ถ้าพูดกันเรื่องความสวยความงามของสาว ๆ เรื่องฮอตฮิตที่หลายคนทำก็คงไม่พ้นเรื่องการลดความอ้วน ที่ทำกันมาเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จซะที เชื่อไหมคะว่ามันเหมือนปัญหาวนลูปที่หลายคนล้มเลิกความตั้งใจไปอย่างน่าเสียดาย วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว มาลุกขึ้นฮึดสู้กันอีกครั้ง ด้วยวิธีดี ๆ ที่ได้ผลแน่นอนค่ะ
สาเหตุของความอ้วน
มาดูกันก่อนว่าสาเหตุของความอ้วนนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะความอ้วนที่เกิดกับแต่ละคนนั้นก็มาจากต้นตอที่ต่างกัน เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าที่เราอ้วนนี่เป็นเพราะอะไร จะได้แก้ไขให้ถูกวิธียังไงล่ะคะ
พันธุกรรม
เป็นเรื่องที่หลายคนยกมาเป็นข้ออ้างบ่อยที่สุด ประมาณว่า “บ้านชั้นอ้วนกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ชั้นก็เลยอ้วน” จะว่าไปก็จริงค่ะ เพราะการเผาผลาญอาหารนั้นมียีนเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุม ดังนั้นหากได้ยีนที่เผาผลาญมาไม่ดีก็จะทำให้อ้วนง่ายค่ะ
นิสัยการกิน
อย่างที่กล่าวไปเรื่องพันธุกรรมซึ่งบางคนอาจจะสับสนกับความเป็นจริง เพราะคิดว่าพ่อแม่อ้วนเราก็ต้องอ้วนเพราะเป็นพันธุกรรม แต่ขอให้พิจารณานิสัยการกินอาหารของคนในครอบครัวเราด้วยค่ะ เพราะบางทีพ่อแม่อ้วนเนื่องจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น ชอบทานชองหวานของมัน ชอบทานจุบจิบ แล้วก็สร้างนิสัยนั้นให้ลูกด้วย เราเลยเหมาว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์ แต่ความจริงเป็นเพราะการปลูกฝังนิสัยการกินต่างหากล่ะ
โรคภัยไข้เจ็บ
โรคไทรอยด์บางชนิดก็ส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้เพราะทำให้ฮอร์โมนที่ใช้ในการเผาผลาญนั้นผิดปกติไป ซึ่งหากมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือตัวบวมโดยไม่ทราบสาเหตุต้องรีบปรึกษาแพทย์นะคะ
อายุ
สมัยวัยรุ่นวัยเรียนจะกินหมูกระทะสลับกับพิซซ่าทุกวันก็ยังไหว แต่พออายุเยอะขึ้นกินโจ๊กชามเดียวก็น้ำหนักขึ้นแล้ว มันน่าเจ็บใจใช่ไหมคะ เพราะเมื่อายุเพิ่มขึ้นแต่ความสามารถในการเผาผลาญพลังงานกลับลดลง ทำให้ร่างกายนำสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปใช้ไม่หมด เลยเก็บสะสมไว้เป็นไขมันพอกตามแขนขาให้เราเห็นแล้วเจ็บใจเล่นอย่างนั้นแหละ
ความเครียด
เป็นเหมือนเรื่องที่ทุกคนมองข้ามไปเลย แต่รู้ไหมคะว่าเจ้าความเครียดนี่แหละที่ส่งผลหลายทางจนนำไปสู่ความอ้วนแบบแทคทีม มาดูกันเลยค่ะว่าเจ้าความเครียดนี้มันมีแผนการทำให้เราอ้วนได้ยังไงบ้าง
- เครียดก็กิน หลายคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ หงุดหงิดไม่รู้ตัวจนเผลอกินมั่วแบบไม่ได้ตั้งใจ เอะอะก็ขออร่อยไว้ก่อน ไม่ได้คิดถึงโทษหรือประโยชน์ของสิ่งที่กินเข้าไป มารู้ตัวอีกทีก็น้ำหนักพุ่งพรวดไปแบบกู่ไม่กลับแล้ว
- นอนไม่หลับ เมื่อนอนไม่หลับหรือหลับม่สนิทระบบเผาผลาญจะทำงานผิดปกติ ร่างกายรวน ฮอร์โมนแปรปรวนจนเกิดความอยากอาหารได้ง่าย ๆ และเผลอก็ลุกขึ้นมากินอาหารกลางดึกซะงั้น ซึ่งมันไม่ใช่เวลาเลยค่ะ เนื่องจากในตอนกลางคืนร่างกายจะต้องพักผ่อน แต่ถ้าเรากินอาหารเข้าไปก็จะกลายเป็นไปปลุกให้ร่างกายทำงานในเวลาที่มันเลิกงานแล้ว แน่นอนว่าจะเป็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งการกินตอนกลางคืนแล้วล้มตัวลงนอนยังอาจทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ด้วยค่ะ
