ADVERTISEMENT
- ทำไมต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- วิธีเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป
- #1HYGIENE – Expert Care Life Nature
- #2FINELINE – Elegant Series
- #3HI CLASS – Natural Essential Oil
- #4FRESH & SOFT – Amorous
- #5DOWNY – Parfume Collection
- #6COMFORT – Ultra 3D Treatment
- #7ESSENCE – Softener Jean
- #8BABI MILD – Baby Fabric
- #9D-NEE – Baby Fabric Softener
- #10PIPPER – Fabric Softener
เครื่องนุ่งห่มเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อคนเรา นี่จึงเป็นข้ออ้างอย่างหนึ่งที่เราชอบใช้เวลาจะซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ ประมาณว่าของมันต้องมีเพราะมันเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่นี่นา พูดอีกก็ถูกอีกนะคะ ถ้ามีเสื้อผ้าเต็มตู้แล้วได้ใส่ทุกตัวก็ถือว่าคุ้ม หรือไม่ได้ใส่ก็บริจาคได้ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถถนอมเสื้อผ้าให้เหมือนใหม่อยู่ได้นาน เพราะเสื้อหรือกางเกงหนึ่งตัวนั้นสามารถนำไปแมตช์เป็นชุดได้หลายชุด และหากต้องการนำไปบริจาคก็จะทำให้ผู้รับได้ประโยชน์สูงสุดด้วย
หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นการถนอมผ้าได้อีกทางนึ่ง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของน้ำยาปรับผ้านุ่มให้มากขึ้นอีกนิด แล้วจะรู้ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นมีดีมากกว่าความนุ่มและความหอมค่ะ
ทำไมต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ยุคนี้ขั้นตอนการซักรีดมีทางเลือกที่สะดวกสบายมากมาย จากเดิมที่เคยซักผ้าด้วยมือ ตอนนี้ก็มีเครื่องซักผ้า มีผลิตภัณฑ์ซักรีดออกมาหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการซักรีดไปแล้ว ว่าแต่จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่จริงแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นเป็นตัวช่วยในหลาย ๆ ด้านมากกว่าที่คิดนะคะ
ช่วยให้ผ้านุ่ม
พูดถึงตรงนี้ก็เหมือนตอบแบบกำปั้นทุบดิน เมื่อขึ้นชื่อว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ต้องทำให้ผ้านุ่มสิ แล้วการที่ผ้านุ่มนั้นดียังไง จำเป็นด้วยเหรอ ซักแล้วใส่ก็จบไหม จะบอกว่าสำหรับบางคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องความนุ่มก็ไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวก่อน! การที่ผ้าแข็งแล้วเสียดสีกับผิวหนังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ง่าย ยิ่งถ้าเหงื่อออกอับชื้น บางคนอาจถึงขั้นเป็นผดผื่นได้เลย ดังนั้นน้ำยาปรับผ้านุ่มจะช่วยลดโอกาสการระคายเคืองผิวจากการเสียดสีของเสื้อผ้าได้ค่ะ
ลดกลิ่นอับ
กลิ่นอับอาจเกิดขึ้นได้ตอนตากผ้า เช่น ตากผ้าในที่ร่ม หรือตากผ้าตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ฝนตกอากาศชื้นจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้กลิ่นอับได้เข้ามาแทรกซึมสู่เนื้อผ้า กลิ่นนั้นจะยังติดอยู่จนกระทั่งผ้าแห้งและเรานำมาใส่ ทีนี้แหละเดินไปที่ไหนก็เอากลิ่นอับชื้นไปด้วย แน่นอนว่าทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างไม่พึงใจแน่ ๆ และยิ่งถ้าเราสวมใส่เสื้อผ้าตัวนั้นในวันสำคัญ เช่น ไปออกเดตหรือสัมภาษณ์งาน อาจทำให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไปได้เลยค่ะ
ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
เราอาจจะซักเสื้อผ้าสะอาดดีมีกลิ่นสดชื่น แต่เมื่อสวมใส่ระหว่างวันเกิดเหงื่อ หรือไปกินหมูกระทะกับเพื่อนทำให้กลิ่นติดเสื้อผ้า อย่างนี้คือกลิ่นที่เกิดระหว่างวันซึ่งไม่มีใครต้องการ แต่น้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถลดปัญหานี้ได้ค่ะ
