ADVERTISEMENT
ในช่วงเวลาปัจจุบันการรับส่งข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ ถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่การทำงานของบริษัทต่าง ๆ ที่จะต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลเป็นจำนวนมากในระหว่างวันอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยแม้แต่น้อย ที่เราจะพบเจอเทคโนโลยีส่วนต่าง ๆ มากมาย ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถอำนวยความสะดวกสบายในส่วนนี้ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งในรูปแบบของการเชื่อมต่อเพื่อรับ-ส่งข้อมูลแบบออนไลน์และออฟไลน์ จากสถานที่ใกล้เคียงภายในอาคารเดียวกัน หรือแม้แต่สถานที่ที่ไกลออกไปคนละฝั่งของทวีปโลก และถึงแม้ว่าการจัดการข้อมูลผ่านทางระบบออนไลน์สาธารณะ จะเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ แต่สำหรับการใช้งานของบริษัทหรืออาคารสำนักงานหลายที่นั้น การเลือกใช้งานการรับหรือส่งข้อมูลในรูปแบบที่มีความเป็นส่วนตัว จะเป็นลักษณะที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากกว่า เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลในเชิงเลิกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า แม้ในสถานการณ์ที่จะต้องเดินทางออกไปทำงานยังนอกสถานที่ และหากกล่าวถึงหนึ่งในสิ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในลักษณะนี้โดยเฉพาะ หลายคนก็คงจะต้องนึกถึง VPN ได้เป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน
VPN คืออะไร
VPN หรือ Virtual Private Network คือ เครือข่ายออนไลน์แบบส่วนตัวที่ถูกออกแบบมาให้ผู้คนที่ได้รับอนุญาต สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในระบบได้ผ่านการใช้งานรหัสผ่าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนตัวขององค์กร หรือข้อมูลส่วนตัวของบุคคลได้จากทุกสถานที่ โดยจะมีความคล้ายคลึงกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตออนไลน์ที่เราใช้งานกันอยู่ในช่วงเวลานี้ แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่ในเรื่องของลักษณะการเข้าถึงที่จะมีความซับซ้อนมากกว่า และความเฉพาะทางในการใช้งานที่จะอยู่ในระดับสูงมากกว่า ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างมากภายในองค์กรหรือบริษัท ที่จะต้องมีการควบคุมข้อมูลจำนวนมากให้ปลอดภัยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในรูปแบบของลูกค้า, ข้อมูลส่วนตัวพนักงาน, ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมต่าง ๆ หรือแม้แต่ข้อมูลส่วนสำคัญในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งหากเปรียบเทียบลักษณะการใช้งานของเครือข่ายในลักษณะนี้ ก็จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อข้อมูลภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่งในลักษณะของการใช้งานสาย LAN แบบดั้งเดิม แต่จะมีการเปลี่ย่นรูปแบบการส่งผ่านข้อมูล ไปใช้งานเป็นลักษณะของรูปแบบออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ให้ได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
#1
ExpressVPN
รายละเอียด | ExpressVPN |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 94 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 3,000 เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS, Nintendo Switch และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | 30 วัน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 5 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 250 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
ExpressVPN จัดเป็นหนึ่งใน VPN ที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด และมีผู้คนเลือกใช้งานกันอยู่เป็นจำนวนมากในช่วงเวลานี้ จากจำนวนเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 3,000 เซิร์ฟเวอร์ ที่ใช้งานได้อย่างครอบคลุมมากกว่า 94 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อรับ-ส่งข้อมูลในประเทศแลนอกประเทศไทย ส่วนในด้านของการให้บริการนั้น ทางแพลตฟอร์มจะมีการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย และยังมีบริการแก้ไขปัญหาในระหว่างการใช้งาน ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากอีกด้วย
ข้อดี
#2
CyberGhost
รายละเอียด | CyberGhost |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 91 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 7,500 เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | 45 วัน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 7 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 70 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Spotify และอื่น ๆ |