- ระบบการทำงานในร่างกายผิดปกติ เช่น อาหารไม่ย่อย หรือการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายไม่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนฮอร์โมนแปรปรวนจนเกิดเป็นโรคภัยไข้เจ็บและความอ้วนตามมา
ทำไมต้องลดความอ้วน
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่ามีเหตุผลอะไรที่เราจำเป็นต้องลดความอ้วน แล้วถ้าไม่ลดจะเกิดหายนะอะไรขึ้นมาบ้าง
สุขภาพ
เรื่องนี้สำคัญที่สุด แต่ก็กลับกลายเป็นเรื่องที่หลายคนละเลยและมองข้ามไป เพียงเพราะเห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้าจำพวก ชานมไข่มุก บิงซู ขนมเค้ก และสารพัดของหวาน รวมไปถึงหมูกระทะปิ้งย่างที่เน้นหมูสามชั้นแบบมันกันถ้วนหน้า พร้อมทั้งข้ออ้างที่ว่า “กินก่อน พรุ่งนี้ค่อยลด”
แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็น “พรุ่งนี้ของพรุ่งนี้อยู่ร่ำไป”
อย่ากระนั้นเลย มาดูกันสิคะว่าถ้าเราไม่ลดความอ้วนตอนนี้และเดี๋ยวนี้ จะนำพาโรคร้ายชนิดใดมาทำลายสุขภาพเราได้บ้าง ความจริงแล้วโรคที่เกิดจากความอ้วนนั้นมีอยู่มากมาย เอาเป็นว่าเรายกตัวอย่างแบบที่เห็นชัด ๆ แล้วกันค่ะ
- เบาหวาน แน่นอนว่าความอ้วนนั้นมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานของหวานมากเกินไป แต่นั่นไม่ใช่ส่งผลเฉพาะแค่ความอ้วนเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งโรคเบาหวานได้ด้วย ซึ่งโรคเบาหวานนั้นมักไม่ได้มาเดี่ยว แต่จะพาเพื่อนมาเป็นแพ็ค อย่างเช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจหรือโรคไต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับโรคเบาหวาน นอกจากนี้แล้วหากเป็นเบาหวานระยะที่หนักขึ้น ในบางรายอาจส่งผลให้เบาหวานขึ้นตาจนสูญเสียการมองเห็น หรือบางคนเป็นแผลกดทับที่ขาจนต้องตัดขาทิ้งไปเลย เห็นไหมคะว่าร้ายแรงไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย
- ข้อเข่าเสื่อม ความอ้วนทำให้เราต้องรับน้ำหนักมากจนเกิดอาการปวดเข่า หากปล่อยให้เข่ารับน้ำหนักมากนาน ๆ ก็จะทำให้ข้อเข่าเสื่อมจนมีปัญหาในการใช้ชีวิตได้ ถ้าเป็นหนักถึงขั้นนี้แล้วคิดจะเดินไปหยิบช็อคโกแลตในตู้เย็นมากินก็ยากแล้วล่ะค่ะ
เพื่อบุคลิกภาพ
ความสวยนั้นมีได้ตามเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปเฉพาะบุคคล ไม่จำเป็นว่าเราต้องเหมือนใคร แต่ที่สำคัญคือต้องมีสุขภาพที่ดีและมีความคล่องตัว ดังนั้นหากปล่อยให้น้ำหนักมากเกินไปจะทำให้ร่างกายขาดความคล่องตัว เหนื่อยง่ายจนวิ่งตามเพื่อนไปไม่ทัน หรือวิ่งตามงานที่เจ้านายสั่งไม่ได้ ส่งผลต่อโอกาสในชีวิตทีเดียวเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าใคร ๆ ก็อยากสวย อยากหาเสื้อผ้าใส่ได้ง่าย เพราะหุ่นดีใส่อะไรก็ดูดีไปหมด หลายคนจึงลุกขึ้นมาลดความอ้วนกันเพราะอย่างนี้แหละค่ะ อย่างไรก็ตามการลดความอ้วนด้วยวิธีผิด ๆ อาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ จึงต้องมีการศึกษาวิธีการไดเอตที่เหมาะสมกับตัวเองด้วยค่ะ
