ADVERTISEMENT
หากคุณต้องการมีเว็บไซต์ที่โดดเด่น มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ หนึ่งในปัจจัยที่ควรคำนึงเลยก็คือ การเช่าโฮส หรือที่รู้จักกันว่าเว็บโฮสติ้ง (Web hosting) ซึ่งบริการโฮสติ้งที่ดี นั้นก็ต้องปลอดภัย รวดเร็ว เข้าถึงการควบคุมต่างๆ เสถียร บริการดี และเหมาะสมกับการใช้งานของเราทั้งด้านสัญญา ราคา สถานที่ ประเภทเทคโนโลยี ซึ่งในบทความนี้นั้นจะขอบอกปัจจัยที่ควรคำนึงในการเลือกเว็บโฮสติ้ง และจะขอแนะ hosting ไหนดี สำหรับเว็บไซต์ไทย ลูกค้าและผู้ใช้งานหลักๆอยู่ในประเทศไทย
เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) คืออะไร ?
เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) คือการให้บริการฝากเว็บไซต์บน Server ซึ่ง Server นี้ก็คือพื้นที่ในการเก็บข้อมูล จัดการไฟล์ต่างๆ ให้สามารถรัน เข้าถึง ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีเลือกผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting)
1. เลือกจากประเภทโฮสติ้ง
การที่เราจะสามารถเลือกประเภทโฮสติ้งที่เหมาะสมกับเราได้นั้น เราจะต้องถามว่าเว็บไซต์ของเรานั้นต้องการทรัพยากรที่ใช้ในการรันเว็บมากเท่าใด ความสามารถในการควบคุม ปรับแต่ง Server มากแค่ไหน ซึ่งประเภทโฮสก็จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
Share Hosting – การใช้พื้นที่ร่วมกับผู้ใช้รายอื่นบน Server เดียวกัน ซึ่งจะใช้งานง่าย มีราคาถูก แต่ปรับแต่งได้อย่างจำกัด ความเสถียรต่ำ ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับผู้ใช้รายอื่นบน Server (เหมาะกับผู้ใช้เริ่มต้นที่ไม่ต้องการพื้นที่หรือทรัพยากรมาก)
VPS Hosting – การใช้พื้นที่บน Server เสมือน บน Server จริง ซึ่งจะไม่ต้องแบ่งทรัพยากรให้ผู้ใช้รายอื่น ทำให้มีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Share Hosting แต่ก็แลกมากับความเสถียรที่มากขึ้น ปรับแต่งตามความต้องการได้มากขึ้น (เหมาะกับผู้ใช้ขนาดกลาง ที่มีความรู้ทางเทคนิคเล็กน้อย สามารถปรับแต่ง Server เองได้)
Dedicated Hosting – การใช้พื้นที่บน Server จริงๆ เพียงผู้เดียว สามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีความเสถียรและปลอดภัยมากๆ แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่สูง และการที่อาจจะต้องปรับแต่ง Server เองหรือต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อดูแลโดยเฉพาะ (เหมาะกับเว็บไซต์ที่ค่อนข้างใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการความปลอดภัย ประสิทธิภาพที่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่)
Cloud Hosting – ลักษณะนั้นคล้าย VPS Hosting ที่ใช้พื้นที่บน Server เสมือน แต่ต่างกันตรงที่ Cloud Hosting ใช้พื้นที่จากการจัดสรรจาก VPS หลายๆที่อีกที ทำให้ระบบมีความเสถียร ควบคุม เข้าถึง ปรับแต่งความสามารถหรือแพลนการใช้งานได้ง่ายมากกว่า VPS
2. เลือกจากอุปกรณ์ เทคโนโลยี
