ADVERTISEMENT
ปัจจุบันกระแสของ Home Cooking กำลังมาแรง ส่วนหนึ่งอาจจะมีอิทธิพลมาจากความก้าวไกลของเทคโนโลยีทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทำให้ทุกคนต่างเสาะแสวงหาสูตรการทำอาหารจากทั่วทุกสารทิศได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าหากท่านตามหาแต่สูตรเด็ด แต่ไม่ศึกษาเคล็ดลับ ก็เปรียบเสมือนมีแผนที่แต่ไม่มีผู้นำทาง 10 เมนูอาหารง่ายๆทำได้ที่บ้าน จึงขออาสาเป็นผู้นำทางให้ท่านพบกับขุมทรัพย์แห่งความอร่อยนั่นเอง
#1
สปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง
สปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่องเป็นอาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นเข้ากับอาหารพื้นบ้านของเมืองเหนือได้อย่างลงตัว ด้วยสัมผัสของเส้นอันเหนียวนุ่มตามสไตล์อิตาเลียน ราดด้วยซอสน้ำพริกอ่องรสชาติกลมกล่อม เพิ่มอรรถรสด้วยกลิ่นเครื่องเทศอันหลากหลาย วิธีทำง่ายๆเพียงสี่ขั้นตอนเท่านั้น
ส่วนผสม สปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
เส้นสปาเก็ตตี้ | 100 | กรัม |
หมูสับ | 200 | กรัม |
มะเขือเทศสับ | 2 | ถ้วยตวง |
หอมหัวใหญ่สับละเอียด | 2 | ถ้วยตวง |
กระเทียบสับ | 1 | ถ้วยตวง |
ซีอิ้วขาว | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลมะพร้าว | 1 | ถ้วยตวง |
น้ำปลา | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะขามเปียก | 1 | ถ้วยตวง |
วิธีทำสปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือลงไปนิดหน่อยเพื่อกระจายความร้อนและทำให้เส้นนุ่ม จากนั้นนำเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ลงไปพร้อมทั้งจับเวลา 5 นาที หากยังไม่สุกให้ต้มต่อไปจนกว่าจะสุก เสร็จแล้วนำเส้นไปแช่ในน้ำเย็นแล้วพักไว้
- ใส่น้ำมันเล็กน้อยลงในกระทะ นำหมูสับ หอมหัวใหญ่และกระเทียมสับละเอียด รวมไปถึงมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นเล็กๆลงไปเคี่ยวรวมกัน พร้อมกับเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ติดกระทะ
- เคี่ยวจนงวดได้ที่แล้ว (ประมาณ 5-10 นาที) แล้วปรุงรสด้วย น้ำตาลก้อน ซีอิ้วขาว น้ำปลา และน้ำมะขามเปียกตามอัธยาศัย
- นำสปาเก็ตตี้ที่พักไว้จัดใส่จานแล้วราดด้วยน้ำพริกอ่องรสชาติกลมกล่อม ตกแต่งหรือโรยหน้าด้วยเครื่องเทศเพื่อเพิ่มมิติในด้านของรสชาติให้เป็นอาหารฟิวชั่นสุดแนวที่ทั้งอร่อยและหรูหราควรค่าแก่การนำเสนอ
เคล็ดลับในการทำสปาเก็ตตี้น้ำพริกอ่อง
เคล็ดลับความอร่อยของการทำน้ำพริกอ่องก็คือ การใช้วัตถุดิบสดใหม่ ลดการใช้วัตถุดิบแปรรูปทุกชนิด โดยเฉพาะซอสมะเขือเทศไม่ควรนำมาใช้โดยเด็ดขาด เพราะรสชาติจากซอสมะเขือเทศนั้นจะมีกลิ่นฉุนจนเกินไปจนกลบกลิ่นเครื่องเทศสดๆ รวมไปถึงรสชาติของน้ำพริกก็จะผิดเพี้ยนไปอีกด้วย ถ้าหากต้องการเพิ่มรสเปรี้ยวแนะนำให้ใช้น้ำมะขามเปียกแทน
#2
แกงรัญจวน