วิธีการลดความอ้วน
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า สาเหตุของความอ้วนในแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ดังนั้นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะใช้วิธีเดียวกัน เราจึงสรรหามาหลายวิธีให้เลือกใช้กันตามสะดวกเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน จะได้นำไปใช้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
แน่นอนว่านี่คือสิ่งแรกที่ต้องทำอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เราอาจมองข้ามไปว่าพฤติกรรมการกินเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมหาศาล แต่ขอแค่ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนก็จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างมหาศาลเช่นกันค่ะ แล้วเราควรทำอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
- ลดน้ำตาลและไขมัน นี่คือสิ่งที่ต้องลดค่ะ ปัญหาคือพูดง่ายแต่ทำยากสำหรับบางคน ยิ่งไม่ต้องบอกว่าน้ำตาลนั้นทำให้เราเสพติด เพราะยิ่งกินก็ยิ่งอยาก แต่การจะเลิกกินน้ำตาลนั้นคงไม่ต้องไปเลิกที่วัดถ้ำกระบอกนะคะ ใครที่หักดิบไม่ได้ก็ลองแบบค่อยเป็นค่อยไปดูตามวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ
- สั่งเครื่องดื่มแบบหวานน้อย เครื่องดื่มนี่แหละตัวดีเชียว โดยเฉพาะเครื่องดื่มเย็นนี่เป็นตัวทำลายสุขภาพอย่างแรงค่ะ เพราะนอกจากความเย็นจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี กระเพาะอาหารทำงานหนักแล้ว การชงเครื่องดื่มเย็นจะใช้น้ำตาลในปริมาณที่มากกว่าเครื่องดื่มร้อน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสั่งเครื่องดื่มเย็นหรือร้อน หากพ่วงด้วยคำว่า “หวานน้อย” ก็จะดีกว่านะคะ
- ค่อย ๆ ลดขนมหวาน บางคนรู้สึกว่าเมื่อรับประทานอาหารมื้อหลักเรียบร้อยแล้วต้องทานของหวานล้างปากจนกลายเป็นนิสัย ถ้าอย่างนั้นจากที่เคยทานเค้กหนึ่งชิ้นก็เหลือครึ่งชิ้น หรือคุกกี้ที่เคยทานสามชิ้นลดเหลือชิ้นเดียวก็พอ แล้วลองเปลี่ยนจากขนมหวานเป็นผลไม้แทน เช่น ทานส้มหนึ่งลูกก่อนแล้วหากอยากทานของหวานจริง ๆ ค่อยทานคุกกี้หนึ่งชิ้นก็ได้ค่ะ และค่อย ๆ ลดปริมาณของหวานลงเรื่อย ๆ จนไม่ต้องทานอีกเลยก็จะดีมาก
- ลดของมันทีละอย่าง จากที่เคยทานทุกสิ่งก็ค่อย ๆ ลด เช่น สัปดาห์แรกงดมันฝรั่งทอดและขนมขบเคี้ยว สัปดาห์ถัดไปงดของทอดทุกชนิด ต่อมาค่อย ๆ ลดเนื้อติดมันหรือหนังไก่ ค่อย ๆ สร้างนิสัยทีละอย่าง อย่าหักโหมทีเดียวทุกอย่าง เพราะจะทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง และเมื่อพังเราจะท้อจนล้มเลิกไปค่ะ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์แทนอาหารขยะ
เราจะปล่อยให้หิวไม่ได้นะคะ เพราะเมื่อตบะแตกแล้วจะรับประทานมากกว่าเดิม แต่จะกินยังไงไม่ให้อ้วนดีล่ะ เรามีอาหารมานำเสนอที่อร่อยด้วย อิ่มด้วย หุ่นดีด้วยค่ะ
- เพิ่มผักในอาหาร รับประทานผักให้มากขึ้นนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้วยังทำให้ผิวพรรณดีขึ้นด้วยนะคะ
- รับประทานผลไม้ก่อนอาหาร ผลไม้ที่แนะนำก็คือผลไม้รสไม่หวานเช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ หรือส้มค่ะ
