ADVERTISEMENT
- ความสูง มีผลดีต่อเราอย่างไร
- ทำไมเราถึงอาจมี ความสูง ไม่ได้อย่างที่ต้องการ
- วิธีการตรวจสอบว่าตัวเองยังมีโอกาสสูงขึ้นได้อีกหรือไม่
- วิธีเพิ่มความสูง ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีในผู้หญิงและ 25 ปีในผู้ชาย
- วิธีเพิ่มความสูง ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีอายุสูงกว่า 18 ปีในผู้หญิงและ 25 ปีในผู้ชาย
- 10 ท่ายืดออกกำลังกายเพิ่มความสูงที่ได้ผลดี
เชื่อว่าใครๆก็อยากเกิดมาตัวสูงกันทั้งนั้นไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะความสูงช่วยทำให้มีรูปร่างโดยรวมดี ส่งผลดีต่อบุคลิกภาพ เพิ่มโอกาสในในการทำงานบางสาขาอาชีพได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บางคนรู้สึกกังวลกับความสูงของตัวเอง ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าคนเราจะสูงไปจนถึงอายุเท่าไร หากอยากเพิ่มความสูงล่ะต้องทำอย่างไรดี วันนี้จึงขอนำวิธีเพิ่มความสูงและคำตอบอื่นๆเกี่ยวกับความสูงที่คนอยากสูงต้องการทราบมาฝากกันค่ะ
ความสูง มีผลดีต่อเราอย่างไร
-
เสริมสร้างความมั่นใจ
สำหรับผู้ชาย ความสูงทำให้ดูแข็งแรงบึกบึนสมชายชาตรี อยู่ใกล้ๆแล้วรู้สึกปลอดภัย เพราะฉะนั้นจึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาโดยระบุว่ามีผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ออกเดทกับผู้ชายที่สูงน้อยกว่าตัวเองถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะหน้าตาดีมากก็ตาม (มีแค่ร้อยละ 13 ที่ยอมออกเดทกับผู้ชายที่สูงน้อยกว่าตัวเอง) มันจึงทำให้ผู้ชายจำนวนมากที่ส่วนสูงน้อยกว่าผู้หญิงเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง จึงไม่กล้าออกเดทกับผู้หญิงที่สูงกว่า ซึ่งจะว่าไปแล้วมันเป็นอุปสรรคต่อความรักไม่น้อยเลยทีเดียว
-
มีผลต่อหน้าที่การงาน
เชื่อว่าหลายคนทราบกันอยู่แล้วว่ามีหลายอาชีพที่จำเป็นต้องใช้ส่วนสูงในการประกอบอาชีพด้วย เช่น ตำรวจ ทหาร แอร์โฮสเตส สจ๊วต นักแสดง นักร้อง นางแบบ นายแบบ นักกีฬาเกือบทุกชนิด เป็นต้น บางอาชีพถึงกับกำหนดส่วนสูงมาเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคนตัวสูงจึงค่อนข้างได้เปรียบมากในเรื่องนี้ สำหรับนักกีฬา การมีรูปร่างที่สูงใหญ่อาจช่วยความได้เปรียบในการแข่งขันได้ ส่วนอาชีพอื่นๆที่กล่าวถึงไปข้างต้นอาจมีผลต่อบุคลิกภาพหรือภาพลักษณ์ขององค์กร
ทำไมเราถึงอาจมี ความสูง ไม่ได้อย่างที่ต้องการ
ความสูงจัดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงการเจริญเติบโต แต่ละคนจะสูงมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งจะสูงได้มากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้
-
พันธุกรรม
เป็นสิ่งที่มีผลต่อความสูงของคนเรามากสุด หากพ่อแม่สูง มีโอกาสสูงมากที่ลูกจะสูงเท่าพ่อแม่หรือมากกว่า ดังนั้นหากพ่อแม่เตี้ย ลูกจึงมักเตี้ยตามพ่อแม่ไปด้วย แต่ว่าหากร่างกายได้รับปัจจัยอื่นๆไปด้วยขณะเจริญเติบโต ก็อาจจะสูงขึ้นได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในบางครั้งถึงแม้พ่อแม่จะเตี้ย แต่ลูกอาจสูงมากได้ หากพ่อแม่มีพันธุกรรมความสูงแฝงที่ได้มาจากปู่ย่าตายาย พันธุกรรมนั้นอาจมาแสดงผลในรุ่นลูกหลานได้เช่นเดียวกัน