แค่ได้ฟังชื่อก็รื่นหูแล้ว อ้างอิงจากหนังสือ กับข้าวในวัง ของหม่อมหลวง เนื่อง นิลรัตน์ ที่ท่านได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งคร่าวๆว่า สืบเนื่องจากมีเศษเนื้อเหลืออยู่ไม่รู้จะทำเยื่องไร ท่านอาของท่านก็เลยต้มเนื้อแล้วตำน้ำพริกกะปิใส่ ตบท้ายด้วยใบโหระพา นำพามาซึ่งรสชาติของแกงที่มีความกลมกล่อมเปรี้ยว หวาน เค็มของน้ำพริกกะปิ พร้อมด้วยกลิ่นโหระพาหอมฟุ้งให้ความสดชื่น ถือว่าเป็นอาหารง่ายๆแต่มากมายด้วยรายละเอียดชนิดหนึ่งที่คู่ควรต่อการได้ลิ้มลองสักครั้งในชีวิตนั่นเอง หากท่านกำลังมองหาอาหารที่จะสร้างความประทับใจให้กับใครคนหนึ่งแล้ว แกงรัญจวน นั้นช่างเย้ายวนเสียยิ่งกะไร
ส่วนผสมแกงรัญจวน
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
น้ำพริกกะปิ | 1 | ถ้วยตวง |
เนื้อสัตว์ (ตาความชอบ) | 300-500 | กรัม |
ตะไคร้สับ | 1 | ต้น |
ใบโหระพา | 2 | ถ้วยตวง |
หอมแดง | 10 | ลูก |
น้ำมะนาว | 1 | ถ้วยตวง |
พริกขี้หนูสด | 10 | เม็ด |
มะเขือเทศหั่นแว่น | 1 | ถ้วยตวง |
พริกไทยป่น | 1 | ช้อนชา |
วิธีทำแกงรัญจวน
- ตั้งน้ำประมาณ 1 ลิตร ด้วยไฟอ่อนๆ ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงไป
- พอน้ำเริ่มร้อนแต่ยังไม่ถึงจุดเดือด สังเกตได้จากเริ่มมีไอน้ำระเหยขึ้นมาก็ให้ใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ ตามด้วยน้ำพริกกะปิที่เตรียมไว้
- แบ่งใบโหระพาเป็นสองส่วน ใส่ส่วนแรกลงไปพร้อมกับ มะเขือเทศ น้ำมะนาว และพริกสด แล้วจึงเริ่มเคี่ยวให้เข้ากันจนน้ำงวดได้ที่
- เร่งไฟให้แรงเต็มที่ใส่ใบโหระพาที่เหลือลงไปพร้อมกับปิดไฟทันที
- โรยหน้าด้วยพริกไทยป่นและจัดจานตกแต่งให้สวยงาม เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ
เคล็ดลับในการทำแกงรัญจวน
แกงรัญจวนมีเคล็ดลับไม่ซับซ้อนมากนัก ทำง่าย และอร่อย สิ่งที่ควรระมัดระวังก็คือ การคุมไฟให้เหมาะสม พร้อมทั้งใส่วัตถุดิบต่างๆให้ถูกต้องตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด เพื่อลดข้อผิดพลาดอันจะส่งผลให้อาหารจานนี้มีกลิ่นคาว หรือ วัตถุดิบต่างๆไม่สุก หรือสุกจนเกินพอดีนั่นเอง
#3
ยำทูน่าปลาฟู
เมนูอาหารง่ายๆชนิดนี้ถูกประยุกต์มาจากยำปลาดุกฟู อาหารขึ้นชื่อของเมืองไทยชนิดหนึ่งนั่นเอง เพราะขั้นตอนในการทำปลาดุกฟูนั้นมีความพิถีพิถันและต้องใช้เวลามาก เราจึงลดขั้นตอนเหล่านั้นลงมาด้วยการนำอาหารสำเร็จรูปที่มีความใกล้เคียงกันอย่างเนื้อปลาทูน่ามาประยุกต์เข้ากับน้ำยำสูตรพริกเผาเพื่อทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นนั่นเอง
ส่วนผสมของยำทูน่าปลาฟู
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
ปลาทูน่าในน้ำแร่หรือน้ำเกลือ | 1 | กระป๋อง |
น้ำมันสำหรับทอด | 1 | ขวดเล็ก |
พริกเผา | 2 | ช้อนชา |
น้ำมะนาว | 1 | ถ้วยตวง |
น้ำปลา | 1 | ช้อนชา |
น้ำเชื่อม | 1 | ช้อนชา |
หอมแดงซอย | 5 | หัว |
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ | 10 | เม็ด |
วิธีทำยำทูน่าปลาฟู
- นำปลาทูน่ากระป๋องมาสะเด็ดน้ำแล้วยีออกจากกันเป็นชิ้นเล็กๆ
- ทอดปลาทูน่าในน้ำมันร้อนๆด้วยไฟต่ำจนสีเหลืองทองแล้วพักไว้
- นำน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำเชื่อม มาผสมรวมกันเป็นน้ำยำ