- รับประทานอาหารที่มีเส้นใย เช่น ขมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง และถั่วต่าง ๆ
- รับประทานโปรตีน ซึ่งเป็นอีกส่วนที่หลายคนมองข้ามไป เพราะมัวไปโฟกัสแต่การรับประทานผักและผลไม้ แต่ลืมรับประทานโปรตีน ความจริงแล้วโปรตีนมีส่วนช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้นอย่างสมดุล หากรับประทานเพียงผักและผลไม้จะทำให้หิวบ่อยและหิวง่าย น้ำหนักที่ลดลงไปอาจรวดเร็วแต่ก็ขึ้นเร็วเช่นกัน โปรตีนที่แนะนำก็คือเนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน ถั่วต่าง ๆ หรือจะเป็นโปรตีนเกษตรก็ได้ค่ะ
รับประทานอาหารให้เหมาะสมในแต่ละมื้อ
- มื้อเช้า ต้องรับประทานให้มากหน่อย แต่สำหรับบางคนที่ไม่ชินกับการทานมื้อเช้าก็ไม่ควรงด เพราะจะมีผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างการตลอดทั้งวัน หากไม่ชินกับการทานมื้อเช้าหนัก ๆ สามารถรับประทานเล็กน้อยได้ อาจเป็นโยเกิร์ตไขมันต่ำหรือแซนด์วิชโฮลวีตทูน่า อีกทั้งยังสามารถรับประทานไข่ต้มได้ และหากดื่มกาแฟก็ควรเป็นกาแฟดำค่ะ
- มื้อกลางวัน ควรรับประทานอาหารจานเดียว เน้นโปรตีนไม่ติดมัน
- มื้อเย็น ควรเน้นผักผลไม้ให้มากกว่าเนื้อสัตว์และแป้ง
- สำหรับคนที่ชอบรับประทานของว่างระหว่างมื้อ สามารถรับประทานผลไม้หรือถั่วต่าง ๆ ได้ค่ะ ไม่ควรเป็นของทอดนะคะ
- จัดให้มีวันชีสเดย์ คือวันที่กินได้ตามใจปากสัปดาห์ละครั้ง เนื่องจากเราไม่ควรกดดันตัวเองมากไป ไม่อย่างนั้นการลดน้ำหนักก็ไม่สำเร็จเช่นกัน ย้ำนะคะว่าตามใจปากได้สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น ไม่ควรเกินกว่านี้
ปรับพฤติกรรมการกิน
- รับประทานคำเล็ก ๆ และเคี้ยวช้า ๆ การเคี้ยวช้า ๆ จะทำให้เราได้รับอาหารในปริมาณที่เหมาะสมจริง ๆ และยังได้รสอร่อยของอาหารอย่างเต็มที่ นอกจากนี้กระเพาะอาหารยังไม่ต้องทำงานหนักเกินไปด้วยค่ะ
- ตั้งใจรับประทานอาหาร ไม่ควรรับประทานไปด้วยดูทีวีหรือทำงานไปด้วย เพราะจะทำให้เราหยิบของเข้าปากเรื่อย ๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงความอิ่ม หรือพูดง่าย ๆ ว่านี่คือการกินแบบขาดสตินั่นเองค่ะ
- งดกินอาหารก่อนอน 3 ชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะย่อยอาหารให้หมด ไม่อย่างนั้นนอกจากจะทำให้เป็นกรดไหลย้อนแล้ว ยังทำให้ลงพุงด้วยค่ะ
ออกกำลังกาย
ข้อนี้เป็นข้อที่ทำยากสำหรับคนที่ไม่ชิน แต่การออกกำลังกายจะทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังทำให้สุขภาพด้านอื่นดีขึ้นและทำให้ดูอ่อนกว่าวัยด้วย อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายต้องเหมาะสมกับตนเอง ซึ่งเรามีตัวเลือกมาให้ดังนี้ค่ะ
- ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา สามารถแบ่งเวลาออกกำลังกายเล็กน้อยได้วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที ก็ให้ผลดีเช่นกันค่ะ อาจเป็นการแกว่งแขนหรือยืดเส้นยืดสายระหว่างวันก็ช่วยได้นะคะ
- ผู้สูงอายุ สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรระมัดระวังการออกกำลังกายที่ใช้แรงกระแทก แนะนำให้ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างเดินเล่น หรือเล่นโยคะดีกว่าค่ะ