-
อาหารการกิน
สารอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับเพิ่มความสูง เพราะฉะนั้นมันจึงมีผลไม่น้อยโดยเฉพาะแคลเซียมกับโปรตีนรวมไปถึงสารอาหารที่ให้พลังงานจำเป็นประเภทอื่นๆด้วย หากคนเราได้รับสารอาหารจำเป็นในระดับที่เหมาะสมเพียงพอมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนกระทั่งคลอดออกมาแล้วเจริญเติบโตตามวัย ความสูงก็จะพัฒนาได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าอาหารการกินไม่ดี ขาดสารอาหารจำเป็นบางอย่างไป ถึงแม้จะมีพันธุกรรมสูงมากจากพ่อแม่ แต่ลูกก็อาจจะสูงไม่เต็มที่ได้
-
การพักผ่อน
ในช่วงที่คนเรากำลังหลับลึกโดยเฉพาะช่วง 00.00-02.00 น. โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมามาก ฮอร์โมนนี้เป็นฮอร์โมนที่จำเป็นต้องการเจริญเติบโต หากขาดไปจะมีร่างกายที่เตี้ยและแคระแกรน หรือถ้ามีมากเกินไปก็จะตัวใหญ่และสูงกว่าปกติได้ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องโกรทฮอร์โมนจะมากเกินไป เพราะส่วนมากแล้วเกิดจากโรคทางพันธุกรรม ดังนั้นควรกังวลเรื่องขาดฮอร์โมนมากกว่า เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายกว่ามาก เนื่องจากคนยุคใหม่นอนดึกกันเยอะ บางคนก็นอนไม่เป็นเวลา ถ้านอนไม่หลับลึกจริงในช่วงเวลาดังกล่าว ฮอร์โมนก็หลั่งออกมาได้ไม่เต็มที่ หรือถ้าชอบทานของหวานก่อนนอน ก็มีผลต่อเช่นเดียวกัน เพราะน้ำตาลจะไปขัดขวางการหลั่งของโกรทฮอร์โมน
-
การออกกำลังกาย
มีผลต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมนเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของกระดูกด้วย เพราะฉะนั้นในวัยเด็กจึงควรมีกิจกรรมเหมาะสมที่สามารถทำให้ออกกำลังกายได้ เด็กที่วิ่งเล่นเป็นประจำจะมีกระดูกที่แข็งแรงและมีส่วนสูงที่มากกว่าเด็กที่มัวแต่อยู่ในบ้าน ดูทีวีหรือไม่ค่อยทำกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งนอกจากส่วนสูงจึงไม่ค่อยเพิ่มขึ้นแล้วยังอาจจะอ้วนแทนได้ด้วย
-
โรคภัยไข้เจ็บ
โรคภัยไข้เจ็บบางโรคมีผลต่อการเจริญเติบโตและความสูงของเด็กมาก เช่น โรคขาดสารอาหาร โรคทางพันธุกรรมบางโรค โรคที่เกี่ยวกับกระดูก โรคที่เกี่ยวกับการสร้างฮอร์โมนบางชนิด เป็นต้น โรคเหล่านี้มีทั้งแบบหลีกเลี่ยงได้และไม่ได้ เพราะฉะนั้นโรคไหนสามารถป้องกันได้ก็ต้องป้องกัน แต่ถ้าลูกป่วยด้วยโรคที่ป้องกันไม่ได้ก็รีบหาลูกไปพบแพทย์ เพราะอาจจะมีวิธีรักษาให้ดีขึ้นได้
สรุปคือปัจจัยหลักๆที่ส่งผลต่อความสูงได้แก่ พันธุกรรม, อาหาร, การพักผ่อน, การออกกำลังกายและโรคภัยไข้เจ็บ อย่างไรก็ตามถึงแม้พันธุกรรมจะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสูงมากที่สุด แต่ปัจจัยที่มีผลต่อความสูงมากที่สุดกลับกลายเป็นอาหารและโภชนาการ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุของปัญหาเรื่องความสูงของเด็กไทยและเด็กทั่วโลกเลยทีเดียว
วิธีการตรวจสอบว่าตัวเองยังมีโอกาสสูงขึ้นได้อีกหรือไม่