- นำปลาทูน่าทอดกรอบที่พักไว้มาคลุกเค้าให้เข้ากับน้ำยำ แล้วใส่หอมหัวแดงที่ซอยเป็นชิ้นเล็กๆไว้แล้ว และโรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จัดจานให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับในการทำยำทูน่าปลาฟู
ข้อควรระวังของเมนูนี้มีอยู่ขั้นตอนเดียว ก็คือการทอดปลาทูน่าที่ต้องทอดในน้ำมันที่ร้อนพอดี หากน้ำมันไม่ร้อนเนื้อปลาจะอมน้ำมัน หากไฟแรงจนเกินไปปลาทูน่าจะไม่ฟูเหลืองและไหม้ได้ง่ายนั่นเอง ดังนั้นให้ตั้งไฟอ่อนรอจนน้ำมันร้อน วิธีทดสอบที่ปลอดภัยและง่ายที่สุดก็คือทดลองทอดปลาทูน่าสักเล็กน้อย ถ้าหากปลาทูน่าไม่จมอยู่ก้นกระทะและไม่ลอยขึ้นมาเร็วเกินไปเป็นอันว่าใช้ได้แล้ว
#4
ข้าวแกงกะหรี่ไก่ไข่ข้น
หากใครกำลังมองหาเมนูง่ายๆ ที่ทานได้ทั้งครอบครัว ข้าวแกงกะหรี่ไก่ไข่ข้นก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว เพราะต้นทุนในการทำนั้นถูกกว่าการไปรับประทานที่ร้านมาก นอกจากนี้ในส่วนของรสชาติก็สามารถปรับให้เข้ากับอัธยาศัยของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี การันตีด้วยผงแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่หาได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปนั่นเอง
ส่วนผสมของข้าวแกงกะหรี่ไก่ไข่ข้น
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
สะโพกไก่ | 300 | กรัม |
ข้าวสวย | 1 | จาน |
ผงแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบก้อน | 3 | ก้อน |
ไข่ไก่ | 1 | ฟอง |
กระเทียมสับ | 1 | ถ้วยตวง |
หอมหัวใหญ่สับ | 1 | ถ้วยตวง |
แครอทหั่นเป็นชิ้น | 2 | หัว |
มันฝรั่ง | 2 | ลูก |
นมสด | 1 | ช้อนโต๊ะ |
โยเกิร์ต (ถ้ามี) | 1 | กระป๋อง |
Dark Chocolate (ถ้ามี) | 1 | บาร์ |
วิธีทำข้าวแกงกะหรี่ไก่ไข่ข้น
- หั่นสะโพกไก่ แครอท มันฝรั่งให้เป็นชิ้นพอดีคำ สับกระเทียมและหอมหัวใหญ่ให้ละเอียด
- ตั้งหม้อใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงไปก่อนพอให้มีกลิ่นหอมโชยขึ้นมา แล้วตามด้วยหอมหัวใหญ่สับละเอียดที่เตรียมไว้
- นำสะโพกไก่ที่หั่นไว้ลงไปผัดกับกระเทียมและหอมหัวใหญ่สับพร้อมทั้งใส่ผงแกงกะหรี่สำเร็จรูปที่เตรียมไว้ 3-4 ก้อน ตามอัธยาศัย เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยและผัดด้วยไฟอ่อนจะผงแกงกะหรี่เริ่มละลาย
- ใส่มันฝรั่งและแครอทที่หั่นเตรียมไว้แล้วลงไป พร้อมทั้งเติมน้ำเปล่าให้ท่วมส่วนผสมทั้งหมดประมาณ 1 ฝ่ามือ และเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนงวดถือว่าใช้ได้ จากนั้นใส่โยเกิร์ต หรือ Dark ช็อคโกแลต (ถ้ามี) พร้อมทั้งปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว เกลือ หรือ น้ำตาลตามอัธยาศัย
- ตอกไข่ใส่นมสดที่เตรียมไว้พร้อมกับตีให้เข้ากัน ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อนๆ จนกระทะเริ่มร้อนให้ปิดไฟแล้วเทไข่ลงไปในกระทะ เอียงกระทะไปในทิศทางต่างๆเพื่อให้ไข่กระจายตัวให้เต็มระวังอย่าให้ไข่สุกจนเกินไป
