5 สีผัก ผลไม้ต่างๆ มีอะไรบ้าง มีประโยชน์อย่างไร ?

เมื่อพูดถึงผัก ทุกคนอาจจะนึกถึงสีเขียวขึ้นมาทันที แต่พอลองสังเกตดี ๆ ที่จริงผักก็มีสีสันมากกว่าที่เราคิดอีกนะ โดยทั่วไปจะแบ่งผักผลไม้ออกเป็น 5 สี และรู้ไหมคะว่าผักแต่ละสีนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการเฉพาะตัวที่น่าสนใจ เราลองมาทำความรู้จักกับผักแต่ละสีกันดีกว่า บางทีแค่รู้จักวิธีกินที่มากกว่าคนอื่นเล็กน้อย อาจทำให้เราสวยล้ำหน้าไปเลยก็ได้นะ

ผักผลไม้สีขาว น้ำตาล

มี ‘สารแซนโทน’ เป็นตัวเอก ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายในทำงานดีขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถชะลอความเสื่อมของเซลล์ แน่นอนว่าจะทำให้เราแก่ช้าลงด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ผักสีขาวมีหลากหลายชนิด เราขอแนะนำคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

• กระเทียม อย่าเพิ่งเมินหน้ากันไปนะคะ บางคนไม่ชอบกลิ่นกระเทียม แต่รู้ไหมคะว่ากระเทียมนี่แหละที่มีส่วนช่วยลดความดันได้ ถ้าไม่ชอบกินสดก็ลองเอาไปปรุงแบบทอดดูนะคะ เช่น หมูหรือไก่ทอดกระเทียม เป็นเมนูที่อร่อยมาก ๆ เลยค่ะ
• เห็ด ใครอยากขาวมาทางนี้ เห็ดเกือบทุกชนิดมีส่วนช่วยให้ร่างกายผลิตกลูต้าไธโอน กินเยอะ ๆ ผิวสวยและช่วยล้างพิษด้วยค่ะ
• ขิง ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันและต้านไวรัส เอามาผัดก็อร่อยค่ะ

นอกจากนี้ขบวนผักสีขาวอื่นก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน อย่าง หัวหอม, หัวไชเท้า, งาขาว และอื่น ๆ อีกมากมาย ลองไปหามาทานกันดูนะคะ

ผักผลไม้สีเขียว

มี ‘คลอโรฟิลด์’ เป็นตัวเอก ยิ่งเขียวยิ่งมีคลอโรฟิลด์เยอะ ซึ่งสามารถต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาว รวมไปถึงกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และปรับสมดุลระบบขับถ่าย นอกจากนี้ยังบำรุงสมองและระบบประสาท อีกทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาโลหิตจางรวมไปถึงเส้นเลือดขอด เพราะในผักใบเขียวจะมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยบำรุงโลหิต ใครอยากหารับประทานลองหาง่าย ๆ ตามนี้ก็ได้ค่ะ

• ผักบุ้ง เห็นเขียว ๆ อย่างนี้มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตาได้ดี
• ผักคะน้า หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าผักคะน้ามีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูก แต่ถ้ารับประทานคะน้าหมูกรอบก็อย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะคะ
• บรอกโคลี่ มีสารที่จำเป็นในการสร้างกลูต้าไธโอน อีกทั้งยังช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวสวย เอามาผัดหรือลวกจิ้มน้ำพริกก็อร่อยสุด ๆ ค่ะ

นอกจากนี้ผักใบเขียวอื่น ๆ ที่สามารถหารับประทานได้ง่าย ก็มีหลากหลาย เช่น ผักปวยเล้ง, ผักกวางตุ้ง, ผักโขม และอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้เราไปหยิบมาปรุงอาหารเพื่อสุขภาพค่ะ

ผักผลไม้สีแดง

มี ‘ไลโคปีน’ เป็นตัวเอก เชื่อว่าใครที่เป็นสายบิวตี้ต้องคุ้นเคยกับสารสกัดตัวนี้ ที่ไม่ได้มีดีแค่ต่อต้านอนุมูลอิสระและทำให้ผิวสวยเท่านั้น แต่ยังช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และชะลอความเสื่อมของเซลล์ทั่วร่างกาย จึงทำให้แผลหายเร็ว ฟื้นฟูสภาพผิวได้ไว รวมไปถึงป้องกันการเสื่อมของดวงตาอันจะนำปสู่ภาวะต้อกระจกได้ด้วยค่ะ ใครยังไม่รู้ว่าจะกินผักผลไม้สีแดงชนิดไหน ลองดูตัวเลือกต่อไปนี้นะคะ

