู้ได้ทั้งผู้มีอาชีพอิสระและผู้ที่มีรายได้ประจำโดยมีวงเงินที่ต่างกัน โดยเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน ซึ่งเราได้แยกรายละเอียดไว้ดังนี้
สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ
วงเงินกู้ : วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.10% ต่อเดือน
อนุมัติภายใน : ธนาคารโอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วันทำการ นับจากได้รับSMS
ระยะเวลา : ระยะเวลาให้กู้ไม่เกิน 2 ปี ปลอดชำระหนี้ใน 6 งวดแรก เริ่มชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในงวดที่ 7
คุณสมบัติ
- เป็นผู้มีอาชีพอิสระไม่ใช่เกษตรกร รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ไม่มีรายได้ประจำหรืออาจตกงานเนื่องจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า (COVID-19)
- มีสัญชาติไทย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เมื่อรวมอายุของผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
- มีที่อยู่อาศัยแน่นอน ติดต่อได้
สำหรับผู้มีรายได้ประจำ
วงเงินกู้ : วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.35% ต่อเดือน
อนุมัติภายใน : รับเงินกู้ทันทีเข้าบัญชีเงินฝากทันที หลังทำสัญญา
ระยะเวลา : ระยะเวลาชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ไม่เกิน 3 ปี (36 งวด)
คุณสมบัติ
- ประชาชนที่มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหรือบริการที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า (COVID-19) เช่น ตกงาน โดยลดเงินเดือน
- มีสัญชาติไทย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เมื่อรวมอายุของผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี
- มีที่อยู่อาศัยแน่นอน ติดต่อได้
สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับผู้มีอาชีพอิสระ/ผู้มีรายได้ประจำ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ทางธนาคารได้เปิดให้ผู้ที่มีความสนใจสามารถลงทะเบียนกู้เงินออมสิน ผ่านทางเว็บไซต์ www.gsb.or.th เท่านั้น เริ่ม 15 เม.ย. 63 เมื่อเข้าเว็บไซต์แล้วให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขที่บัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อาชีพ รายได้ ผลกระทบ และเลขที่บัญชีธนาคารออมสิน หลังจากนั้นจะมี SMS แจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติวงเงินและติดต่อกลับภายใน 5 วัน ถ้าไม่ได้รับการติดต่อหมายถึงไม่ผ่านเกณฑ์
#2
สินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า COVID-19
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
ธกส.ปล่อยกู้เงินฉุกเฉินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า COVID-19 เพื่อให้เกษตรนำเงินไปใช้จ่ายยามฉุกเฉินเพื่อการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคในครอบครัว โดยให้ประชาชนลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นLINE Official BAAC Family และทยอยนัดให้ประชาชนมาทำสัญญาที่สาขาต่อไปและทางธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีต่อไป
วงเงินกู้ : วงเงินกู้ไม่เกิน 10,000 บาท
ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อเดือน
อนุมัติภายใน : ได้รับเงินภายใน 1 วันทำการ หลังได้รับข้อความแจ้งผลทางSMS
ระยะเวลา : กำหนดชำระคืนภายในระยะเวลา 2 ปี ปลอดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน และยังสามารถที่จะแบ่งยอดการชำระตามความสามารถในการชำระ เช่น รายเดือน (24 งวด) ส่งชำระต่องวดประมาณ 429.17 บาท ราย 3 เดือน (8 งวด) 1,287.50 บาท ราย 6 เดือน (4 งวด) 2,575.00 บาท
คุณสมบัติ
- เป็นเกษตรกรและครอบครัวของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19
- ไม่ต้องใช้หลักประกัน
สำหรับผู้ที่สนใจขอสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 สามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่ายอดสินเชื่อเต็มวงเงิน
#3
สินเชื่อบัวหลวงอุ่นใจ
ธนาคารกรุงเทพ
สินเชื่อบัวหลวงอุ่นใจเป็นบริการสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพที่ออกมาเพื่อคนที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ผู้กู้สามารถขอสินเชื่อและจะได้รับเงินอย่างรวดเร็วเพื่อไปใช้จ่ายยามฉุกเฉินในครอบครัวโดยผู้กู้จะได้รับเงินผ่านบัตรบีเฟิร์ทสมาร์ท วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 15,000 – 1,000,000 บาท ชำระรายเดือนได้ต่ำที่สุด 500 บาท หรือ 5% ของภาระหนี้คงค้าง ขอสินเชื่อได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
วงเงินกู้ : วงเงินกู้ 3 เท่าของรายได้ต่อเดือน ขั้นต่ำ 15,000 บาท สูงสุด 1,000,000 บาท
ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ย 18-26% ต่อปีขึ้นอยู่กับวงเงินอนุมัติ
อนุมัติภายใน : เงินเข้าบัญชีทันทีหลังอนุมัติ
ระยะเวลา : ทบทวนวงเงินทุก 1 ปี
คุณสมบัติ
- บุคคลสัญชาติไทย อายุระหว่าง 20 – 59 ปี
- เป็นพนักงานประจำที่มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารกรุงเทพและทำงานกับกิจการนายจ้างที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ*
- มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
- มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
* สอบถามรายชื่อกิจการนายจ้างที่เข้าร่วมโครงการได้ที่สาขาธนาคารหรือบัวหลวงโฟน 1333
#4
สินเชื่อเงินด่วนXpress Loan
ธนาคารกสิกรไทย
สินเชื่อเงินด่วนXpress Loan เป็นสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย ที่ออกมาเพื่อให้บริการกับผู้ที่ต้องการใช้เงินเร่งด่วน และมีเงินเดือนน้อยไม่สามารถขอสินเชื่อที่ไหนได้ และต้องการเงินไว้สำหรับใช้จ่ายในครอบครัว สินเชื่อเงินด่วนXpress Loan สมัครง่าย ใช้เอกสารน้อย และรายได้เริ่มต้นเพียง,7500 บาทก็สามารถที่จะขอสินเชื่อได้ และไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน
วงเงินกู้ : วงเงินกู้ 6,000 – 20,000 บาท
ดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ย 25 % ต่อปี
อนุมัติภายใน : ทราบผลการอนุมัติภายใน 8 วัน
ระยะเวลา : ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน *
* หมายเหตุ กรณีได้รับการอนุมัติวงเงิน 6,000 – 20,000 บาท เลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้ 12, 18 หรือ 24 เดือนเท่านั้น อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เป็นไปตามประกาศของธนาคาร
คุณสมบัติ
- สัญชาติไทย
- อายุ 20 ปีขึ้นไป
- อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี
- ต้องมีรายได้ 7,500 บาทขึ้นไป
- ต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 6 เดือน (นับรวมที่ทำงานเดิมได้ ถ้าหากผ่านการทดลองงานของที่ทำงานปัจจุบันแล้ว)
- มีเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือโทรศัพท์มือถือ
อย่างไรก็ตามสถานการณ์โรคระบาดอาจยังไม่คลี่คลายเป็นปกติได้ในเร็ววัน เมื่อทางสถาบันการเงินต่างๆและรัฐบาลร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชนนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ประชาชนเองก็จะต้องช่วยตนเองในการรู้จักที่จะประหยัดอดออม วางแผนการใช้เงินให้ดี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของตนเองและครอบครัว และอย่างหนึ่งที่สำคัญคือการทำตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ประเทศไทยของเรากลับมาเป็นปกติกินดีอยู่ดีอีกครั้ง