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกโฮสก็คือ เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่รองรับและใช้ในการรัน Server ตัวอย่างเช่น Hard Disk ควรจะเป็น SSD เพราะจะมีความเร็วมากกว่าแบบปกติถึง 5 เท่า ตัว Server มีการออกแบบให้รองรับภาษาต่างๆ ในเวอชั่นต่างๆหรือไม่ มี HTTP/2 รึเปล่า
3. เลือกจากความปลอดภัย การจัดการ การบริการ
ระบบการป้องกันไวรัส การแฮก หรือสแปมมีอะไรบ้าง มีอุปกรณ์ software ให้เฝ้าดู สังเกตการณ์หรือไม่ มีการสำรองข้อมูลรายวัน / สัปดาห์ รึเปล่า มี Control Panel หลังบ้านที่ทันสมัย มีฟีดเจอร์ต่างๆให้ใช้ตามที่จำเป็นหรืออาจต้องการ สะดวกครบครันไหม ซึ่งแต่ละผู้ให้บริการโฮสติ้งก็อาจจะมีแต่ละอย่างที่คล้ายกัน หรือบ้างเจ้าก็ออกแบบแทบจะทั้งหมดใหม่เอง
4. เลือกจากแบบแผน ราคา
เราควรต้องเลือกแบบแผนและราคาให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด เพราะผู้ให้บริการแต่ละที่ออกแบบแพ็คเกจมาไม่เหมือนกัน บางเจ้าคิดตามที่ใช้งาน คิดตามรายวัน รายเดือน ราย 3 เดือน หรือรายปี นอกจากนั้นแพ็คเกจที่ผู้ให้บริการนำเสนอก็ครอบคลุมบริการที่ต่างกัน เช่น จำนวนเว็บหรือฐานข้อมูลที่สามารถโฮสได้บน Server, มีฟรีจดโดเมน ฟรี SSL หรือแม้กระทั่ง มีบริการเสริม เช่น Staging Environment, CDN, Server Status Monitoring, Caching, Migrating Tool, E-mail Service ต่างๆมาให้ไหม
5. เลือกจากซัพพอร์ต
เราต้องประเมินว่าผู้ให้บริการมีความสามารถหรือพร้อมที่จะช่วยเหลือเรามากน้อยแค่ไหน เราจะสามารถติดต่อผู้ให้บริการได้ 24 ชั่วโมงหรือไม่ และผ่านช่องทางไหนบ้าง เช่น โทร อีเมล หรือเปิด Ticket มีนโยบายการตอบกลับหรือแก้ไขปัญหาภายในกี่ชั่วโมง หรือทางผู้ให้บริการมีอุปกรณ์ให้เราใช้แก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่พบบ่อยได้ด้วยตนเองรึเปล่า
6. เลือกจากชื่อเสียง รีวิวในด้านต่างๆ
ผู้ให้บริการแต่ละเจ้ามีความโดดเด่นที่ต่างกัน บางเจ้าซัพพอร์ตดี เร็ว ไว มีประสิทธิภาพมาก บางเจ้าออกแบบหลังบ้านมาให้ง่ายต่อการใช้งาน บางเจ้า Server เร็ว พบปัญหาน้อย บางเจ้าออกแบบมาให้ใช้กับ CMS ต่างๆ เช่น WordPress Joomla ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราก็สามารถหาดูได้ตามเว็บบอร์ด ยูทูป เว็บไซต์ต่างๆ กลุ่ม Facebook หรือ Community ต่างๆ
7. เลือกจากสถานที่ตั้ง Server
การเลือกผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งนั้น เราควรต้องคำนึงถึงสถานที่ด้วยว่าผู้ใช้เว็บของเรานั้นอยู่ละแวกไหน ประเทศอะไรเป็นหลัก เช่น หากผู้ใช้ของเรานั้นอยู่ในโซนประเทศไทย เราก็ควรเลือกเช่า Server ในประเทศไทย หรือใกล้เคียง เพื่อเราจะได้มั่นใจว่าผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราได้อย่างรวดเร็วที่สุด
8. เลือกจากความยาก ง่ายในการติดตั้ง
ความยาก ง่าย หรือแม้กระทั่งความเร็วในการติดตั้งของแต่ละผู้ให้บริการนั้นต่างกัน บางเจ้าเราอาจจะต้องรอ 1-3 ชั่วโมงเพื่อรับรายละเอียดการเข้าใช้งาน บางเจ้ามีระบบ Set up อัตโนมัสพร้อมให้เราใช้งานทันที บางเจ้ามีอุปกรณ์หรือซัพพอร์ต Migrating มาให้โดยเฉพาะ
ตารางเปรียบเทียบเว็บโฮสติ้ง
Web Hosting | ราคาเริ่มต้น | จุดเด่นหลักๆ |
