วิธีการขอคืนภาษีออนไลน์ ในปี 2563 [ฉบับสมบูรณ์]

วิธีการขอคืนภาษีออนไลน์ ในปี 2563 [ฉบับสมบูรณ์]

เมื่อเวลากำหนดยื่นภาษีมาถึงในแต่ละรอบปี สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือผู้ประกอบการที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ก็คือการเสียภาษีนั่นเอง อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าภาษีเป็นสิ่งที่คิดจากรายได้ของเราหักจากค่าลดหย่อนแล้วก็จะกลายมาเป็นยอดสำหรับคิดภาษี และบ่อยครั้งยอดตรงนี้หากรอจ่ายในวันครบกำหนดในวันเดียวก็เรียกได้ว่าเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เราจึงมักเห็นหลายคนเลือกที่จะแบ่งจ่ายยอดภาษีจากการคาดการณ์ แน่นอนว่ามันมักจะไม่ตรงตามยอดที่เราต้องจ่ายเสมอไปบ้างก็มากไปบ้างก็น้อยกว่ายอดที่ต้องจ่าย แต่โดยส่วนมากแล้วผู้เสียภาษีส่วนใหญ่มากมียอดการจ่ายภาษีเกิน ดังนั้นหากยอดเงินที่ท่านชำระเอาไว้ล่วงหน้าเกิดเกินกว่ายอดจริงที่ต้องชำระ การขอคืนภาษีตรงนี้ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เสียภาษีอย่างเราควรที่จะต้องทราบเอาไว้ และในบทความนี้เอง เราก็จะพาทุกท่านมาทราบถึงความหมายที่แท้จริงของการขอคืนภาษีและวิธีการต่าง ๆ ที่เราสามารถทำได้เมื่อต้องการขอคืนภาษี และทุกเคล็ดลับและที่มาเราก็จะเปิดให้ทราบกันในบทความนี้ไปพร้อมกันเลย

ขอคืนภาษีคืออะไร?

การขอคืนภาษีก็คือการที่เราสามารถเรียกคืนภาษีที่เราได้ชำระเกินไปจากที่ต้องชำระจริงเมื่อถูกคำนวณภาษีแล้ว ซึ่งเงินจำนวนนี้เราสามารถขอคืนได้ เรียกว่าการขอคืนภาษีนั่นเอง ดังนั้นหากท่านได้ทำรายการคืนภาษีแล้วพบว่ายอดที่ท่านชำระไปก่อนหน้ามีมากกว่ารายการที่ต้องจ่าย แสดงว่าท่านก็มีสิทธิ์ในการขอคืนภาษีได้ด้วยนั่นเอง

ซึ่งระยะเวลาที่ผู้เสียภาษีจะต้องทำเรื่องเพื่อยื่นขอคืนภาษีก็สามารถทำได้ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากวันที่ทำการยื่นแบบเสียภาษี และเจ้าหน้าที่สรรพากรก็มีหน้าที่ที่จะต้องคืนเงินภาษีให้เราหลังจากที่ยื่นแบบคืนภาษีภายใน 3 เดือน หรือหากล่าช้ากว่านั้นทางสรรพากรก็จะต้องคืนเงินมาพร้อมอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด ในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน ด้วยนั่นเอง

เอกสาร/ข้อมูลที่ต้องมี

สำหรับเอกสารที่จะต้องเตรียมใช้สำหรับการยื่นขอคืนภาษีก็จะเป็นเอกสารชุดเดียวกันกับที่ใช้นการขอยื่นภาษีเลย คือ

  • เอกสารหนังสือรับรองเงินเดือน (ใบทวิ 50 ) ที่ทางหน่วยงานของเราเป็นคนออกให้
  • หนังสือหลักฐานในการลดหย่อนต่าง ๆ เช่น เอกสารกองทุน , หนังสือรับรองการรับบริจาค, ประกันประเภทต่าง ๆ ,ทะเบียนสมรส(กรณีมีคู่สมรส) , สูติบัตรบุตร และเอกสารอื่น ๆ ที่สามารถใช้สำหรับการลดหย่อนได้นั่นเอง

แต่โดยทั่วไปแล้วในกรณีปกติที่การยื่นภาษีของเราไม่มีข้อสงสัยหรือปัญหาใด ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยื่นเอกสารอีกเป็นครั้งที่ 2 หลังจากยื่นไปในการยื่นภาษีแล้ว เพราะ สรรพากรจะทำการอนุมัติการคืนภาษีได้เลยในทันที