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องส่วนสูงแล้วอยากจะเพิ่มส่วนสูง ในตอนแรกควรจะทราบก่อนกว่าในตอนนี้ยังสามารถสูงได้อีกหรือไม่ เมื่อทราบจะได้วางแผนรักษากันอย่างเหมาะสม ส่วนวิธีการตรวจสอบทำได้ดังนี้
-
อายุ
ในช่วงแรกเกิดเด็กจะมีความยาวราว 50 เซนติเมตรและเพิ่มมาเป็น 75 เซนติเมตรใน 1 ปี เมื่ออายุครบ 2 ขวบ ความสูงจะเพิ่มเป็น 85 เซนติเมตรและกลายเป็น 100 เซนติเมตรเมื่ออายุครบ 2 ขวบ สำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 4-6 ปีจะสูงเพิ่มขึ้นโดยประมาณปีละ 5 เซนติเมตร หากได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอจะสูงเฉลี่ยปีละ 5-7 เซนติเมตรไปจนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากนั้นอัตราสูงเฉลี่ยจะต่ำลงเรื่อยๆ จนหยุดสูงไปเมื่ออายุ 16-18 ปีสำหรับผู้หญิง ทั้งนี้จะหยุดสูงช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความเร็วในการมีประจำเดือนครั้งแรกด้วย หากมีเร็วก็จะหยุดสูงเร็ว โดยปกติแล้วผู้หญิงจะมีอัตราสูงน้อยลงเรื่อยๆเมื่อมีประจำเดือนครบ 2 ปี สำหรับเด็กผู้ชาย ช่วงที่ความสูงเพิ่มขึ้นมากที่สุดคืออายุ 12-16 ปี ช่วงก่อนอายุ 20 จะสูงขึ้นอีกปีละนิดหน่อยแล้วหยุดสูงไปตอนอายุ 20-25 ปี อย่างไรก็ตามข้อมูลตรงนี้เป็นการอ้างอิงสถิติ ในความเป็นจริงอาจจะหยุดสูงเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นหากอยากเพิ่มส่วนสูงนอกจากจะตรวจสอบจากอายุด้วยตัวเองในขั้นตอนเริ่มต้นแล้ว ควรตรวจสอบด้วยวิธีทางการแพทย์ด้วย
-
พบแพทย์
หากต้องการทราบว่ายังสูงได้อีกหรือไม่ สามารถรู้ได้อีกวิธีคือการไปพบแพทย์ โดยแพทย์มักจะคำนวณร่วมกัน 2 วิธีคือ การคำนวณความสูงสุดท้ายของพ่อกับแม่และคำนวณจากภาพเอกซเรย์อายุกระดูก ภาพเอกซเรย์นี้ถ่ายแค่ช่วงมือก็เพียงพอที่จะใช้สำหรับเปรียบเทียบแล้ว เพราะแพทย์จะนำภาพเอกซเรย์ที่ได้ไปเทียบกับภาพถ่ายเอกซเรย์อายุกระดูกมาตรฐาน ก็จะช่วยให้คำนวณออกมาได้ว่าอายุกระดูกที่เห็นนั้นคือเท่าไร กระดูกสามารถเจริญเติบโตได้มากขึ้นอีกเท่าใด
วิธีเพิ่มความสูง ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีในผู้หญิงและ 25 ปีในผู้ชาย
โดยปกติแล้วปลายกระดูกจะปิดเมื่ออายุประมาณ 16-18 ปีสำหรับผู้หญิง และ 20-25 ปีสำหรับผู้ชาย เพราะฉะนั้นหากอายุต่ำกว่าที่กล่าวไปข้างต้น ปลายกระดูกยังไม่ปิด จะสามารถเพิ่มความสูงได้มีประสิทธิภาพมาก วิธีการก็สามารถทำได้ไม่ยาก ดังนี้
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน สามารถเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายได้ทุกประเภทไม่ว่าจะฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ ฯลฯ ยิ่งถ้าเป็นประเภทที่ช่วยยืดกระดูกอย่างการโหนบาร์ด้วยแล้วละก็ยิ่งได้ผลดียิ่งขึ้น การออกกำลังกายนั้นต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยออกวันละ 30-40 นาที สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลดี
-
ใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหาร
ต้องรับประทานอาหารให้ครบถ้วน 5 หมู่ เน้นโปรตีนและแคลเซียม ต้องทานควบคู่ไปทั้ง 2 อย่าง ห้ามขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปเด็ดขาด สำหรับโปรตีนพบได้ในเนื้อสัตว์ทั่วไป ถั่ว ไข่ นม เป็นต้น ส่วนแคลเซียมนั้นมักพบในนม ผักใบเขียว ปลาที่ทานได้ทั้งตัว เป็นต้น เพราะฉะนั้นนอกจากอาหาร 5 หมู่แล้ว สิ่งที่ควรทานเป็นประจำทุกวันคือ นม ควรดื่มวันละ 2 แก้วเช้าและก่อนนอน เพราะในนมมีแคลเซียมสูงมาก ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้เป็นอย่างดี
-
พักผ่อนให้เพียงพอ
อย่างที่กล่าวถึงไปด้านบนว่าคุณภาพการนอนหลับส่งผลต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมนมาก เพราะฉะนั้นการพักผ่อนให้เพียงพอนั้นจำเป็นมาก แนะนำให้นอนตั้งแต่สี่ทุ่มเพื่อให้หลับสนิทในช่วงเที่ยงคืนถึงตีสอง และควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
-
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม
เพราะว่าถ้าดื่มมากๆจะทำให้กระดูกบาง แถมฟันผุได้ง่ายได้อีกด้วย
-
งดการสูบบุหรี่
แอลกอฮอล์และสิ่งเสพติดทุกประเภท เพราะไม่ใช่มีผลเสียแค่เรื่องความสูงเท่านั้น แต่ยังมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากอีกด้วย
-
เครื่องยืดกระดูก
เครื่องนี้ทำงานด้วยหลักการที่คล้ายคลึงกับการออกกำลังกายแบบโหนบาร์ เพราะฉะนั้นผลที่ได้จึงได้ผลดีคล้ายๆกับการออกกำลังกายนั่นเอง แต่ว่าอาจลงทุนมากหน่อย เพราะราคาค่อนข้างสูง
-
การฉีดโกรทฮอร์โมน
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขาดฮอร์โมนชนิดนี้จนมีส่วนสูงไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานเท่านั้น หากฉีดในผู้ที่มีส่วนสูงตามเกณฑ์เพราะอยากสูงกว่าปกติ จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ฮอร์โมนอาจจะมากเกินไปจนสูงแบบผิดปกติได้ หากฉีดนานๆจะเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยได้อีกหลายโรค เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคกระดูก โรคเบาหวาน โรคมะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ในวัยนี้สามารถเพิ่มความสูงด้วยวิธีการดูแลตัวเองตามธรรมชาติได้ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้เน้นไปที่การปฏิบัติตนตามปกติมากกว่าการใช้ยา การใช้ฮอร์โมนหรือการผ่าตัด
วิธีเพิ่มความสูง ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีอายุสูงกว่า 18 ปีในผู้หญิงและ 25 ปีในผู้ชาย
หากปลายกระดูกปิดแล้ว การเพิ่มความสูงเป็นไปได้ยากมาก แต่ก็อาจพอทำได้ด้วยบางวิธี เช่น
-
การผ่าตัด
การผ่าตัดนี้จะทำบริเวณกระดูกหน้าแข้ง วิธีการคือตัดกระดูกแยกจากกันด้วยการยิงลวด หลังจากนั้นใช้ลวดยึดด้านบนและล่างเข้าไว้ด้วยกันเพื่อยึดเครื่องมือยืดกระดูกเอาไว้ เครื่องมือนี้จะช่วยยืดกระดูกได้วันละ 1 มิลลิเมตร จากการคำนวณพบว่าช่วยยืดกระดูกได้มากกว่า 5 เซนติเมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามวิธีนี้มีความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น กระดูกใหม่อาจไม่แข็งแรงมากพอ กระดูกอาจไม่เชื่อมติดกัน กระดูกอาจเบี้ยวจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดีดังเดิม เสี่ยงต่อการติดเชื้อซึ่งหากเกิดกับกระดูกจะรักษาได้ยากมาก มีโอกาสถูกตัดขาได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่แนะนำให้เสี่ยงกับวิธีนี้