- วิธีการจัดจานคือนำข้าวสวยที่เตรียมไว้แล้วมาใส่จานพร้อมทั้งวางไข่ข้นไว้ด้านบนสุด จากนั้นค่อยๆตักน้ำซุปแกงกะหรี่ไก่ใส่ลงข้างๆจานแล้วเสิร์ฟ
เคล็ดลับในการทำข้าวแกงกะหรี่ไก่ไข่ข้น
ในส่วนของซอสแกงกะหรี่สามารถเคี่ยวทิ้งไว้ได้ แต่ต้องตั้งไฟอ่อนๆและตรวจสอบเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้ส่วนผสมด้านล่างไหม้ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องทิ้งแกงทั้งหม้อเลยทีเดียว อีกหนึ่งข้อที่ควรระวังคือขั้นตอนการทำไข่ข้นอย่าใช้ไฟแรงจนเกินไปและใช้เวลาในการทำให้สั้นที่สุด เมื่อไข่ด้านล่างสุดที่สัมผัสกระทะเริ่มเซทตัวไม่แยกออกจากันแล้วให้เทไข่ข้นลงบนจานข้าวสวยทันที
#5
หอยแมลงภู่อบชีส
สำหรับท่านใดที่รู้สึกว่าไม่เต็มอิ่มกับการรับประทานเมนูนี้ในร้านอาหารเลย เพราะนอกจากราคาจะแรงแล้ว ปริมาณยังน้อยมากอีกต่างหาก วันนี้เราจึงนำสูตรเด็ด เคล็ดลับของการทำหอยแมลงภู่อบชีส มาฝากทุกท่าน เพื่อเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าเมนูที่แพงมาก ไม่ได้ทำยากอย่างที่คิด
ส่วนผสมของหอยแมลงภู่อบชีส
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ | 1 | ถุง |
Mozzarella ชีส | 1 | ถ้วยตวง |
เนยจืด | 1 | ถ้วยตวง |
กระเทียมสับ | 10 – 15 | หัว |
พาสเลย์สับ | 50 | กรัม |
เลมอนหั่นเป็นชิ้น | 20 | ชิ้น |
วิธีทำหอยแมลงภู่อบชีส
- นำเนยจืด กระเทียมสับ พาสเลย์สับ ผสมให้เข้ากัน
- ทาส่วนผสมลงบนตัวหอยแมลงภู่ที่ทำความสะอาดแล้วจนทั่ว
- นำหอยไปอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียสเป็นเวลาประมาณ 10 นาที หรือ นำไปเข้าไมโครเวฟด้วยความร้อนประมาณ 800 วัตต์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเช่นกัน หากท่านใดชื่นชอบความ vintage สามารถใช้กระทะไฟฟ้าปิดฝาอบก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
- โรยด้วย Mozzarella ชีส บนหอยจนเต็ม แล้วนำเข้าไปอบอีกครั้งจนชีสเริ่มขยายตัวขึ้นแล้วยกออกจากเตา
- ตกแต่งด้วยเลม่อนที่เตรียมไว้ หรือท่านใดมีฝีมือในการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ก็สามารถประยุกต์ให้เข้ากับอาหารจานนี้ได้ตามอัธยาศัย
เคล็ดลับในการทำหอยแมลงภู่อบชีส
อาหารจานนี้จะอร่อยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหลักสองอย่างก็คือหอยและชีส ซึ่งมีจุด cook ต่างกัน ส่งผลให้หลายๆตำราพยายามจะลัดขั้นตอนแล้วให้หอยสุกไว้ก่อน แต่ชีสกลับดูไม่น่าทานเอาเลยเป็นต้น ดังนั้นเราจึงแยกกระบวนการในการปรุงวัตถุดิบทั้งสองออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้หอยแมลงภู่สุกพอดียังคงเอกลักษณ์ในแง่ของรสชาติและความสดไว้อย่างเต็มเปี่ยม อีกส่วนหนึ่งชีสที่ได้ก็จะไม่สุกจนเกินไป มีความเหนียวนุ่มชุ่มปาก ควรค่าแก่การรับประทานนั่นเอง
#6
สเต็กไก่หนังกรอบน้ำจิ้มแจ่ว
อาหารเหนือก็ไป อาหารไทยก็แล้ว ถ้าไม่โฉบมาพูดถึงอาหารอีสานบ้างเดี๋ยวคนข้างบ้านจะน้อยใจ เมนูนี้เป็นการประยุกต์มาจาก ไก่ย่างหนังกรอบน้ำจิ้มแจ่ว แต่ถ้าทำง่ายๆโลกมักจะไม่จำเราจึงต้องขอนำสะโพกไก่มาหมักพร้อมกับนมและเครื่องเทศเสิร์ฟในรูปแบบสเต็กสไตล์อเมริกัน ที่สำคัญคือรับประกันความแซบด้วยน้ำจิ้มแจ่วสูตรอีสานแท้ๆเด้อ