ผู้ให้บริการรายนี้จัดเป็นอีกหนึ่ง VPN ระดับโลก ที่รองรับการใช้งานได้อย่างมีคุณภาพในทุกพื้นที่ ด้วยจำนวนของเซิร์ฟเวอร์ที่ให้มาเป็นจำนวนมากในกลุ่มประเทศทั้งหมด 91 ประเทศทั่วทั้งโลก โดยที่ในด้านของการใช้งานนั้นจะสามารถตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งในณูปแบบของการท่องเว็บไซต์, การสตรีมมิ่ง และการทำงานบนเครือข่ายรูปแบบอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังรองรีบการปรับแต่งบนบล็อกได้อย่างหลากหลายและยืดหยุ่น ผ่านการใช้งานบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ ที่มีอยู่ในช่วงเวลานี้ด้วยเช่นกัน
ข้อดี
#3
Ivacy VPN
รายละเอียด | Ivacy VPN |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 53 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 3500+ เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS, Linux และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | 30 วัน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 30 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
Ivacy VPN นับเป็นบริษัทสำหรับให้บริการเครือข่ายจากประเทศสิงคโปร์ ที่สามารถให้บริการได้บนหลากหลายแพลตฟอร์ในการใช้งาน ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต หรือแม้แต่เครื่องสมาร์ทโฟน โดยที่จุดเด่นสำคัญของผู้ให้บริการรายนี้ จะเป็นเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยและการเข้ารหัส ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานส่วนต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยในทุกลักษณะการใช้งาน และยังมาพร้อมความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายด้วยความปลอดภัยระดับสูงได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ด้วยในเวลาเดียวกัน
ข้อดี
#4
BULLVPN
รายละเอียด | BULLVPN |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 28 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 100 เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS และ Chrome Extension |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | – |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 20 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 150 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
สำหรับ VPN ตัวนี้จะเป็นผู้ให้บริการภายในประเทศไทย ที่เหมาะสำหรับการใช้งานของผู้ที่กำลังมองหาระบบเครือข่าย ที่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและตอบโจทย์ในระดับพื้นฐาน ด้วยการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 50 เซิร์ฟเวอร์ ที่รองรับการใช้งานได้กับ 15 ประเทศทั่วโลก โดยที่ในส่วนของการใช้งานนั้นจะสามารถติดตั้งและใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย รวมไปถึงยังมีบริการดูแลและแก้ไขปัญหาตลอดอายุการใช้งานอีกด้วย
ข้อดี
#5
TunnelBear
รายละเอียด | TunnelBear |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 49 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 2,600+ เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | ฟรี 500 MB |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 5 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | ฟรี 500 MB |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
TunnelBear เป็นผู้ให้บริการระดับมาตรฐานที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล และการเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยในการใช้งาน รวมไปถึงจากการที่มีเวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีให้สามารถเลือกทดลองได้ จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคน ที่กำลังมองหา VPN เพื่อการทดลองใช้งานเป็นครั้งแรก โดยที่ในด้านของพื้นที่การใช้งานที่เหมาะสม จะยังจะสามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้อย่างไม่จำกัดด้วยเช่นกัน
ข้อดี
#6
NordVPN
รายละเอียด | NordVPN |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 60 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 5,000 เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS, Linux และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | 30 วัน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 7 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 111 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
NordVPN เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการระดับสูง ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ในหลากหลายพื้นที่ของทุกมุมโลก ด้วยจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ให้มาอย่างหลากหลาย และประสิทธิภาพการควบคุมการทำงานไปจนถึงความปลอดภัย ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาให้ในระดับยอดเยี่ยม จากการใช้งานระบบเข้ารหัสระดับกองทัพควบคู่กันกับการเข้ารหัสแบบ 2 ชั้นในเวลาเดียวกัน
ข้อดี
#7
ProtonVPN