Cloudways | 300 บาท / เดือน | รวดเร็ว คุณภาพ ฟีดเจอร์เยอะ หลังบ้านเยี่ยม |
Ruk-Com Hosting | 49 บาท / เดือน | คุณภาพ ปัญหาน้อย ไม่แพง ซัพพอร์ตดี |
Hostatom | 57.5 / เดือน | ไม่แพง มีประสิทธิภาพ ซัพพอร์ตเยี่ยม |
#1
Cloudways
ราคาเริ่มต้น
300 บาท ต่อเดือน
ถ้าให้พูดถึงเว็บโฮสติ้งที่เพียบพร้อมที่สุดในด้านต่างๆคงหนีไม่พ้น Cloudways ผู้ให้บริการที่มาแรงที่สุดในปีนี้ Cloudways เป็นเสมือนแพลตฟอร์มช่วยให้เราจัดการ Cloud Hosting ได้ง่าย สะดวกขึ้น Cloudways พาร์ทเนอร์กับหลากหลายบริษัทชั้นนำของโลก เช่น DigitalOcean, Linode, Vultr, AWS และ Google Cloud, Elastic Email, Rackspace, Stackpathdns และอื่นๆ ทำให้มีแพ็คเกจให้เลือกใช้เยอะมาก มี Features / Add-ons เยอะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Free SSL Certificates, Free Migration, CDN Add-on, Staging Environment, Real-time Monitoring, Automated Backups, Auto Healing และอื่นๆอีกมากมาย ระบบหลังบ้านก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่กี่คลิกก็ติดตั้งเสร็จ มอนิเตอร์ได้ทันที และด้วยการที่เป็น Cloud Hosting ทำให้เราสามารถปรับขนาดเซิฟเวอร์ของเราได้ตามใจชอบ
ข้อดี
#2
RUK-COM Hosting
ราคาเริ่มต้น
49 บาท ต่อเดือน
สำหรับเว็บโฮสติ้งที่อยู่ในไทยเจ้าเด่นๆ คงหนีไม่พ้น RUK-COM Hosting เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการ Cloud Hosting ที่ได้มาตรฐานสุดๆ สมราคาที่จ่ายไป มีแพคเก็จให้เลือกใช้ค่อนข้างที่จะครอบคลุมความต้องการ ด้านการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานเว็บเล็ก-กลาง-ใหญ่ หรือผู้ใช้ WordPress ก็มีการปรับจูน Server ให้เหมาะแก่การใช้งาน น้อยครั้งมากๆที่จะพบปัญหา ซึ่งหากพบปัญหา แม้ปัญหาเกิดจากฝั่งผู้ใช้งานเอง ทาง RUK-COM Hosting ก็สามารถติดต่อได้ง่าย ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเต็มใจ และค่อนข้างรวดเร็วเลย Support ถือว่าอยู่ในระดับ ดี-ดีมาก
ข้อดี
#3
Hostatom
ราคาเริ่มต้น
57.5 บาท ต่อเดือน
เว็บโฮสติ้งประเทศไทยฉบับคุณภาพอีกเจ้าที่น่าสนใจ นอกจากประสบการณ์ทางด้าน Network กว่า 10 ปีแล้ว Server ของ Hostatom ก็ยังเร็ว มีประสิทธิภาพสูง มากับเทคโยโลยีสมัยใหม่ เช่น SSD, Dell PowerEdge รองรับหลากหลายภาษาการใช้งาน เช่น PHP 5, PHP 7, Ajax, Perl, Node.js, Javascript, Curl, Cron job, ioncube, GD library, Smarty, CGI และตัว Server เองก็ตั้งอยู่ในจุดที่ชุมสายอินเตอร์เน็ตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และแน่นอนสำหรับผู้ใช้ WordPress ทาง Hostatom ก็ออกแบบ ตั้งค่า Server ให้เหมาะแก่การใช้งาน WordPress ทำให้การตอบสนองกับฐานข้อมูล และระบบ Caching เร็วขึ้น
ข้อดี
เป็นอย่างไรบ้าง กับเหล่าผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ทางเราได้คัดเลือกมาให้ ซึ่งผู้ให้บริการ hosting เหล่านี้นั้นได้รับการรีวิวในด้านดี – ดีมากจากเว็บต่างๆมากมาย โฮสเหล่านี้มีปัญหาน้อย ใช้แล้วสบายใจคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปอย่างแน่นอน!