ส่วนผสมของสเต็กไก่กรอบน้ำจิ้มแจ่ว
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
สะโพกไก่ | 2 | ชิ้น |
นมสด | 1 | ถ้วยตวง |
เกลือป่น | 1 | ช้อนชา |
พริกไทยดำโขลกหยาบๆ | 1 | ช้อนชา |
น้ำมันมะกอก | 2 | ช้อนโต๊ะ |
โรสแมรี่ป่น | 1 | ช้อนชา |
ข้าวคั่ว | 2 | ช้อนโต๊ะ |
พริกป่น | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะนาว | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำปลา | 2 | ช้อนโต๊ะ |
ผักชีฝรั่งซอย | 1 | ถ้วยตวง |
น้ำมะขามเปียก | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำเชื่อม | 1 | ช้อนชา |
วิธีการทำสเต็กไก่หนังกรอบน้ำจิ้มแจ่ว
- นำนมสด เกลือป่น พริกไทยโขลก น้ำมันมะกอก โรสแมรี่ปั่น หมักพร้อมกับสะโพกไก่ที่เตรียมไว้แล้ว จากนั้นใช้ส้อมหรือไม้แหลมทิ่มให้ทั่วสะโพกไก่เพื่อให้เครื่องปรุงต่างๆซึมเข้าสู่เนื้อไก่ได้เร็วขึ้น หมักทิ้งไว้ 10-15 นาที
- นำเนื้อไก่ที่หมักแล้วเข้าไปอบในหม้ออบลมร้อนด้วยไฟแรง 200 วัตต์ ประมาณ 30-45 นาที โดยนำด้านที่มีหนังไก่ไว้ด้านบน สังเกตจนหนังไก่กรอบถือว่าใช้ได้แล้ว ถ้าหากท่านใดที่ไม่มีหม้ออบลมร้อนสามารถย่างไก่กับกระทะเทฟล่อนได้ด้วยไฟอ่อน นำด้านที่ไม่มีหนังไก่ลงไปย่างก่อน เสร็จแล้วพลิกกลับเอาด้านที่มีหนังลงไปย่างด้วยไฟอ่อนที่จนหนังกรอบได้ที่แล้วนำมาใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
- ในระหว่างที่รอเนื้อไก่สุก เราสามารถทำน้ำจิ้มแจ่วไว้ได้เลย ด้วยการใส่ส่วนผสมที่เหลือ คือ พริกป่น น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำเชื่อมน้ำและน้ำมะขามเปียกลงไปพร้อมกัน จากนั้นค่อยเติมข้าวคั่วและผักชีฝรั่งในตอนท้ายเป็นอันเสร็จพิธี
- นำสเต็กไก่จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟร่วมกับน้ำจิ้มแจ่ว ตกแต่งจานด้วยผักสลัดตามอัธยาศัย
เคล็ดลับการทำสเต็กไก่หนังกรอบน้ำจิ้มแจ่ว
เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ก็คือการย่างหนังไก่ให้กรอบโดยที่เนื้อไก่ยังมีความนุ่มชุ่มชื้นอยู่ ซึ่งต้องใช้ไฟอ่อนและใช้ระยะเวลาพอสมควรนั่นเอง
#7
ข้าวผัดต้มยำทะเล
เมนูนี้เป็นเมนูที่พื้นๆ แต่จะให้อร่อยนั้นมีความยากระดับ 10 กะโหลกเลยทีเดียว เพราะรสชาติที่ถูกต้องของข้าวผัดต้มยำคือ ข้าวไม่แข็ง เครื่องแกงดี มีครบรส รับประกันความสดจากทะเล ด้วยสโลแกนนี้จะทำให้ดีต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายเลยทีเดียว
ส่วนผสมของข้าวผัดต้มยำทะเล
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
กุ้งขาวแกะเปลือก | 5 | ตัว |
ข้าวสวย | 1 | ถ้วย |
ปลาหมึกสดหั่นเป็นชิ้น | 1 | ตัว |
พริกเผาต้มยำสำเร็จรูป | 2 | ช้อนโต๊ะ |
ไข่ไก่ | 1 | ฟอง |
ซีอิ้วขาว | 1 | ช้อนชา |
น้ำปลา | 1 | ช้อนชา |
กระเทียมสับ | 5 | หัว |
ใบมะกรูด | 10 | ใบ |
ตะไคร้สับ | 1 | ต้น |
มะเขือเทศสับ | 1 | ลูก |
พริกขี้หนูสด | 5 | เม็ด |
ต้นหอมซอย | 1 | ถ้วยตวง |
วิธีการทำข้าวผัดต้มยำทะเล