• มะเขือเทศ เป็นตัวเลือกที่มักจะได้ยินเป็นตัวแรก เนื่องจากมีไลโคปีนสูงมาก รับประทานต่อเนื่องกันจะทำให้ผิวดูใสอมชมพู ใครที่ไม่ค่อยชอบมะเขือเทศ แนะนำว่าเมื่อนำมาปรุงอาหารให้หั่นหรือบดจนละลายในข้าวผัดก็ได้นะคะ
• ทับทิม เป็นซูเปอร์ฟรุ้ตที่ช่วยชะลอวัยได้อย่างเห็นผล สามารถกินสดหรือนำมาคั้นเป็นน้ำก็ได้ แต่ต้องดื่มทันทีนะคะ
• เก๋ากี้ มีไลโคปีนสูงและช่วยบำรุงสายตาได้ดี นำมาต้มกับแกงจืด หรือทำเป็นของหวานก็ได้ แต่ต้องระวังเรื่องน้ำตาลด้วย

ในส่วนของผักอย่างพริกแดงหรือบีทรูทก็นำมาปรุงอาหารได้ ซึ่งผักผลไม้สีแดงนั้นเป็นที่สังเกตได้ง่ายมาก จะถูกจะแพงต้องแดงไว้ก่อน รับรองสุขภาพกายและสุขภาพผิวจะต้องปังชัวร์ ๆ ค่ะ

ผักผลไม่สีม่วง น้ำเงิน

มี ‘แอนโทไซยานิน’ เป็นตัวเอก ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้ว่านี่เป็นตัวช่วยต้านอนุมูลอิสระที่พลังมากไม่แพ้วิตามินซีและอีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จึงสามารถลดความเสี่ยงการเกิดไขมันอุดตันเส้นเลือดจนนำไปสู่ปัญหาของระบบสมองและหัวใจ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษและต้านไวรัสด้วยค่ะ หากยังเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี ลองดูทางเลือกง่าย ๆ ดังนี้นะคะ

• ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ง่ายมากเลยใช่ไหมคะ แค่กินข้าวไรซ์เบอร์รี่ทุกมื้อก็ได้สารต้านอนุมูลอิสระไปเต็ม ๆ พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับการกินข้าวไรซ์เบอร์รี่ แนะนำให้หุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมกับข้าวหอมมะลิหรือข้าวกล้องนะคะ
• ดอกอัญชัน ง่ายอีกแล้ว ดอกอัญชันแห้งมีขายทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต หรือใครปลูกเองได้ก็ยิ่งดีค่ะ ใช้ดอกสดหรือแห้งก็ได้ ล้างให้สะอาดแล้วชงกับน้ำร้อนดื่มเป็นประจำ จะช่วยบำรุงสายตาและเส้นผม อีกทั้งยังลดไขมันในเส้นเลือดด้วยค่ะ
• มันม่วง หาซื้อได้ตามรถเข็นทั่วไป แต่ถ้าใครไหวจะซื้อมาต้มเองก็ได้ มีใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย อิ่มท้องโดยไม่ทำให้อ้วน ใครที่กำลังลดน้ำหนัก แนะนำเลยค่ะ

นอกจากนี้ถ้าพบเจอ องุ่นม่วง, แบล็คเบอร์รี่, กะหล่ำม่วง หรือมะเขือม่วง และขบวนม่วงทั้งหลาย ก็อย่าลืมซื้อกลับบ้านมารับประทานกันนะคะ

ผักสีส้ม เหลือง

มีตัวเอกคือ ‘เบต้าแคโรทีน’ ที่พร้อมช่วยลดไขมัน และเพิ่มภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังพ่วงมาด้วยสารอาหารที่เป็นตัวเสริมอย่าง ‘ลูทีน’ ซึ่งจะมาด้วยกันกับเบต้าแคโรทีน เหมือนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันยังไงยังงั้น ซึ่งทั้งสองตัวจะช่วยบำรุงสายตา ลดอาการตาล้า ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ใครจ้องจอนาน ๆ แนะนำว่าลองหารับประทานสิ่งเหล่านี้ดูนะคะ

• ข้าวโพด นอกจากจะหากินง่ายตามรถเข็นแล้วยังมีในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งข้าวโพดเป็นแหล่งวิตาอีที่ช่วยซ่อมแซมผิว อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูง กินได้ทุกวัน อร่อยทุกวันค่ะ
• มะละกอสุก จะมีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง บำรุงสายตาแบบจัดหนักไปเลยค่ะ
• สับปะรด มีวิตามินซีสูง และช่วยย่อยอาหาร หลังรับประทานมื้อใหญ่ ลองจัดสับปะรดตบท้ายดูสิคะ

ส่วนผักผลไม้อื่น ๆ ที่มีสีเหลืองหรือส้มนั้นก็มีขายทั่วไป เชื่อว่าหลายคนคงจะชอบอย่าง มะม่วงสุก, ฟักทอง, พริกหวาน ก็สามารถนำมาทำเมนูน่ารับประทานได้ค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเนื้อหาดี ๆ ที่นำมาฝากกัน อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะเริ่มหิว การเลือกรับประทานอาหารทุกชนิดสิ่งที่ต้องย้ำเตือนอยู่เสมอก็คือเรื่องน้ำตาล เพราะผลไม้บางชนิดก็หวานมาก อาจจะต้องจำกัดปริมาณในการรับประทานด้วย อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ ขอให้สุขภาพดีกันทุกคนค่ะ

dragonflydays