ช่วยให้เสื้อผ้าหอม
เดี๋ยวนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มใช้กลิ่นหอมแบบเดียวกับน้ำหอมหรู ๆ เลย ใครที่ต้องการความหรูหราฟุ้งกระจาย แต่ไม่อยากเสียเงินซื้อน้ำหอมแบรนด์แพง ๆ ก็ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มแทนไปเลย ราคาถูกกว่า แต่ได้กลิ่นหรูหราพอ ๆ กันค่ะ
ช่วยให้ขั้นตอนการซักรีดสะดวกขึ้น
การซักผ้าไม่ว่าจะซักด้วยเครื่องซักผ้าหรือซักมือก็ตาม หากลดเวลาของบางขั้นตอนได้จะทำให้ประหยัดเวลาไปได้มาก การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มนอกจากจะช่วยให้ผ้าแห้งไวแล้ว ยังทำให้ผ้าเรียบลื่น รีดง่ายขึ้น ไม่ต้องถูเตารีดหลายครั้งจนแขนเคล็ด ช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลง จะได้มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจคลายเครียดเพิ่มขึ้นค่ะ
ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตบนผ้า
เวลาเกิดไฟฟ้าสถิตบนเสื้อผ้าจะทำให้ผ้าลีบติดผิวไม่พลิ้วสวย อีกทั้งบางทียังทำให้เกิดเสียงเปาะแปะกวนใจ ยิ่งไปกว่านั้นยังไปดึงดูดให้ฝุ่นหรือละอองต่าง ๆ เข้ามาติดผ้าจนทำให้เราต้องสูดเอาเชื้อโรคเข้าไป บางคนที่แพ้เกสรดอกไม้พอสูดละอองเกสรก็เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบอีกด้วย
ช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า
น้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นช่วยให้ใยผ้าไม่พันกันจึงลดโอกาสเกิดการเสียดสีจนทำให้ผ้าเป็นขุย อีกทั้งยังช่วยถนอมสีผ้าจากการโดนแสงแดด หรือสามารถเลือกตากผ้าในร่มได้ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดกลิ่นอับ จึงเป็นการถนอมผ้าให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ
วิธีเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม
เนื่องจากปัจจัยของแต่ละคนไม่เหมือนกันจึงอาจมีวัตถุประสงค์ในการเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มที่แตกต่างกันออกไป มาลองดูกันซิว่าเราเหมาะกับน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบไหนบ้าง
เลือกให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
หากอยู่คอนโดซึ่งหาสถานที่ตากผ้ากลางแจ้งได้ยาก ไม่อยากกังวลเรื่องการตากผ้าในร่ม หรือมีไลฟ์สไตล์ค่อนข้างเร่งรีบ มีเวลาไม่มาก ก็อาจเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ลดกลิ่นอับชื้นได้ดีเป็นพิเศษ แต่หากสามารถตากผ้ากลางแจ้งได้ อาจเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยปกป้องผ้าจากการทำร้ายของแสงแดด เพื่อถนอมให้ผ้าสีสดได้นานค่ะ
เลือกกลิ่นที่ชอบ
บางคนไม่มีปัญหาเรื่องการตากผ้า ก็สามารถเลือกกลิ่นที่ชอบหรือกลิ่นอ่อน ๆ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องการความหอมฟุ้งจากน้ำยาปรับผ้านุ่มเสมอไป เนื่องจากอาจจะมีน้ำหอมที่ชอบฉีดเป็นประจำอยู่แล้วและไม่อยากให้กลิ่นตีกัน จึงต้องพิจารณากลิ่นให้เหมาะสมกับความต้องการของเราด้วยค่ะ
เลือกให้เข้ากับบุคคลที่ใช้
ถ้าเราอาศัยอยู่คนเดียวก็สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ แต่หากอยู่รวมกันเป็นครอบครัวก็คงต้องร่วมกันพิจารณา บางครอบครัวมีเด็กหรือมีคนเป็นภูมิแพ้จึงต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดอ่อนโยนและสามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว หรือบางคนชอบเล่นกีฬามีเหงื่อออกมากเป็นประจำก็ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยลดกลิ่นเหงื่อค่ะ
วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป
ตวงตามสัดส่วน
ต้องอ่านฉลากข้างขวดให้ละเอียด เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มแต่ะยี่ห้อจะใช้ในปริมาณไม่เท่ากัน บางยี่ห้อเป็นสูตรเข้มข้นก็ไม่ต้องใส่เยอะ โดยปกติจะใช้ฝาตวงของยี่ห้อนั้น ๆ อยู่แล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
อย่าเทลงบนผ้าโดยตรง
เมื่อตวงแล้วให้ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำก่อนจะเทลงบนผ้า หรือหากเป็นเครื่องซักผ้าก็มักจะมีช่องสำหรับใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มให้อยู่แล้ว ไม่ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนผ้าโดยตรงเพราะความเข้มข้นเกินไปอาจไปทำลายเนื้อผ้าได้ค่ะ
หลีกเลี่ยงการตากผ้ากลางแดดจ้าบ่อย ๆ
แม้จะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อถนอมสีผ้าแล้วก็ตาม ก็ควรหลีกเลี่ยงการตากผ้ากลางแดดจัดบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าเสียเร็วขึ้น ผ้ายืดอาจย้วยก่อนเวลาอันควร ถ้าเป็นไปได้ให้ตากผ้ากลางแดดอ่อน ๆ หรือตากในร่มจะดีกว่า ยกเว้นผ้าที่นาน ๆ จะซักครั้งหนึ่งอย่างผ้าห่ม ก็สามารถนำไปผึ่งแดดจัดได้ค่ะ
#1
HYGIENE – Expert Care Life Nature
HYGIENE – Expert Care Life Nature
55 บาท+
รายละเอียด | HYGIENE – Expert Care Life Nature |
ราคา | 55 บาท+ |
ขนาด | 540 ml. |
จุดเด่น | กลิ่นหอม |
ไฮยีน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าที่เรารู้จักกันมานาน สำหรับน้ำยาปรับผ้านุ่มของไฮยีนยังคงความเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ม ด้วยส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากพืชที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 75% มั่นใจว่าปลอดภัยและถนอมผ้าค่ะ
ข้อดี
#2
FINELINE – Elegant Series
FINELINE – Elegant Series
49 บาท+
รายละเอียด | FINELINE – Elegant Series |
ราคา | 49 บาท+ |
ขนาด | 500 ml. |
จุดเด่น | กลิ่นหอม |
สูตรเข้มข้นพิเศษมีให้เลือกหลายกลิ่น อ่อนโยนแม้ซักด้วยมือ ให้ความหอมติดทน ถนอมผ้าให้สีสวยสด ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ลดกลิ่นอับชื้นได้ดี มั่นใจสวมใส่ไปที่ไหนก็มีแต่ความหอมแน่นอนค่ะ
ข้อดี
#3
HI CLASS – Natural Essential Oil
HI CLASS – Natural Essential Oil
49 บาท+
รายละเอียด | HI CLASS – Natural Essential Oil |
ราคา | 49 บาท+ |
ขนาด | 550 ml. |
จุดเด่น | กลิ่นหอม |
เพิ่มความหอมจากกลิ่นธรรมชาติ และยังคงความนุ่มพลิ้วสวยให้เสื้อผ้า ไม่ทำให้ผ้าลีบติดตัว ช่วยให้ผ้านุ่มฟู ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัย ให้ความรู้สึกอ่อนโยน แต่หรูหรามีระดับ เหมือนมาเดินพรมแดงยังไงยังงั้น ดีแค่ไหนต้องลองพิสูจน์เองนะคะ
ข้อดี
#4
FRESH & SOFT – Amorous
FRESH & SOFT – Amorous
59 บาท+
รายละเอียด | FRESH & SOFT – Amorous |
ราคา | 59 บาท+ |
ขนาด | 500 ml. |
จุดเด่น | กลิ่นหอม |
ให้ความหอมจากดอกไม้ กลิ่นดีมีระดับ และยังหอมติดทนด้วยเทคโนโลยีแคปซูลน้ำหอมที่ค่อย ๆ ปล่อยความหอมออกมาตลอดทั้งวัน จึงให้หอมยาวนาน มั่นใจไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ยังสดชื่น กินสุกี้หรือหมูกระทะก็ไม่ติดเสื้อผ้าแน่นอน ท้าพิสูจน์ให้ลองเลยค่ะ
ข้อดี
#5
DOWNY – Parfume Collection
DOWNY – Parfume Collection
119 บาท+
รายละเอียด | DOWNY – Parfume Collection |
ราคา | 119 บาท+ |
ขนาด | 1350 ml. |
จุดเด่น | กลิ่นหอม |