- ตั้งไฟกลางใส่ กระเทียมสับ ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูสดลงไปผัดจนกลิ่นหอม จากนั้นจึงใส่กุ้งขาว และปลาหมึกสด พร้อมทั้งน้ำพริกเผาต้มยำลงไปผัดตามลำดับ เมื่อผัดให้เข้ากันสักพักแล้วตัก กุ้งขาว และปลาหมึกแยกออกมาพักไว้ต่างหาก
- แบ่งกระทะเป็นสองส่วนใส่น้ำมันเพิ่มไปเล็กน้อยเร่งไฟให้แรง ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปแล้วตีไข่ให้ขึ้นฟูได้ที่
- นำข้าวที่แช่ไว้มาผัดรวมกับส่วนผสมทั้งหมดในกระทะด้วยไฟแรงที่สุด ตามด้วยมะเขือเทศสด และต้นหอมซอย จนเข้ากันดี
- จัดแต่งจานให้สวยงามด้วยกุ้งและปลาหมึกที่แยกออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
เคล็ดลับในการทำข้าวผัดต้มยำทะเล
เคล็ดลับในการผัดข้าวให้อร่อยคือ ใช้ไฟแรง ใช้น้ำมันน้อย และใส่ไข่ลงไปผัดกับข้าวด้วย เพราะไข่สามารถดูดซับน้ำมันหรือของเหลวส่วนเกินที่มากับการผัดได้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้ข้าวแฉะหรือแข็งกระด้างจนเกินไป นอกจากนั้นยังทำให้ข้าวผัดของท่านมีสีเหลืองนวล ชวนรับประทานอีกด้วย
#8
กะเพราหมูสับ
เมนูตามสั่งยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทย ซึ่งหากใครเดินไปร้านอาหารใกล้บ้านถ้านึกอะไรไม่ออกก็ให้บอกกะเพรารับรองว่าไม่มีวันอดอย่างแน่นอน ถึงแม้เมนูนี้อาจจะเป็นเมนูเบสิกแต่ในเรื่องของเทคนิคนั้นเพียบเลยก็ว่าได้
ส่วนผสมของกระเพรากรอบหมูสับ
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
สะโพกหมูบด | 300 | กรัม |
กระเทียมสับละเอียด | 1 | ถ้วยตวง |
พริกสดสับละเอียด | 5 – 10 | เม็ด |
ใบกะเพรา | 1 | ถ้วยตวง |
พริกไทย | 1 | ช้อนชา |
ซอสหอยนางรม | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้าปลา | 1 | ช้อนชา |
น้ำตาล | 1 | ช้อนชา |
ซีอิ้วขาว | 1 | ช้อนชา |
วิธีทำกะเพรากรอบหมูสับ
- เทน้ำมันลงไปในกระทะและตั้งไฟให้แรง พอน้ำมันร้อนให้ใส่ใบกะเพราะลงไป พอใบกะเพราขยายตัวออกแล้วให้นำมาพักไว้ด้านนอกก่อน
- เทน้ำมันในกระทะจากที่ทอดใบกะเพราออกมาให้คงเหลือติดกระทะไว้เล็กน้อย จากนั้นนำพริกสดและกระเทียมสับลงไปผัดต่อจนกลิ่นเริ่มฉุนเตะจมูก
- ใส่สะโพกหมูบดลงไปผัดร่วมกันทันทีพร้อมกับใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ผัดได้ง่ายขึ้น
- ผัดจนกว่าหมูสับจะสุก ในระหว่างนี้สามารถเติมน้ำเปล่าได้ตามความเหมาะสม จากนั้นก็ใส่น้ำมันหอย และซีอิ้วขาว และน้ำตาลที่เตรียมไว้ลงไปเล็กน้อย
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วใส่ใบกะเพราที่เหลืองลงไปพร้อมกับพริกไทยป่น แล้วปิดไฟทันที
- จัดแต่งจานให้สวยงามโดยการ on top ด้วยกะเพรากรอบที่ทอดไว้แล้ว
เคล็ดลับในการทำกะเพราะกรอบหมูสับ
เคล็ดลับของการทำผัดกะเพรานั้นเริ่มต้นจากการเลือกส่วนของเนื้อหมูกันเลยทีเดียว เนื้อหมูที่เหมาะสมควรจะมีส่วนของไขมันแซมอยู่ในเนื้อบ้างไม่มากไม่น้อยจนเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อหมูอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง ผัดง่าย นอกจากนั้นชนิดของใบกะเพราก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อกลิ่นและรสชาติของอาหาร เพราะใบกะเพราแดงจะมีกลิ่นแรงกว่าใบกะเพราขาวนั่นเอง สุดท้ายเคล็ดลับสำคัญที่หลายคนมักจะหลงลืมก็คือขั้นตอนสุดท้ายองการใส่ใบกะเพราไม่ควรผัดต่อไปอีก เพราะจะทำให้กลิ่นของใบกะเพราลดลงไปตามอุณหภูมิการผัดนั่นเอง