รายละเอียด | ProtonVPN |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 1,540 เซิร์ฟเวอร์ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 60 ประเทศ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | ฟรี จำกัดการใช้งาน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 10 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | ฟรี |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Hulu และอื่น ๆ |
หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการเครือข่ายส่วนตัว ที่สามารถทำความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้ในระดับสูง รายนี้จะถือเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจสำหรับคุณอยู่ไม่น้อย ด้วยการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง ที่มีการติดตั้งฐานไว้ในพื้นที่ของ 3 ประเทศ โดยที่ในด้านของความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลนั้น จะใช้งานเป็นระบบเข้ารหัสระดับทหาร และสามารถรองรับการจัดเก็บของข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องและไม่มีจำกัด
ข้อดี
#8
Windscribe
รายละเอียด | Windscribe |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 63 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | – |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS, Linux และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | ฟรี จำกัดการใช้งาน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | – |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 136 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
สำหรับผู้ให้บริการรายนี้จะเป็นอีกหนึ่ง VPN ที่ใช้งานการเข้ารหัสความปลอดภัยระดับทหาร ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงและจัดการกับข้อมูลได้อย่างปลอดภัย ภายใต้การทำงานบนระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย และความสามารถในการครอบคลุมการใช้งานของประเทศกว่า 10 ประเทศ ส่วนในด้านของข้อมูลที่สามารถรองรับการจัดเก็บได้สูงสุดในแต่ละเดือนนั้น ทางผู้ให้บริการจะให้มาในระดับสูงสุดที่ 10 GB เลยทีเดียว
ข้อดี
#9
Avira Phantom VPN
รายละเอียด | Avira Phantom VPN |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 37 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 1,400 เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | – |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | – |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 334 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Fox และอื่น ๆ |
Avira Phantom VPN เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีความน่าสนใจ ด้วยการให้รายละเอียดของเครือข่าย ที่เพียงพอต่อการใช้งานระดับมาตรฐานทั่วไปในเวอร์ชันฟรี ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่ให้มาในระดับ 500 MB, การรองรับแพลตฟอร์มการทำงานบนระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย หรือแม้แต่การเข้าถึงเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ทำได้อย่างหลากหลายและไม่จำกัด
ข้อดี
#10
Hotspot Shield
รายละเอียด | Hotspot Shield |
ประเทศที่ครอบคลุมในการใช้งาน | 73 ประเทศ |
จำนวนเซิร์ฟเวอร์ | 3,200 เซิร์ฟเวอร์ |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานได้ | Windows, MacOS, Android, iOS และอื่น ๆ |
ระยะเวลาการทดลองฟรี | 45 วัน |
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด | 25 อุปกรณ์ |
ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น | 267 บาทต่อเดือน |
ความสามารถในการปรับแต่งบนบล็อก | Netflix, Amazon Prime, Disney+ และอื่น ๆ |
Hotspot Shield เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย VPN ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้บนแพลตฟอร์มอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต ไปจนถึงสมาร์ทดฟน โดยที่ในช่วงเวลาของการใช้งานนั้นบนเว็บบล็อก จะสามารถทำความเร็วในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วสูงสุดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงยังมีบริการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค ในสถานการณ์ที่เกิดความผิดปกติของระบบการทำงานอีกด้วย
ข้อดี
วิธีการเลือกซื้อ
การเลือกใช้ VPN ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยระดับสูงนั้น เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อการใช้งานของคุณเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นสำหรับการใช้งานในระยะยาว ดังนั้นในการพิจารณาเลือกใช้งานเครือข่ายให้ดีได้มากที่สุด จึงควรให้ความสำคัญกับรายละเอียดส่วนต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้งานผู้ให้บริการที่เหมาะสม และตอบโจทย์การใช้งานตามความต้องการของคุณได้อย่างตรงจุดมากที่สุด แต่หากคุณยังไม่ค้นพบตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณบนโลกออนไลน์ ที่มีให้เราเลือกใช้งานกันได้อยู่เป็นจำนวนมาก ก็สามารถลองตัดสินใจเลือกใช้งานดูจากทั้งหมด 10 รุ่น ที่เราได้แนะนำไปและเชื่อมว่าจะต้องถูกใจคุณอย่างแน่นอนได้เลย