สูตรความหอมจากหัวน้ำหอมเกรดพรีเมี่ยม เหมือนใช้น้ำหอมแบรนด์หรู พิสูจน์แล้วหลายเสียงบอกต่อถึงความหอมที่ฟุ้งกระจายได้ไกล แม้ตากแดดกลิ่นก็ไม่ลดเลือน ยังคงหอมต่อเนื่องยาวนาน 7 วัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือผ้านวมผืนใหญ่ก็เอาอยู่ทั้งเรื่องความนุ่มและกลิ่นหอมเวอร์ ๆ ค่ะ
ข้อดี
#6
COMFORT – Ultra 3D Treatment
COMFORT – Ultra 3D Treatment
45 บาท+
รายละเอียด | COMFORT – Ultra 3D Treatment |
ราคา | 45 บาท+ |
ขนาด | 600 ml. |
จุดเด่น | ลดความกระด้างของผ้าได้ 2 เท่า |
สูตรเข้มข้นที่ให้ความหอมยาวนานและความนุ่มอย่างแท้จริง ปกป้องเสื้อผ้าจากกลิ่นต่าง ๆ ได้ 24 ชั่วโมง ช่วยถนอมใยผ้าและสีผ้าให้สวยเหมือนใหม่ ลดการเสียดสีของเนื้อผ้า ทำให้ผ้านุ่มลื่นใส่สบาย ป้องกันกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ข้อดี
ย้อหน้าแรก
#7
ESSENCE – Softener Jean
ESSENCE – Softener Jean
49 บาท+
รายละเอียด | ESSENCE – Softener Jean |
ราคา | 49 บาท+ |
ขนาด | 600 ml. |
จุดเด่น | ใช้กับผ้ายีนส์ได้ดี |
ผ้ายีนส์เป็นผ้าที่เกิดความกระด้างได้ง่าย การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรพิเศษจะช่วยให้เข้าถึงปัญหาได้ดีกว่า เอสเซนส์สูตรนี้จึงเหมาะสำหรับผ้ายีนส์และผ้าหนาทุกชนิด ช่วยให้ผ้านุ่มขึ้น หอมสะอาดสดชื่นทั้งวัน หมดกังวลเรื่องกลิ่นอับ และยังถนอมผ้าจากแสงแดดด้วยค่ะ
ข้อดี
#8
BABI MILD – Baby Fabric
BABI MILD – Baby Fabric
69 บาท+
รายละเอียด | BABI MILD – Baby Fabric |
ราคา | 69 บาท+ |
ขนาด | 1500 ml. |
จุดเด่น | ใช้กับเสื้อผ้าเด็กได้ |
สำหรับเสื้อผ้าของลูกน้อยก็ควรได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี เบบี้มายด์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว ได้ตอบโจทย์ผู้ที่ให้ความสำคัญต่อความอ่อนโยนในผลิตภัณฑ์ แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยม สัมผัสกลิ่นหอมอ่อนโยนได้ในน้ำยาปรับผ้านุ่มเบบี้มายด์นะคะ
ข้อดี
#9
D-NEE – Baby Fabric Softener
D-NEE – Baby Fabric Softener
19 บาท+
รายละเอียด | D-NEE – Baby Fabric Softener |
ราคา | 19 บาท+ |
ขนาด | 600 ml. |
จุดเด่น | ใช้กับเสื้อผ้าเด็กได้ |
ด้วยสูตรอ่อนโยนจึงมั่นใจว่าใช้ได้โดยปราศจากการระคายเคือง เพราะได้รับการทดสอบทางการแพทย์แล้ว ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติช่วยลดกลิ่นอับชื้น ตากที่ไหนก็ไม่ต้องกังวล คงไว้ซึ่งกลิ่นสะอาดสดชื่น นุ่มสบายเวลาสวมใส่ เป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษค่ะ
ข้อดี
#10
PIPPER – Fabric Softener
PIPPER – Fabric Softener
179 บาท+
รายละเอียด | PIPPER – Fabric Softener |
ราคา | 179 บาท+ |
ขนาด | 750 ml. |
จุดเด่น | ใช้กับเสื้อผ้าเด็กได้ |
สายรักษ์โลกต้องมาทางนี้ เพรานี่คือน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรออร์แกนิกที่ผลิตจากเอนไซม์สับปะรดและเลซิตินจากถั่วเหลือง กลิ่นหอมได้จากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ปราศจากสีสังเคราะห์และพาราเบน ปลอดภัยไม่ระคายเคือง แต่ให้ความนุ่มแก่เสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
ข้อดี
ไม่ว่าเทรนด์แฟชั่นจะเปลี่ยนไปแค่ไหนสิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งกายก็คือเครื่องแต่งกายที่สะอาดเรียบร้อย คงไม่ดีแน่หากเราสวมเสื้อผ้านำกระแสแต่มีกลิ่นเหม็นอับไม่น่าเข้าใกล้ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องใส่ใจกับความสะอาดและความประณีตในการซักรีดให้มาก ๆ เพื่อให้เสื้อผ้าของเราเป็นชุดสวยและดูเหมือนใหม่ไปได้นาน ๆ ลองใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับขั้นตอนการซักรีดดูสิคะ
dragonflydays
Cr.