-
ยืดกระดูกที่คด
บางรายอาจจะใช้ชีวิตด้วยท่าทางที่ผิดธรรมชาติอย่างการยืนหลังค่อมมาตลอด อาจทำให้หลังค่อมได้ ซึ่งมันจะทำให้ดูเตี้ยกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ปัญหากระดูกคดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่ออายุมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราสามารถยืดกระดูกให้กลับมาตรงตามเดิมได้โดยการนั่งคุกเข่า แล้วเอนตัวราบไปด้านหลัง ส่วนแขนก็เหยียดตรงราบไปเหนือศีรษะ ให้นอนค้างเอาไว้ครั้งละ 1 นาที ทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ช่วยยืดกระดูกที่คดให้กลับมาตรงได้ ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ได้จากแพทย์กระดูกญี่ปุ่น
-
เทคนิคเพิ่มความสูง
สำหรับผู้หญิงก็สามารถใช้รองเท้าส้นสูงได้ ส่วนผู้ชายถ้าไม่รู้จะใส่อะไรดีแนะนำให้ซื้อแผ่นเสริมส้นมาใช้แทน แผ่นนี้จะผลิตจากโฟมหรือใยสังเคราะห์ มีความสูงหลายระดับตั้งแต่ 3.5-10 เซนติเมตรเลยทีเดียว เวลาจะใช้ก็ใส่ลงไปในรองเท้าเท่านั้นเอง
10 ท่ายืดออกกำลังกายเพิ่มความสูงที่ได้ผลดี
อย่างที่รู้กันว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นอีกวีที่ช่วยเพิ่มความสูงได้ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ปลายกระดูกยังไม่ปิด ถึงแม้กระดูกจะยังสามารถยืดได้อีกตามธรรมชาติ แต่ถ้าออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยแล้วละก็ จะช่วยกระตุ้นให้ปลายกระดูกสามารถยืดได้อย่างเต็มที่ ว่าแต่ถ้าอยากจะออกกำลังกาย ควรจะเลือกออกท่าใดบ้าง ถึงจะช่วยเพิ่มความสูงได้ดี วันนี้เราได้รวบรวมมาฝากกันแล้วค่ะ
- Hanging Exercise กระโดดบาร์แล้วจับให้แน่นๆ จากนั้นปล่อยตัวลงมาตรงๆ แล้วเหวี่ยงขาไปด้านหน้าให้ขาตั้งฉากกับลำตัว ทำค้างไว้ 30 วินาทีแล้วเอาขาลง ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- Jumping Exercise ท่านี้ให้ยกแขนเหยียดตรงขึ้นไปด้านบนพร้อมทั้งกระโดดขึ้นและพ้อยต์เท้าลง จะรู้สึกเหมือนกำลังยืดตัว หลังกระโดดให้ลงในท่าย่อเข่าเล็กน้อยพร้อมเหวี่ยงแขนไปด้านหลัง ดึงก้นเอาไว้และโน้มตัวมาด้านหน้า หลังเหยียดตัว เพื่อทรงตัวไม่ให้ล้ม ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- Cobra Stretch นอนคว่ำราบไปกับพื้น แต่เอามือเท้าไปที่พื้น แขนตรง ตั้งฉากกับศอก เพื่อยกลำตัวส่วนหัวและหน้าอกขึ้น จากนั้นดันลำตัวขึ้นไปด้านหลัง โฟกัสที่หน้าท้องและลำตัว มือต้องวางอยู่ที่เดิมแต่ใช้แรงจากมือให้น้อยที่สุด(ใช้แรงจากหน้าท้องและลำตัวแทน) ค้างไว้ 30 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- Cat and Cow Stretch คุกเข่ากับพื้น มือวางราบไปที่พื้นเพื่อเตรียมตัวอยู่ในท่าแมว จากนั้นโก่งลำตัวขึ้นด้านบน คางชิดอก ทำค้างไว้ 5 วินาที แล้วเปลี่ยนเป็นดึงหน้าท้องลงด้านล่างให้มากที่สุด แอ่นก้นขึ้นและเงยหน้าค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 15 ครั้ง