- หาวิธีออกกำลังกายที่ตัวเองชอบ บางคนชอบเต้นรำหรือต่อยมวยก็อาจชวนเพื่อนไปเข้าคลาสด้วยกัน หรือเปิดยูทูปและแอพพลิเคชั่นแล้วทำตามท่าออกกำลังกายก็ได้ หากเป็นคนชอบดูซีรีส์ก็อย่านอนดูเฉย ๆ นะคะ หาจานทวิสมาหมุนเล่นบิดเอวไปด้วย เผลอแป๊บเดียวก็ผอมได้แล้วค่ะ
หาแรงจูงใจในการลดน้ำหนัก
ควรตั้งเป้าหมายให้เร้าใจพอที่จะไม่ล้มเลิกความตั้งใจ คนที่มีปัญหาสุขภาพอาจมีความตั้งใจว่าจะต้องมีสุขภาพดีให้ได้ เพื่อจะได้ไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ แต่บางคนอาจมีจุดหมุ่งหมายเพื่ออยากใส่เสื้อผ้าสวย ๆ อยากเป็นนางแบบ อยากได้โอกาสทางหน้าที่การงานและความรัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องใดเป็นหลัก ก็ให้เอาเรื่องนั้นมาเป็นเป้าหมายในการลดความอ้วน อย่างนี้แล้วไม่ว่าพลาดกี่ครั้งก็เริ่มใหม่ได้ทุกครั้งค่ะ
อาหารแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
- โยเกิร์ตไขมันต่ำ ช่วยรักษาสมดุลระบบขับถ่าย ทานง่ายอร่อยชื่นใจ เหมาะสำหรับเป็นอาหารเช้าหรือของว่างแทนไอศกรีมหรือน้ำสลัดได้เลยค่ะ
- ถั่วต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วแดง อัลมอนด์หรือถั่วอื่น ๆ สามารถนำมาประกอบอาหาร และรับประทานเป็นของว่าง อีกทั้งยังสามารถใช้ผสมกับอย่างอื่นเช่นโยเกิร์ตหรือสลัดก็ได้เช่นกัน โดยถั่วจะทำให้อิ่มและยังได้ประโยชน์จากโปรตีนรวมถึงกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด หากต้องการของขบเคี้ยวในยามว่าง ลองเปลี่ยนจากมันฝรั่งทอดมาเป็นถั่วอบก็ไม่เลวนะคะ
- แอปเปิ้ลเขียว ที่จริงผลไม้ต่าง ๆ ก็มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น แต่ที่แนะนำแอปเปิ้ลเขียวเนื่องจากมีรสไม่หวาน อีกทั้งยังมีใยอาหารและน้ำทำให้อิ่ม นอกจากนี้ยังช่วยย่อยอาหารและบรรเทาอาการท้องผูกได้ด้วย ข้อแนะนำคือควรรับประทานแอปเปิ้ล 1 ลูกก่อนอาหารค่ะ
- ข้าวกล้องและโฮลวีต แม้ข้าวและขนมปังจะเป็นอาหารหลักที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวัน แต่หากปรับเปลี่ยนจากขนมปังขัดขาวเป็นขนมปังโฮลวีต ข้าวขาวเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องก็จะช่วยลดน้ำหนักได้มาทีเดียว เพราะจะช่วยเพิ่มเส้นใยอาหาร ทำให้ทานได้น้อยและอิ่มนาน อีกทั้งยังช่วยให้ขับถ่ายได้คล่องอีกด้วย
- น้ำเปล่า ง่ายมากเลยใช่ไหมคะ เพราะน้ำเปล่าเป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไป เพียงดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้ออาหารประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะช่วยให้อิ่มเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหารด้วย แต่ไม่แนะนำให้ดื่มน้ำมากเกินไปในระหว่างที่รับประทานอาหารนะคะ เพราะจะไปขัดขวางการทำงานของระบบย่อยจนทำให้ท้องอืดได้ค่ะ
การลดน้ำหนักนั้นไม่ได้ยากเกินไป ขอแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและไม่ล้มเลิก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตัวเราเองได้ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งกายและใจ ความสวยอาจมาเป็นของแถม แต่สิ่งสำคัญก็คือ “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” นั้นคือคำกล่าวที่เป็นจริงเสมอ และเป็นพรอันสูงสุดของมนุษย์ทุกคนค่ะ
dragonflydays