#9
ปลากหมึกผัดไข่เค็ม
“หากทานกะเพราแล้วเหงาเปลี่ยนมาเป็นเราก็ได้นะ” อีกหนึ่งเมนูที่อร่อยแต่กลับหาทานได้ยากเมนูหนึ่ง ด้วยความหวานของเนื้อปลาหมึก ผสมกับความนัวของไข่แดง ชูรสชาติด้วยพริกเผา มีกลิ่นเบาๆของคื่นช่าย เมื่อได้ทานกับข้าวสวยร้อนๆแล้ว จะเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลยทีเดียว
ส่วนผสมของปลาหมึกผัดไข่เค็ม
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
ปลากหมึกสดหั่นพอดีคำ | 300 – 500 | กรัม |
ไข่เค็มหั่นละเอียด | 1 | ฟอง |
กระเทียมสับ | 100 | กรัม |
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นชิ้น | 1 | หัว |
คื่นช่ายสับ | 1 | ถ้วยตวง |
น้ำพริกเผา | 2 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันหอย | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำปลา | 1 | ช้อนชา |
วิธีทำปลาหมึกผัดไข่เค็ม
- ใส่น้ำมันลงไปในกระทะเล็กน้อยตั้งไฟที่ระดับกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อนนำกระเทียมสับและหอมหัวใหญ่ลงไปผัดตามลำดับ ผัดไปเรื่อยๆจนได้กลิ่นหอมของกระเทียมชัดเจน
- หลังจากนั้นใส่ปลาหมึกหั่นชิ้นที่เตรียมไว้ลงไป คลุกให้เข้ากันจนนเนื้อปลาหมึกเริ่มขยายตัวและเป็นสีขาวชัดเจน
- ใส่ไข่เค็มสับ น้ำพริกเผา และน้ำมันหอยที่เตรียมไว้ลงไป เติมน้ำเปล่าลงไปสักเล็กน้อยแล้วผัดด้วยไฟแรงจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันจนน้ำในกระทะค่อนข้างขลุกขลิก จากนั้นให้ปิดไฟแล้วเตรียมจัดจาน
- โรยหน้าด้วยผักชีและพริกไทยป่นที่เตรียมไว้ จัดแต่งจานให้สวยงามพร้อมรับประทาน
เคล็ดลับในกาทำปลาหมึกผัดไข่เค็ม
เคล็ดลับของเมนูนี้อยู่ที่การใช้เทคนิคในการผัด ถ้าหากใช้ไฟอ่อนจนเกินไปความนุ่ม ชุ่มชื้นของปลาหมึกจะลดลง ปลาหมึกจะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแห้งไม่มีรสชาติของความสดเหลืออยู่เลย ดังนั้นการผัดควรใช้ไฟที่อยู่ในระดับกลางไปจนถึงแรง ระยะเวลาในการผัดไม่ควรเกิน 2-3 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้วัตถุดิบต่างๆสุกมากจนเกินไปนั่นเอง
#10
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
ปิดท้ายกันด้วยเมนูไทยๆที่ใครๆก็ชอบอย่างก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นั่นเอง ความโดดเด่นของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่คือการเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดที่ไม่เน้นการปรุงรส แต่เน้นที่เทคนิคการผัด ดังนั้นรสชาติของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่จึงเป็นรสชาติกลางๆไม่โดดไปทางใดทางหนึ่ง แต่ความคุกรุ่นของกลิ่นกระทะเหล็กที่ถูกเผาไฟให้แดงฉานยังคงส่งกลิ่นย้ายวนชวนให้น้ำลายไหลตั้งแต่ยังไม่ได้สัมผัสเลยทีเดียว