- Pelvic Shift นอนหงายแล้วชันเขาขึ้น แขนวางราบข้างลำตัว ยกก้นขึ้นให้สูงที่สุดโดยเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเอาไว้ ส่วนแขนที่อยู่ข้างลำตัวก็ใช้ดันพื้นเล็กน้อยเพื่อส่งแรง ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 10ครั้ง
- Toe Touch เริ่มจากยืนตัวตรงแขนขนาบข้างลำตัว จากนั้นก้มตัวลงโดยที่ขายังเหยียดตรง พยายามเอามือแตะปลายเท้าให้ได้ แตะค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 15 ครั้ง
- Downward Facing Dog Pose ท่าเตรียมตัวอยู่ในท่า Dog Pose คือคุกเข่า มือเท้าพื้น หลังตรง ฝ่ามือกางออกเท่าหัวไหล่ จากนั้นยกก้นขึ้นไปด้านบนให้อยู่สูงที่สุด แขนและขาเหยียดตรง ท่านี้จะเป็นรูปตัววีหรือสามเหลี่ยม ค้างไว้ 30 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง
- Triangle Pose ยืนกางแขน อ้าขาให้มีความกว้างเกือบสุดแขน จากนั้นเอี้ยวตัวไปด้านข้าง เอามือแตะพื้น ส่วนมืออีกข้างเหยียดตรงขึ้นด้านบน หน้าเงยขึ้นด้านบนเช่นเดียวกัน ค้างไว้ 30 วินาที จากนั้นสลับข้าง ทำซ้ำ 2 ครั้ง
- The Table ท่านี้จะคล้ายกับสะพานโค้ง เพียงแต่ลำตัวไม่เป็นต้องโค้งแบบท่านั้น แต่ท่าและลำตัวต้องตั้งฉากกัน แขนก็ต้องตั้งฉากกับลำตัวด้วยเช่นเดียวกัน ทำค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง
- กระโดดเชือก การกระโดดเชือกช่วยให้ขาเรียวยาวขึ้นได้ เพราะมันช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อขาได้เป็นอย่างดี กระโดด 30ครั้ง ทำซ้ำ 3 เซต
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่อยากให้ลูกตัวสูงไม่ว่าตัวเองจะสูงหรือไม่ก็ตาม แนะนำให้ทานอาหารให้ครบถ้วนตั้งแต่ตั้งครรภ์ ทานโปรตีนและแคลเซียมอย่างเหมาะสมตามที่แพทย์สั่ง หากมีโภชนาการที่ดี ลูกจะมีต้นทุนติดมามาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เมื่อคลอดแล้วลูกได้สารอาหารครบถ้วน มีกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนอย่างเพียงพอ ลูกจะมีโอกาสสูงกว่าพ่อแม่ได้(ในรายที่พ่อแม่ไม่ได้มีส่วนสูงมากเท่าใดนัก) ส่วนพ่อแม่ที่สูงอยู่แล้ว หากดูแลลูกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อย่างไรลูกก็สูงอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีต้นทุนทางพันธุกรรมที่ดี ยังได้การบำรุงที่เต็มเปี่ยม ความสูงจึงพัฒนาได้แบบเต็มพิกัดเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่อยากสูงหากตรวจสอบดูแล้วพบว่ายังสามารถเพิ่มความสูงได้อยู่ ก็ปฏิบัติตามคำแนะนำในส่วนแรก หากทำครบทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าสูงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะเพิ่มขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพันธุกรรมด้วย ส่วนในรายที่อายุเกินแล้ว ต้องขอบอกความจริงว่าอาจจะต้องทำใจ เพราะถ้าปลายกระดูกมันปิดแล้วก็ไม่สามารถเพิ่มความสูงได้อีกเว้นแต่ว่าจะผ่าตัด ซึ่งก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนมากเกินไปจนไม่แนะนำให้ผ่า ดังนั้นลองแก้ปัญหาด้วยวิธีการใส่รองเท้าส้นสูงหรือใช้ที่เสริมส้นแทน จะปลอดภัยมากกว่า เพราะหากสูงจริงๆแต่เสียความแข็งแรงของกระดูกไป มันก็คงไม่คุ้มค่ากันเลยค่ะ