ขั้นตอนการขอคืนภาษี 2563

ขั้นตอนการขอคืนภาษีสามารถทำได้หลายต่อหลายวิธีด้วยกัน แต่ในยุคที่อินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้แทบทุกพื้นที่ ช่องทางการขอคืนภาษีทางออนไลน์จึงเป็นวิธีที่มีความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงของทุกคนอย่างมากที่สุด และที่สำคัญคือทางสรรพากรก็ได้ออกแบบให้เราสามารถทำการยื่นขอคืนภาษีทางช่องทางออนไลน์ได้ด้วย โดยการเข้าไปที่เว็บไซต์ : rd.go.th ขอคืนภาษี 2563 1

  1. ขั้นตอนการขอคืนภาษีจะอยู่ในส่วนสุดท้ายการยื่นภาษีนั่นเอง ซึ่งในท้ายของการยื่นจะมีช่องให้เราเลือกว่าต้องการที่จะขอคืนภาษีหรือไม่ ก็ให้เรากดเลือกขั้นตอนนี้ไว้ด้วย และหลังจากนั้นสรรพากรจะดำเนินการคืนภาษีของเราให้เราทที่สุดตามจำนวนที่เป็นส่วนเกินที่เราจะได้รับนั่นเอง

ขอคืนภาษี 2563 2

  1. เมื่อเราดำเนินขั้นตอนการยื่นภาษีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีข้อสงสัยว่ากระบวนการขอคืนภาษีของเราดำเนินการไปถึงไหนแล้วเราจะได้รับเงินเมื่อไหร่ เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่ : http://www.rd.go.th/publish/27942.0.html ซึ่งเป็นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสรรพากรที่จะช่วยอัพเดทข้อมูลเรื่องการขอคืนภาษีให้กับเรา
  2. เมื่อเข้ามาถึงหน้าเว็บไซต์เราก็จะได้เห็นฟอร์มดังรูปในข้อที่ 2 ให้เราทำการกรอกข้อมูลสำคัญของเราอย่าง ปีภาษีที่เราได้ทำการยื่นภาษีเอาไว้ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ชื่อ(โดยไม่ต้องระบุคำนำหน้านาม) นามสกุลตามลำดับ หลังจากนั้นให้กดสอบถามแล้วเราก็จะได้รายละเอียดตามที่ต้องการมา แต่ขั้นตอนในการสอบถามนี้หากท่านยื่นภาษีเป็นแบบกระดาษจะสามารถสอบถามได้หลังจาก 1 วันที่ทำการยื่น

หลายคนอาจเกิดความกังวลใจในความล่าช้าของการขอคืนภาษีซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากปัญหาที่ว่า ยื่นเอกสารไปไม่ครบถ้วน อย่างเช่น เอกสารการลดหย่อน เป็นต้น จึงทำให้เกิดความล่าช้า แต่ถ้าหากไม่ติดปัญหาใด ๆ บางรายอาจได้รับเงินคืนเร็วสุดไม่เกิน 3 วันผ่านทางบัญชีพร้อมเพย์ของท่านเลยนั่นเอง

ขอคืนภาษี ไม่มีพร้อมเพย์ ทำอย่างไร

อย่างที่ทราบไปก่อนหน้านี้แล้วนะคะว่าขั้นตอนการขอคืนภาษีหากจะให้รวดเร็วจะต้องใช้บัญชีพร้อมเพย์เพื่อความสะดวกให้การโอนเงินคืนจากสรรพากร แต่จะทำอย่างไรหากท่านไม่มีบัญชีพร้อมเพย์และไม่สะดวกในการเปิดบัญชี อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านสามารถรับเงินคืนแทนการโอนเข้าพร้อมเพย์นั่นก็คือ การเดินทางไปรับเงินยังเคาน์เตอร์ของธนาคารกรุงไทย เพียงท่านนำหนังสือการยื่นภาษีที่ออกให้โดยสรรพากรที่จะจัดส่งให้ท่านทางไปรษณีย์พร้อมกับบัตรประจำวันประชาชนไปยื่นที่เคาน์เตอร์ธนาคารก็สามารถที่จะรับเงินภาษีคืนได้เช่นเดียวกันกับการโอนพร้อมเพย์นั่นเอง

หากถูกใจอย่าลืม กดแชร์!
Tags: , , , , , ,