ส่วนผสมของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
สวนผสม | ปริมาณ | หน่วย |
เส้นใหญ่สูตรเหนียวนุ่ม | 100 | กรัม |
ปลาหมึกกรอบหั่นเป็นชิ้น | 5-10 | ชิ้น |
สะโพกไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ | 5-10 | ชิ้น |
ไข่ไก่ | 1 | ฟอง |
ไชโป๊ | 1 | ถ้วยตวง |
ซีอิ้วขาว | 1 | ช้อนชา |
น้ำตาลทราย | 2 | ช้อนชา |
ผงปรุงรส รสไก่ | 1 | ช้อนชา |
พลิกไทยป่น | 1 | ช้อนชา |
ซอสพริก | 1 | ถ้วยตวง |
วิธีทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
- นำเส้นใหญ่มาแยกให้ออกจากกัน จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากับ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และผงปรุงรสที่เตรียมไว้
- ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน นำเนื้อไก่ ปลาหมึกกรอบ และไชโป๊ ลงไปผัด ให้สุก แล้วเอามาพักไว้
- ใส่น้ำมันลงไปพอประมาณพร้อมทั้งเร่งไฟให้แรง พอน้ำมันร้อนได้ที่แล้วให้ตอกไข่ไก่ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปโดยที่ยังไม่ต้องตีไข่
- นำเส้นที่หมักไว้ใส่ลงไปในไข่พร้อมกับส่วนผสมที่พักไว้ในตอนแรก
- ผัดส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันโดยใช้ไฟแรง พร้อมทั้งผัดด้วยความเร็วพยายามอย่าให้วัตถุดิบไหม้หรือติดกระทะ
- ผัดส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เมื่อแห้งจนได้ที่แล้วจึงโรยด้วยพริกไทยที่เตรียมไว้
- จัดจานด้วยผักสลัดเขียว เสิร์ฟพร้อมซอสพริกที่เตรียมไว้แล้วจัดวางให้สวยงาม
เคล็ดลับในการทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
เสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อยู่ที่กลิ่นของกระทะ เพราะในการผัดต้องใช้ไฟแรงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงระยะเวลาในการผัดนั้นก็สั้นมากเช่นกัน เทคนิคในการผัดก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ให้อร่อยก็คือการพลิกเส้นและวัตถุดิบด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้เส้นมีโอกาสสัมผัสกับอากาศมากขึ้น นำมาซึ่งกลิ่นควันหอมหรือกลิ่นกระทะที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง นอกจากนั้นยังเป็นการลดโอกาสที่อาหารจะได้รับความเสียหายจากการใช้ไฟแรงจนเกินไปอีกด้วย หากท่านใดที่มีเทคนิคการใช้กระทะเหล็กมาก่อนก็ถือว่ามีความได้เปรียบและสามารถผัดก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ได้ไม่ยากนัก แต่หากท่านใดยังไม่มีความชำนาญในการใช้กระทะเหล็ก หรือสถานที่อาจจะไม่เอื้ออำนวย การพลิกเส้นด้วยเทคนิคการใช้ตะหลิวคู่ก็สามารถทดแทนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นกัน
สุดท้ายนี้หวังว่าทุกท่านคงจะได้ประโยชน์จาก 10 อาหารง่ายๆทำได้ที่บ้าน ไม่มากก็น้อย จริงๆแล้วการทำอาหารก็เหมือนกับงานฝีมืออื่นๆที่ต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝน ดังนั้นการทำอาหารจึงไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดให้ดีเท่านั้นเอง